“แผ่นดินอาบยาพิษ” ไทยนำเข้าสารเคมีมาก เท่ากับตึกใบหยก!
รู้หรือไม่? น้ำไม่ได้ล้างยาฆ่าแมลงออกหมดได้ทุกชนิด และใช้ไม่ได้ผลกับสารเคมีบางตัว เพราะมันถูกดูดซึมเข้าถึงเนื้อในและตกค้าง จนสามารถก่อให้เกิดอันตรายได้มากกว่าที่เราคาดคิดไว้ เฟซบุ๊ก ขบวนการสร้างเสริมสุขภาพประชาชนได้ให้ข้อมูลที่ไทยนำเข้าสารเคมีมากจนน่าตกใจ สารเคมีเยอะเกินไปก่อให้เกิดพิษบนแผ่นดิน และปนเปื้อนพืช สัตว์ อาหาร กลับมาสู่มนุษย์ ก่อให้เกิดอันตราย สุขภาพแย่ เจ็บป่วย เป็นมะเร็งได้.. โดยทาง เพจฯได้ระบุข้อมูลเอาไว้ว่า...
คงไม่ใช่ความน่าภาคภูมิใจแน่ๆ สำหรับการที่ประเทศไทยมีการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช (ทั้งแมลงและวัชพืช) นับเป็นอันดับต้น ของโลก (อันดับ 4 จากข้อมูล FAOSTAT ปี 2007)
ปริมาณการนำเข้าสารตั้งต้นเพื่อใช้ในการผลิตจึงมหาศาลเป็นเงาตามตัว ถ้าให้เห็นภาพก็มากขนาดที่ว่ากองต่อกันได้สูงเท่าตึกใบหยกสองเลยทีเดียว (ประมาณ 520,000 ตัน จากสถิติปี 2554) ทำให้หลายคนให้สมญานามว่า “แผ่นดินอาบยาพิษ”
ปริมาณดังกล่าว เมื่อแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์กำจัดศัตรูพืช ประเมินอยู่ที่ประมาณ 6-8 หมื่นล้านบาท เม็ดเงินมูลค่ามหาศาลนี้จึงนับเป็นผลประโยชน์ก้อนโตที่อยู่ในมือของบรรษัทข้ามชาติยักษ์ใหญ่ไม่กี่เจ้าที่ครองตลาดในไทย จึงไม่น่าแปลกใจบรรษัทเหล่านี้รวมถึงบริษัทรายย่อยเจ้าอื่นๆ อีกจำนวนมาก จะส่งเสริมเกษตรกรให้ใช้ผลิตภัณฑ์มากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยวิธีการต่างๆนานา
หันมามองกลไกภาครัฐที่ควรควบคุมสารอันตรายเหล่านี้ เพื่อให้สุขภาวะของประชาชนในชาติแข็งแรงสมบูรณ์ กลับพบว่าอ่อนแออย่างเหลือเชื่อ ไม่ว่าจะเป็น
1. กลไกในการควบคุมสารเคมีกำจัดศัตรูพืช เช่น ระบบการขึ้นทะเบียนสารเคมีกำจัดศัตรูพืช เปิดโอกาสให้ขึ้นทะเบียนการค้าสารเคมีการเกษตรถึง 27,000 รายการ ซึ่งอาจมากที่สุดในโลก ทำให้ผู้ผลิตบางเจ้าผลิตเป็นสูตรต่างๆหรือยี่ห้อใหม่ๆเพื่อดันยอดขายให้มากขึ้น
2. กลไกควบคุมการส่งเสริมทางการจัดจำหน่ายและการตลาด ที่เต็มไปด้วยช่องโหว่ที่ยังไม่มีกฎระเบียบควบคุมการโฆษณาและส่งเสริมการขาย ทำให้สามารถ ลดแลกแจกแถม ขายพ่วง ฯลฯ ได้มากกว่า เหล้าหรือบุหรี่ด้วยซ้ำ
3. การบังคับใช้กฎหมายอย่างโปร่งใสและเคารพการมีส่วนร่วมของประชาชนตามที่กฎหมายบัญญัติ
จึงไม่น่าแปลกใจ หากท้ายที่สุด ผู้รับเคราะห์จากสารพิษตกค้างนี้ก็คือ คนไทยทั่วไปที่เป็นเหยื่อของผู้ประกอบการอย่างแทบไม่มีทางเลี่ยง ตราบเท่าที่ผู้กี่ยวข้องยังมองเห็นผลประโยชน์มากกว่าสุขภาพของประชาชน และตราบเท่าที่ภาครัฐยังคงไม่มีความกระตือรือร้นล้นในการปิดรอยรั่วนี้
Thai-PAN เคยมีการสำรวจและพบว่า ผักผลไม้ที่มีจำหน่ายอยู่ทั
ภัยจากการใช้สารเคมีกำจัดศั
การล้างน้ำเป็นสิ่งที่หลายค
อย่างไรก็ตาม นอกจากพบการสิ่งปนเปื้อนตกค
https://www.facebook.com/hpmsocial/photos/a.448884478646926.1073741827.426140427587998/677903592411679/?type=3&theater