ชีวิตจริงทหารกระหายเลือด ผู้แฝงตัวรบให้ฟินแลนด์ อเมริกา และนาซี!!

ช่วงสงครามโลกคือช่วงเวลาที่เป็นดั่งนรก ขอบเขตของผลกระทบลุกลามไปทุกหนทุกแห่ง และนั่นทำให้หนุ่มหลายคนต้องก้าวมาเป็นทหาร หลายคนเป็นทหารที่ดี และหลายคนก็คลั่งสงคราม…

Larry Thorne  คือทหารปริศนาระดับตำนานคนหนึ่ง เพราะเขาคือชายที่ยืนหยัดอยู่ในทุกสงครามความขัดแย้ง ต่างฝัก ต่างฝ่าย เขาแฝงตัวเข้าไปรบให้ทั้งฟินแลนด์ อเมริกา และนาซี ซึ่งนี่ฟังดูบ้ามากและแทบเป็นไปไม่ได้ หลายคนสงสัยว่าเขาเป็นสายลับรึไง แต่เปล่าเลย…

นักประวัติศาสตร์สงครามระบุว่าชีวิตนายทหารคนนี้คือเรื่องจริง และแท้จริงแล้วเขามีชื่อว่า ‘Lauri Torni’  เกิดในฟินแลนด์ปี 1919 และร่วมสู้ในสงครามขณะที่สหภาพโซเวียตรุกรานประเทศตอนปี 1939-1940 ในช่วงนั้นเขาคือทหารที่ฉายแววและได้ติดยศระดับผู้กองในเวลาอันสั้น เขาคือทหารยอดฝีมือที่คุม “หน่วยรบสกี” ซึ่งเป็นหน่วยขึ้นชื่อของฟินแลนด์ โดยจะรบด้วยการใช้ความได้เปรียบจากสกีที่เคลื่อนที่บนหิมะได้อย่างรวดเร็วเหนือศัตรู

ในปี 1942 เขาสกีไปโดนระเบิดบาดเจ็บ แต่เมื่อหายเจ็บเขาก็รบต่อจนปี 1944 ได้เหรียญกล้าหาญ แต่น่าเศร้าที่สุดท้ายฟินแลนด์ก็พ่ายแพ้ต่อการรุกรานของสหภาพโซเวียตในช่วงนั้นเอง…ทหารทุกคนถอดใจ แต่ไม่ใช่กับ  Lauri Torni ผู้เคียดแค้นโซเวียต

เขาได้ตัดสินใจพลิกผันชะตาครั้งใหญ่ ทำในสิ่งที่หลายคนคิดว่าเป็น ‘การหักหลังประเทศ’ โดย Lauri Torni ได้เข้าไปสมัครเป็นทหารนาซีที่เรียกกันว่า ‘German SS’ และเหตุผลที่เขาทำเช่นนั้น ก็เพราะว่านาซีกำลังมีปมขัดแย้งกับโซเวียต หรือจะพูดอีกแบบก็คือเขาไม่ได้เข้าข้างเยอรมัน แต่เขายอมมาอยู่ที่นี่เพื่อมีโอกาสที่จะปลดปล่อยความแค้นใส่พวกโซเวียต

ในหน่วยทหารเยอรมัน เขาเป็นนายทหารที่ได้รับการฝึกอย่างดี และรบอย่างบ้าคลั่ง แต่แล้วเส้นทางทหารก็จบสิ้นลงอีกเมื่อถูกทหารฝ่ายสัมพันธมิตรอังกฤษจับตัวได้…ภายหลัง   Lauri Torni ถูกส่งกลับประเทศฟินแลนด์ ที่นั่นเขาถูกตัดสินจำคุก 6 ปีในข้อหาทรยศประเทศชาติ มันเป็นเรื่องตลกร้ายที่เขาโดนประเทศของตนตัดสินโทษแบบนั้น ทั้งๆที่ได้เหรียญกล้าหาญ

