Linux สร้างรายได้และโอกาสได้มากกว่า
Linux เป็นระบบปฏิบัติการแบบ Open Source ก็คือระบบเปิด ที่ผู้ใช้ Linux ทุกคนสามารถนำระบบ นี้ไปดัดแปลงเป็นระบบอื่นๆ ที่เป็นของตัวเองได้ โดยเมื่อพัฒนาเสร็จแล้ว ก็สามารถนำไปขายลิขสิทธิ์ให้กับผู้อื่นใช้งานได้ ไม่จำเป็นที่จะต้องให้ใช้งานฟรีเพียงอย่างเดียว หรืออาจใช้ระบบที่ Linux มีอยู่แล้วไปสร้างรายได้หรืออาชีพรับติดตั้ง ระบบต่างๆ ให้กับหน่วยงานหรือองค์กรอื่นได้ นี่จึงเป็นข้อดีที่โดดเด่นมากๆ เมื่อนำ Linux ไปใช้งานแทน Windows ก็คือ เราจะมีต้นทุนหรือค่าใช้จ่ายที่ต่ำมาก เพราะไม่ต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์ให้กับ Microsoft แต่เราสามารถคิดค่าลิขสิทธิ์ กับลูกค้าที่มาใช้ระบบที่เราพัฒนามาจาก Linux ได้
ตัวอย่างเช่น เมื่อเราศึกษา Linux ในระดับหนึ่งแล้ว ก็สามารถนำ Linux ไปพัฒนาเป็น Router หรือ Firewall ที่เป็นระบบของเราเอง เพื่อขายเป็นฮาร์ดแวร์หรือค่าบริการกับลูกค้าได้ หรือถ้าเป็น Admin ประจำบริษัท โดยค่าตัวส่วนใหญ่ของ Admin ที่ดูแลระบบ Linux จะมีรายได้ต่อเดือนที่สูงกว่า Admin ฝั่ง Windows Server หรือถ้าจะให้ดีไปกว่านั่น ผมแนะนำว่าเราควรต้องศึกษาทั้ง 2 ระบบควบคู่กันไป เพราะไม่ได้มีระบบใดระบบ หนึ่งที่ดีไปกว่ากัน แต่ทั้ง 2 ระบบมีจุดเด่น จุดด้อยที่แตกต่างกัน เราควรเลือกใช้ให้เหมาะสมกับงานของเรามากกว่า ที่จะเลือกใช้ให้เหมาะกับลูกค้าหรืองบประมาณของเราให้คุ้มค่ามากที่สุดนั่นเอง
อย่างที่ได้บอกไปแล้วว่า ทั้ง Linux และ Windows ล้วนมีจุดเด่นและจุดด้อยของตัวเอง จะใช้งานได้อย่าง มีประสิทธิภาพขึ้นอยู่กับคนใช้งานมากกว่า ว่าจะศึกษาระบบที่เราเลือกใช้ได้ลึกพอหรือไม่ และรู้จักเลือกใช้ให้เหมาะสม เพียงใด และที่สำคัญต้องรู้จักประยุกต์ใช้ได้ในสถานะการณ์ต่างๆ ด้วย แต่อย่างไรก็ตาม ก็ต้องยอมรับว่า ถ้าเลือกใช้ Linux โอกาสในการนำไปพัฒนาต่อยอดหรือประยุกต์ใช้กับระบบงานต่างๆ จะมีโอกาสที่ดีกว่า ทั้งในด้าน การให้บริการ Services ต่างๆ ในระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ด้านความปลอดภัยของระบบ ด้านการนำไปพัฒนาร่วมกับฮาร์ดแวร์ ต่างๆ หรือระบบ Internet of Thing เป็นต้น