สร้างทาวน์เฮาส์แบบนี้ขายไม่ออก!!
ทาวน์เฮาส์เป็นสินค้ายอดนิยม เพราะหลายคนยังอยากอยู่ "ติดดิน" แทนที่จะอยู่บนตึกแบบอาคารชุด แต่ก็มีทาวน์เฮาส์อยู่บางทำเล บางระดับราคาที่น่าใจหาย ขายได้ช้า อาจไม่แล้วเสร็จตามที่คาดหวัง ใครซื้อไปอาจผิดหวัง ใครคิดที่จะสร้าง ก็ต้องสังวร
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) ได้สำรวจพบว่าโครงการทาวน์เฮาส์ในบางทำเลอาจมีปัญหาในการขาย และจึงเป็นสินค้าที่ไม่ควรทำการพัฒนาซ้ำ
เพราะไม่น่าจะขายได้ สถาบันการเงินใดให้สินเชื่อกับสินค้าเหล่านี้ อาจจะมีปัญหาหนี้เสียได้ แต่ทั้งนี้บางโครงการในกลุ่มนี้ ก็อาจไม่เป็นเหมือนภาพรวมได้ ดังนั้นในการใช้ข้อมูลต้องมีการตรวจสอบให้แน่ชัดด้วย
สำหรับอันดับโครงการทาวน์เฮาส์ที่มีปัญหา เป็นดังนี้:
อันดับที่ 1 ทำเล K4: อ้อมน้อย ณ ระดับราคา 3.001-5.000 ล้านบาท หรือเฉลี่ยหน่วยละ 3.759 ล้านบาท มีอัตราการขายต่ำมากเพียง 0.45% ต่อเดือน ขณะนี้ยังมีเหลือขายอีก 112 หน่วย คาดว่าจะต้องใช้เวลาขายอีกนานถึง 175 เดือน ราคาคงสูงเกินไปในย่านนี้ คงไปต่อไม่ได้แล้ว
อันดับที่ 2 ทำเล A4: รังสิต คลอง 7-16 ณ ระดับราคา 2.001-3.000 ล้านบาท หรือเฉลี่ยหน่วยละ 2.090 ล้านบาท มีอัตราการขายต่ำมากเพียง 0.45% ต่อเดือน ขณะนี้ยังมีเหลือขายอีก 474 หน่วย คาดว่าจะต้องใช้เวลาขายอีกนานถึง 215 เดือน ราคาคงสูงเกินไปในย่านนี้ คงไปต่อไม่ได้แล้ว
อันดับที่ 3 ทำเล E3: หนองจอก ณ ระดับราคา 2.001-3.000 ล้านบาท หรือเฉลี่ยหน่วยละ 2.323 ล้านบาท มีอัตราการขายต่ำมากเพียง 0.52% ต่อเดือน ขณะนี้ยังมีเหลือขายอีก 313 หน่วย คาดว่าจะต้องใช้เวลาขายอีกนานถึง 160 เดือน ราคาคงสูงเกินไปในย่านนี้ คงไปต่อไม่ได้แล้ว
อันดับที่ 4 ทำเล H9: บางนา-ตราด กม.30 ขึ้นไป ณ ระดับราคา 2.001-3.000 ล้านบาท หรือเฉลี่ยหน่วยละ 2.185 ล้านบาท มีอัตราการขายต่ำมากเพียง 0.56% ต่อเดือน ขณะนี้ยังมีเหลือขายอีก 39 หน่วย คาดว่าจะต้องใช้เวลาขายอีกนานถึง 150 เดือน ราคาคงสูงเกินไปในย่านนี้ คงไปต่อไม่ได้แล้ว
อันดับที่ 5 ทำเล E4: สุวินทวงศ์ ณ ระดับราคา 0.500-1.000 ล้านบาท หรือเฉลี่ยหน่วยละ 0.999 ล้านบาท มีอัตราการขายต่ำมากเพียง 0.64% ต่อเดือน ขณะนี้ยังมีเหลือขายอีก 121 หน่วย คาดว่าจะต้องใช้เวลาขายอีกนานถึง 99 เดือน อาจเป็นปัญหาเฉพาะบางโครงการ