แต่โชคชะตาก็ยังเข้าข้างอยู่บ้าง เพราะสุดท้ายเขาต้องโทษเพียงแค่ครึ่งหนึ่งเนื่องจากประธานาธิบดีฟินแลนด์ประกาศอภัยโทษในปี 1948 และคุกแห่งนั้นก็ไม่ได้ทำให้เขาหยุดกระหายสงครามลงเลยสักนิด เพราะหลังจากนั้น Torni ก็ลักลอบหนีเข้าอเมริกา เขาสมัครเข้ากองทัพอเมริกาทันที เพราะตอนนั้นมีนโยบายหากรับใช้ได้อย่างดีเป็นเวลา 5 ปี ก็จะมอบสัญชาติให้

นับจากนั้นเขาก็ทุ่มเทอย่างหนักจนได้สิทธิ์เข้าไปลิ้มลองรสชาติหน่วยรบพิเศษที่ Fort Bragg, North Carolina นักประวัติศาสตร์เล่าว่า “ในช่วงเวลาอันบ้าคลั่งนั้น พวกสหภาพโซเวียตพยายามจับกุมตัวเค้าและบีบบังคับให้ฟินแลนด์กุมตัวชายคนนี้ พวกเขาต้องการทหารรายนี้ขึ้นศาลที่มอสโคว์ และหนึ่งในทหารระดับสูงของเยอรมันก็ยังมองว่าชายผู้นี้เป็นภัย”

แต่ในที่สุดเขาก็ก้าวสู่หนึ่งในตำนานของทหารสหรัฐ และเปลี่ยนชื่อเป็น  Larry Thorne  ที่นี่เขาแข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อ และได้ก้าวสู่ตำแหน่งสูงๆอย่างรวดเร็ว ตลอดจนทำภารกิจระห่ำมากมายในเวียดนามได้สำเร็จ

เท่านั้นไม่พอครั้งหนึ่งผู้กอง Larry Thorne เคยได้รับมอบหมายให้ไปค้นหาเอกสารลับในซากเครื่องบินของกองทัพ ที่ถูกข้าศึกยิงพลัดตกในหุบเขาพรมแดน อิหร่าน-ตุกรี-โซเวียต ซึ่ง 3 หน่วยที่ถูกส่งไปก่อนหน้าล้มเหลวหมด แต่หน่วยของ  Larry Thorne ทำสำเร็จ ในเวียดนามเขาได้รับเหรียญเชิดชูความกล้าหาญ และห้าสัญลักษณ์หัวใจสีม่วงสำหรับบาดแผลจากการต่อสู้ เขาคือทหารที่เป็นดั่งเครื่องจักรสงครามเลยก็ว่าได้ แต่แล้วก็มาถึงจุดที่เขาพลาดท่า วันที่ 18 ตุลาคม ปี 1965 เขาต้องมุ่งจากพรมแดนลาวสู่เวียดนาม แต่หลังจากปฏิบัติภารกิจเสร็จและต้องกลับฐานทัพ เฮลิคอปเตอร์ก็ถูกอากาศที่เลวร้ายเล่นงานจนตก

ซากของเครื่องบินถูกพบ แต่ศพของ  Larry Thorne หายไป  ในช่วงเวลานั้นหลายคนไม่เชื่อว่าชายคนนี้จะตาย เพราะเขาคือสุดยอดทหารบางทีเขาอาจจะแฝงตัวอยู่ที่ใดสักแห่ง และรบให้ใครสักคนอยู่ก็เป็นได้  ปริศนาศพของเค้าเป็นที่ถกเถียงกันมายาวนาน กว่าทุกอย่างจะคลี่คลายก็ปาไปปี 1999 เมื่อโครงร่างของ Larry Throne ถูกพบห่างออกไปจากจุดเกิดเหตุ และนั่นก็เป็นจุดจบปิดตำนานของหนึ่งในทหารที่กระหายสงครามที่สุดในประวัติศาสตร์ เขาสังหารคนไปมากมาย แต่เขาก็ช่วยชีวิตคนไว้มากมายเช่นกัน