เนื่องจากหนุมานนั้นเป็นทหารอาสา จึงมักทำภารกิจสุ่มเสียงในหลายๆครั้ง การเผากรุงลงกาก็เป็นอีกภารกิจหนึ่งที่มีความเสี่ยงสูง แต่หนุมานก็สามรถทำสำเร็จแม้จะเป็นเพียงระยะเวลาสั้นๆ เนื่องจากหลังเผากรุงลงกาจนวายวอดได้ไม่นานนัก ทศกัณฐ์ก็สามารถบูรณะซ่อมแซมขึ้นใหม่ได้จากการส่งทูตไปทูลขอให้พระอินทร์ส่งตัวพระวิษณุกรมมาเป็นสถาปนิกเนรมิตกรุงลงกาขึ้นใหม่
ซึ่งหากมองอีกแง่หนึ่ง การเผากรุงลงกานี้ อาจไม่ใช่แค่การเผาบ้านเผาเมืองทั่วไป แต่อาจหมายถึงการสร้างกระแสข่าวลวงบางประการขึ้นเพื่อให้เกิดความโกลาหลเป็นไฟลามทุ่งทั่วกรุงลงกาก็เป็นได้ ซึ่งผู้สร้างกระแสข่าวนั้นก็คือ ตัวหนุมานเองที่อาศัยเพลิงพระราชทานที่ทศกัณฐ์เป็นคนจุดเอง แล้วก็ปล่อยให้ไฟนั้นเผาตัวเอง จากนั้นจึงลากไฟที่เผาตัวเองไปรอบเมือง
ที่มาของข่าวกุที่หนุมานยอมเปลืองตัวให้ทศกัณฐ์จุดขึ้นนี้ยังไม่แน่ชัด แต่อาจเกี่ยวข้องกับการตัวหนุมานเองที่ปิดบังฐานะทหารเอกพระรามแต่แสดงความสามารถผ่านการทดสอบอันหนักหน่วงต่างๆนาๆจนทศกัณฐ์อยากได้ตัวมารับใช้ ซึ่งการทดสอบเหล่านี้ถูกสะท้อนออกมาในรูปการประหารหนุมานด้วยวิธีต่างๆ เช่น การประหารด้วยดาบ การตำด้วยสากเหล็ก การใช้ช้างแทงงาใส่ ซึ่งหนุมานสามารถผ่านการทดสอบทุกประการได้อย่างไม่น่าเชื่อ ดังนั้น แม้ว่าทศกัณฐ์จะไม่รู้หัวนอนปลายเท้าของหนุมานเลยแต่ก็พอใจในความสามารถมาก จึงเสนอให้หนุมานอยู่ช่วยงานตนในลงกาแทน(คล้ายๆว่า ทศกัญฐ์เองก็คิดอยากจัดตั้งกองกำลังนานาชาติบ้าง โดยเริ่มจากหนุมานเป็นตัวทดลองก่อน) แต่หนุมานนั้นกลับบอกว่าตนบอบช้ำจากการทดสอบมามากแล้ว คงไม่อาจทนอยู่ต่อได้ จึงเสนอให้จุดไฟเผาตนเสียเพื่อให้หมดทุกข์ไป ทศกัณฐ์จึงมอบเพลิงพระราชทานเผาร่างหนุมานด้วยตนเองทันที ซึ่งตอนนี้ ยังไม่ทราบชัดว่า "เพลิงพระราชทาน" ของทศกัณฐ์นี้ คือสิ่งใดกันแน่ เพราะหนุมานเป็นคนขอโดยไม่ได้เจาะจง แต่ทศกัณฐ์กลับเป็นคนพระราชทานให้ด้วยตัวเอง เพลิงนี้จึงอาจเป็นทั้งตำแหน่ง สิทธิพิเศษ รึอะไรก็ได้ทั้งสิ้น และหลังจากหนุมานรับเพลิงพระราชทานมาแล้ว ก็ได้ลากเพลิงที่หุ้มกายตนไปจนทั่วกรุงลงกาเพื่อสร้างและกระพือความโกลาหลให้เกิดขึ้นเป็นไฟลามไหม้ทั้งลงกา
