เผยกลุ่มห้องชุดที่อันตราย น่าเป็นห่วง น่าไม่ออก
ดร.โสภณ ฟันธง กลุ่มห้องชุดที่น่าเป็นห่วง เนื่องจากขายช้า เหลืออีกบานและจะใช้เวลาขายอีกนาน (แสนนาน) แต่ก็ใช่ว่าทุกโครงการในกลุ่มนี้จะแย่เหมือนกัน บางโครงการอาจขายดี ต้องพึงสังวร
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) ได้สำรวจพบว่าโครงการอาคารชุดในบางทำเลอาจมีปัญหาในการขาย และจึงเป็นสินค้าที่ไม่ควรทำการพัฒนาซ้ำ เพราะไม่น่าจะขายได้ สถาบันการเงินใดให้สินเชื่อกับสินค้าเหล่านี้ อาจจะมีปัญหาหนี้เสียได้ แต่ทั้งนี้บางโครงการในกลุ่มนี้ ก็อาจไม่เป็นเหมือนภาพรวมได้ ดังนั้นในการใช้ข้อมูลต้องมีการตรวจสอบให้แน่ชัดด้วย
สำหรับอันดับโครงการอาคารชุดที่มีปัญหา เป็นดังนี้:
อันดับที่ 1 ทำเล D6: นวมินทร์ ณ ระดับราคา 0.500-1.000 ล้านบาท หรือเฉลี่ยหน่วยละ 0.819 ล้านบาท มีอัตราการขายต่ำมากเพียง 0.31% ต่อเดือน ขณะนี้ยังมีเหลือขายอีก 160 หน่วย คาดว่าจะต้องใช้เวลาขายอีกนานถึง 41 เดือน สาเหตุคงเป็นเพราะมีอุปทานมาก
อันดับที่ 2 ทำเล B4: ชินเขต-ท่าทราย ณ ระดับราคา 1.001-2.000 ล้านบาท หรือเฉลี่ยหน่วยละ 1.890 ล้านบาท มีอัตราการขายต่ำมากเพียง 0.40% ต่อเดือน ขณะนี้ยังมีเหลือขายอีก 494 หน่วย คาดว่าจะต้องใช้เวลาขายอีกนานถึง 168 เดือน คาดว่าคงจะไปต่อไม่ได้
อันดับที่ 3 ทำเล K4: อ้อมน้อย ณ ระดับราคา 0.500-1.000 ล้านบาท หรือเฉลี่ยหน่วยละ 0.867 ล้านบาท มีอัตราการขายต่ำมากเพียง 0.53% ต่อเดือน ขณะนี้ยังมีเหลือขายอีก 143 หน่วย คาดว่าจะต้องใช้เวลาขายอีกนานถึง 75 เดือน แม้ราคาไม่แพง แต่ก็ขายยากเพราะอุปทานมาก
อันดับที่ 4 ทำเล G4: ศรีนครินทร์-อุดมสุข ณ ระดับราคา < 0.500 ล้านบาท หรือเฉลี่ยหน่วยละ 0.361 ล้านบาท มีอัตราการขายต่ำมากเพียง 0.72% ต่อเดือน ขณะนี้ยังมีเหลือขายอีก 503 หน่วย คาดว่าจะต้องใช้เวลาขายอีกนานถึง 26 เดือน คงเป็นเพราะเป็นโครงการเก่ามาก
อันดับที่ 5 ทำเล B4: ชินเขต-ท่าทราย ณ ระดับราคา 2.001-3.000 ล้านบาท หรือเฉลี่ยหน่วยละ 2.030 ล้านบาท มีอัตราการขายต่ำมากเพียง 0.96% ต่อเดือน ขณะนี้ยังมีเหลือขายอีก 169 หน่วย คาดว่าจะต้องใช้เวลาขายอีกนานถึง 24 เดือน ยังเหลืออยู่ค่อนข้างมาก
อันดับที่ 6 ทำเล K4: อ้อมน้อย ณ ระดับราคา 1.001-2.000 ล้านบาท หรือเฉลี่ยหน่วยละ 1.168 ล้านบาท มีอัตราการขายต่ำมากเพียง 1.07% ต่อเดือน ขณะนี้ยังมีเหลือขายอีก 460 หน่วย คาดว่าจะต้องใช้เวลาขายอีกนานถึง 41 เดือน คงเป็นเพราะโครงการประสบปัญหา
อันดับที่ 7 ทำเล A2: บางขัน-คลองหลวง ณ ระดับราคา 2.001-3.000 ล้านบาท หรือเฉลี่ยหน่วยละ 2.190 ล้านบาท มีอัตราการขายต่ำมากเพียง 1.11% ต่อเดือน ขณะนี้ยังมีเหลือขายอีก 105 หน่วย คาดว่าจะต้องใช้เวลาขายอีกนานถึง 41 เดือน คงเป็นเพราะโครงการประสบปัญหา
อันดับที่ 8 ทำเล E7: สุขาภิบาล 2-3 ณ ระดับราคา 2.001-3.000 ล้านบาท หรือเฉลี่ยหน่วยละ 2.337 ล้านบาท มีอัตราการขายต่ำมากเพียง 1.12% ต่อเดือน ขณะนี้ยังมีเหลือขายอีก 122 หน่วย คาดว่าจะต้องใช้เวลาขายอีกนานถึง 42 เดือน คงเป็นเพราะโครงการประสบปัญหา
อันดับที่ 9 ทำเล I4: ยานนาวา-สีลม ณ ระดับราคา >20.000 ล้านบาท หรือเฉลี่ยหน่วยละ 40.266 ล้านบาท มีอัตราการขายต่ำมากเพียง 1.15% ต่อเดือน ขณะนี้ยังมีเหลือขายอีก 505 หน่วย คาดว่าจะต้องใช้เวลาขายอีกนานถึง 42 เดือน คงเป็นเพราะโครงการประสบปัญหา
สำหรับแนวทางการแก้ไข ควรลดราคาลงโดยด่วนเพื่อขายให้หมดไปโดยเร็ว โดยยินดีขาดทุน (กำไร) หรืออาจถึงขั้น "ตัดอวัยวะเพื่อรักษาชีวิต" น่าจะดีกว่าปล่อยทิ้งไว้ หรือสำหรับโครงการที่แล้วเสร็จ อาจแปรสภาพเป็นอื่น คือเป็นห้องพักให้เช่าแทน หรืออาจแบ่งซอยห้องให้เล็กลงเป็นต้น อย่างไรก็ตามการป้องกันย่อมดีกว่า โดยก่อนจะพัฒนาควรทำการศึกษาให้ดี และควรมีการศึกษาติดตามภาวะตลาดอย่างต่อเนื่องนั่นเอง