5 ภาพยนตร์รักในอดีต ที่ติดอยู่ในความทรงจำ

© รูปต้นฉบับ

เรื่องราวความรักของ เจี๊ยบ และ น้อยหน่า ที่ก่อตัวขึ้นจากมิตรภาพ และจบลงด้วยเรื่องราวที่คาดเดาไม่ถึง ซีนตัดหนังยาง และประโยค “เจี๊ยบตัดหนังยางเราทำไม” ยังจำขึ้นใจ และตราตรึงในความทรงจำจวบจนถึงปัจจุบัน เรียกได้ว่าเป็นหนังรัก ที่ดังพอสมควรในช่วงเวลานั้น อีกทั้งบทเพลงของ สาวสาวสาว ไม่ว่าจะเป็น ประตูใจ, รักคือฝันไป หรือแม้แต่เพลง รักครั้งแรก ของวงชาตรี ก็ยังคงเป็นบทเพลงที่คุ้นหู และคุ้นใจของเราเสมอและตลอดมา

2. รถไฟฟ้ามาหานะเธอ

© รูปต้นฉบับ

หนังรักคอมเมดี้ ที่เดิมพันด้วยหัวใจของสาวโสดอย่าง “เหม่ยลี่” ที่ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยลิ้มลองความรัก และการมีแฟนมาแม้แต่ครั้งเดียว จนเมื่อได้เจอกับคุณ “ลุง” หนุ่มหล่อหน้าใส ดีกรีวิศวกรรถไฟฟ้า จนเหม่ยลี่ถึงขั้นเอ่ยปากออกว่า “คนนี้พี่ขอ” เรียกได้ว่าเป็นโอกาสเดียว หรืออาจะเป็นโอกาสสุดท้าย ที่จะลงมาจากคานได้ เรียกได้ว่าเป็นหนังรักที่เคล้าไปด้วยน้ำตาและเสียงหัวเราะ และประโยคที่ว่า “แฟนเค้าไม่ได้มีเพื่อให้อยู่ด้วยกันตลอดเวลา แต่มีเพื่อให้ได้รู้ว่า ยังมีคนที่รักและห่วงเรา” เป็นประโยคที่โดนใจในบทภาพยนตร์ที่ทำให้หลายๆคน เอาไปขึ้นเป็นสเตตัสเลยทีเดียว

3. รักแห่งสยาม

© รูปต้นฉบับ

บรรยากาศหนาวกำลังผ่านเข้ามา ทำให้นึกถึงหนังรักเรื่องหนึ่ง ที่อาจจะถือว่าเป็นเรื่องที่บุกเบิกเรื่องราวความรักของเพศที่สามของเมืองไทยเลยก็ว่าได้ จำได้เลยว่าในตอนแรกก็โดนกระแสในแง่ลบพอสมควร แต่ด้วยเนื้อหาที่ดี ก็มีกระแสความชื่นชอบมากเช่นเดียวกัน หากมองให้ลึกลงไปจริงๆ เรื่องนี้ได้สอนอะไรเราได้หลายๆอย่าง จนทำให้เรามองข้ามของมุมมองความรักที่อาจจะแปลกไปในยุคสมัยนั้น ก็คงเป็นเพราะว่า หนังเรื่องนี้ไม่ใช่หนังเกย์ แต่นี่คือหนังรักนั่นเอง

4. ม.3 ปี 4 เรารักนาย

© รูปต้นฉบับ

เริ่มต้นด้วยกลิ่นอายของยุคโซเซี่ยลในครั้งยุคเริ่มแรก โดยโปรแกรมสนทนาชื่อดังอย่าง MSN จากเด็กหนุ่มกรุงเทพฯ อย่าง “นัท” ได้รู้จักกับ “เจน” ที่เรียนอยู่ต่างจังหวัด เกิดเป็นความรักระยะไกล ที่พิสูจน์ใจใครหลายๆคน เป็นเรื่องราวความรักดีๆ แต่ก็หักมุมพอสมควร ถือว่าเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ที่ตราตรึงอยู่ในความทรงจำอยู่พอสมควร

5. Seasons change เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย

© รูปต้นฉบับ

ส่งท้ายกันไปด้วยหนังรัก ที่ประกอบไปด้วยเรื่องราวความสัมพันธ์ของเด็กวันรุ่น 3 คน ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ที่มหาวิทยาลัยที่ทำการเรียนการสอนในเรื่องของดนตรี สิ่งแรกเลยที่เห็นได้จากเรื่องนี้ คือ ความรัก สามารถผลักดันและทำให้ทุกๆอย่างเป็นจริงได้ เพราะพระเอกของเรื่องอย่าง “ป้อม” ผู้ที่มีความสามารถในด้านการตีกลอง แต่ก็มิได้มีความสนใจในด้านดนตรีแม้แต่น้อย แต่เพราะความรัก จึงทำให้เขาสอบเข้าวิทยาลัยดนตรีได้ เป็นความรักที่นำเสนอได้หลายแง่มุม ทั้งครอบครัว สภาพสังคมและเพื่อน ซึ่งความรักนี้ล่ะ ก็มีการเปลี่ยนแปลง และแปรปรวนไปมา จนเหมือนกับว่าเป็นฤดูกาลที่เปลี่ยนไป

ว่ากันว่า ตราบใดที่เรายังนับดาวบนท้องฟ้าได้ไม่หมด นั้นก็เท่ากับว่าเรายังคงหาคำตอบไม่ได้หรอกว่า “ความรัก” คืออะไร

เคยลองถามตัวเองดูไหม ว่าเรารู้จัก “ความรัก” มากสักแค่ไหน ? แต่เมื่อขึ้นชื่อว่าเป็นความรักแล้ว เราจะสร้างนิยาม เหตุผล หรือคำตอบตายตัว ก็คงจะไม่ได้สักทีเดียว และเราคงจะได้เข้าใจ “ความรัก” ก็ในวันที่เราได้ “รัก” ใครสักคน นั่นเอง