ทว่า ทศกัณฐ์นั้นรู้ทัน จึงได้ซ้อนแผนซ้อนแผนหนุมานไว้ล่วงหน้าแล้ว เพราะตอนที่หนุมานขอให้จุดไฟเผาตนนั้น หนุมานไม่ได้ระบุให้ใครเป็นคนจุดไฟ แต่ทศกัณฐ์กลับกุลีกุจอรีบตัดบทขอมอบเพลิงพระราชทานให้หนุมานด้วยตัวเอง แสดงว่าทศกัณฐ์คิดซ้อนแผนหนุมานมาตั้งแต่แรกแล้ว แต่ตอนนั้นหนุมานไม่รู้ตัวเลย(คนอ่านยังไม่มีใครรู้เลย มองข้ามจุดนี้กันมาเป็นร้อยปี เพิ่งมาสังเกตเห็นกันเดี๋ยวนี้เอง) ดังนั้น เมื่อหนุมานเริ่มเผาลงกา ทศกัณฐ์จึงนำเหล่าเชื้อพระวงศ์และขุนนางอำมาตย์ไปกบดานยังเขาสัตนาที่อยู่ใกล้เคียงอย่างปลอดภัยจากไฟข่าวนั้น
ซึ่งหลังจากเกิดความโกลาหลจากหนุมานเป็นเหตุจนไหม้ลามมอดทั่วทั้งลงกาแล้ว ทศกัณฐ์จึงจัดการดับเพลิงข่าวดังกล่าวด้วยการนำองค์ความรู้ส่วนหนึ่งจากระบบพระอินทร์สร้างเมืองมาบูรณะปฏิรูประบบโครงสร้างสังคมลงกาขึ้นมาใหม่ได้สำเร็จ(ทศกัณฐ์คงวางแผนปฏิรูปโครงสร้างสังคมของลงกามานานแล้วแต่ไม่มีเหตุมาอ้างให้ปฏิรูป พอหนุมานโผล่มาเลยได้ข้ออ้างให้ปฏิรูปโครงสร้างทันที)
เหตุการณ์จึงกลับกลายเป็นว่า ทศกัณฐ์ซึ่งเป็นผู้เริ่มจุดไฟสร้างปัญหา สามารถดับไฟปัญหาที่ตัวเองก่อขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถเรียกคะแนนจากชาวลงกาได้อีกอักโข ไฟที่หนุมานอุตส่าห์เปลืองตัวยอมโดนเผาจึงกลับกลายเป็นโอกาสทองให้ทศกัณฐ์ใช้เป็นเครื่องมือในการเพิ่มฐานอำนาจของตัวทศกัณฐ์เองให้มั่นคงยิ่งขึ้นไปอีก
และหลังจากการใช้เศษเสี้ยวจากองค์ความรู้ในระบบพระอินทร์สร้างเมืองปฏิรูประบบโครงสร้างของสังคมลงกาขึ้นมาใหม่จนมั่นคงแข็งแรงยิ่งกว่าเดิมแล้ว ทศกัณฐ์ก็ได้จัดงานฉลองสมโภชกรุงลงกาที่บูรณะขึ้นมาใหม่นี้ติดต่อกันอีกหลายวันคืน เหมือนเย้ยเเป็นนัยๆว่า แผนการเผาลงกาของหนุมานนั้นทำอะไรทศกัณฐ์ไม่ได้เลย
ส่วนหนุมานเองนั้น หลังเผาลงกาจนวอดก็แล้วก็ยังเหลือไฟติดอยู่ที่หางซึ่งไม่ยอมดับ ซึ่งไฟนี้อาจเป็นผลพวงจากการใช้ตัวเองเป็นตัวนำข่าวกุไปแพร่ทั่วลงกา จึงหลงเหลือข้อครหาติดตัวหนุมานมา พระนารทฤๅษีจึงแนะให้ใช้น้ำบ่อน้อยในปากหนุมานเองจึงจะดับไฟได้ ซึ่งน้ำลายในปากหนุมานนี้อาจหมายถึงการที่หนุมานต้องใช้คำพูดของตัวเองเพื่อดับข้อครหา และหลังจากดับไฟได้ หนุมานจึงกลับสู่กองทัพพระราม
กล่าวโดยสรุป แผนการนี้ล้มพับไม่เป็นท่า เพราะนอกจากจะไม่อาจสั่นคลอนทศกัณฐ์ได้แล้ว ตัวหนุมานเองยังมีข้อครหาที่ต้องแก้ต่างให้ตัวเองจนพ้นผิดติดตัวกลับมาอีก แต่ก็ยังมีข้อดีอยู่ คือ หนุมานได้ข้อมูลภายในบางส่วนของกรุงลงกากลับมารายงานให้ทางกองทัพทราบ ทำให้รู้ว่า ทศกัณฐ์ คือ นักปกครองที่จะประมาทไม่ได้เด็ดขาด(แต่หลังจากเสียที่ปรึกษาคนสำคัญซึ่งเป็นน้องชายแท้ๆอย่างพิเภกไป ทศกัณฐ์ก็เสียศูนย์ทำได้แค่ส่งบริวารและญาติของตัวเองไปตายอย่างต่อเนื่อง)