อันดับที่ 6 ทำเล J1: ป้อมพระจุล ณ ระดับราคา 2.001-3.000 ล้านบาท หรือเฉลี่ยหน่วยละ 2.660 ล้านบาท มีอัตราการขายต่ำมากเพียง 0.66% ต่อเดือน ขณะนี้ยังมีเหลือขายอีก 376 หน่วย คาดว่าจะต้องใช้เวลาขายอีกนานถึง 132 เดือน อาจเป็นปัญหาเฉพาะบางโครงการ
อันดับที่ 7 ทำเล E2: นิมิตรใหม่ ณ ระดับราคา 1.001-2.000 ล้านบาท หรือเฉลี่ยหน่วยละ 1.538 ล้านบาท มีอัตราการขายต่ำมากเพียง 0.79% ต่อเดือน ขณะนี้ยังมีเหลือขายอีก 261 หน่วย คาดว่าจะต้องใช้เวลาขายอีกนานถึง 36 เดือน คงเป็นปัญหาเฉพาะบางโครงการเท่านั้น
อันดับที่ 8 ทำเล M4: นครชัยศรี ณ ระดับราคา 3.001-5.000 ล้านบาท หรือเฉลี่ยหน่วยละ 3.721 ล้านบาท มีอัตราการขายต่ำมากเพียง 0.82% ต่อเดือน ขณะนี้ยังมีเหลือขายอีก 46 หน่วย คาดว่าจะต้องใช้เวลาขายอีกนานถึง 106 เดือน คงไปต่อไม่ไหวแล้ว ราคาคงสูงเกินไปในย่านนี้
อันดับที่ 9 ทำเล E1: หทัยราษฎร์ ณ ระดับราคา 5.001-10.000 ล้านบาท หรือเฉลี่ยหน่วยละ 5.835 ล้านบาท มีอัตราการขายต่ำมากเพียง 0.84% ต่อเดือน ขณะนี้ยังมีเหลือขายอีก 138 หน่วย คาดว่าจะต้องใช้เวลาขายอีกนานถึง 79 เดือน ราคาคงสูงเกินไปในย่านนี้
อันดับที่ 10 ทำเล C1: รัตนาธิเบศร์-เซ็นทรัลเวิร์ล ณ ระดับราคา 2.001-3.000 ล้านบาท หรือเฉลี่ยหน่วยละ 2.990 ล้านบาท มีอัตราการขายต่ำมากเพียง 0.85% ต่อเดือน ขณะนี้ยังมีเหลือขายอีก 68 หน่วย คาดว่าจะต้องใช้เวลาขายอีกนานถึง 81 เดือน ทำเลอาจไม่เหมาะสม
อันดับที่ 11 ทำเล E5: ฉลองกรุง ณ ระดับราคา 2.001-3.000 ล้านบาท หรือเฉลี่ยหน่วยละ 2.199 ล้านบาท มีอัตราการขายต่ำมากเพียง 0.87% ต่อเดือน ขณะนี้ยังมีเหลือขายอีก 90 หน่วย คาดว่าจะต้องใช้เวลาขายอีกนานถึง 19 เดือน แถวนี้อาจไม่สามารถขายสินค้ากลุ่มนี้
อันดับที่ 12 ทำเล D1: สายไหม ณ ระดับราคา 3.001-5.000 ล้านบาท หรือเฉลี่ยหน่วยละ 4.293 ล้านบาท มีอัตราการขายต่ำมากเพียง 0.88% ต่อเดือน ขณะนี้ยังมีเหลือขายอีก 299 หน่วย คาดว่าจะต้องใช้เวลาขายอีกนานถึง 81 เดือน ราคาอาจสูงเกินไปในย่านทำเลนี้
นี่เป็นเพียงข้อคิดข้อมูลที่น่าสนใจที่ศูนย์ข้อมูลฯ AREA ตั้งใจมอบให้แก่สังคมตามคติ Knowledge Is Not Private Property. อย่างไรก็ตาม ในการลงทุนพัฒนาหรือลงทุนซื้อจริง ต้องศึกษาให้ถ้วนถี่ เพื่อจะได้มีข้อมูลที่แน่ชัดเพื่อความสำเร็จในการลงทุน