มารู้จักแนวดนตรี EDM กันดีกว่า
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา คอนเสิร์ต EDM เริ่มเข้ามาอย่างแพร่หลายในประเทศไทยทั้ง Maya music festival , Ultra Music Thailandหรือไม่ว่าจะไปงานปาร์ตี้ที่ไหนเรามักจะได้ยินเพลงที่มีจังหวะสนุก บีทมันส์ๆ เปิดให้ได้โยกตามกันเสมอ แต่หลายคนที่ฟังแนวนี้อาจจะไม่รู้ว่าเพลง EDM นั้นจริงๆมีการแยกย่อยแนวเพลงมากกว่าที่หลายคนคิด วันนี้เราจะพาไปรู้จักกับ EDM กันในแบบที่เข้าใจง่ายๆและเป็นแนวดนตรีที่คนไทยส่วนใหญ่นิยมเปิดฟังกัน
Trance (ทรานซ์)
ทรานซ์ เป็นแนวเพลงหนึ่งที่แยกย่อยมากจากแนวดนตรี EDM ลักษณะของทรานซ์จะเป็นดนตรีบรรเลงที่มักมี ซินธิไซเซอร์ (Synthesizer) เป็นองค์ประกอบ บางเพลงจะใส่เสียงร้องเฉพาะในท่อนฮุค เพลงไม่ค่อยขาดตอน มีช่วงที่พีคเร่งจังหวะเพื่อปลุกเร้าคนฟังและบางช่วงก็จะดรอปเสียงดนตรีให้เบาลงอย่างเช่นเพลง Headlights ของ Robin Schulz
Dubstep (ดั๊บสเตป)
ดั๊บสเตป จะให้อารมณ์ในการฟังที่ค่อนข้างหม่น มีจังหวะอันบางตา มีการเน้นเสียงเบส ทำให้เพลงมีเสียงทุ้ม ไม่ค่อยมีคำร้องและอาจจะทำให้รู้สึกแสบแก้วหูกันไปบ้างในบางครั้ง ตัวอย่างเช่นเพลง Boss Mode ของ Knife Party
Trap (แทร็ป)
แทร็ป เพลงแนวนี้จะมีดนตรี และมีบีทค่อนข้างหนักหน่วง รุนแรง และมีการใส่เสียงสังเคราะห์แบบรัวๆในบางช่วง รากฐานของแทร็ปมาจากแนวเพลง Hip-Hop ทางฝั่งใต้ของอเมริกา หรือที่เรียกว่า Southern Hip-Hop ซึ่งนำมาประยุกต์ให้เข้ากับแนวดนตรีแบบ Electronic Dance เช่นเพลง Light it up ของ Major Lazer
.
House (เฮ้าส์)
เฮ้าส์ เป็นดนตรีที่มีจังหวะค่อนข้างฟังง่าย จึงค่อนข้างได้รับความนิยมในประเทศไทย และจากทั่วโลก ยกตัวอย่างเพลงดังที่มีจังหวะติดหูอย่าง Animals ของ Martin Garrix ดนตรี House ยังแบ่งแยกย่อยลงไปอีกหลายประเภท แต่ขอยกตัวอย่างแนวดนตรีเฮ้าส์ที่คนไทยนิยมฟังกันอย่าง Deep House, Progressive House และ Tropical House
Martin Garrix - Animals
Progressive House (โปรเกรสซีฟ เฮ้าส์)
โปรเกรสซีฟ เฮ้าส์ เป็นดนตรีที่มีความเก่าแก่อีกประเภทหนึ่ง คำว่า Progressive นั้นเกิดขึ้นกับการใช้แบ่งประเภทของดนตรี Rock ซึ่งก็คือ Progressive rock ต่อมาเมื่อมีดนตรี House คำว่า Progressive จึงถูกนำมาใช้เพื่อให้เกิดความแตกต่างในแนวดนตรี มีการใส่เสียงดนตรีสังเคราะห์เข้าไป และลูกเล่นต่างๆลงไปในเพลงบ้างเพื่อให้เกิดความสนุกสนานอย่างเพลงที่มีจังหวะสนุก No Money ของ Galantis
Galantis - No Money
Tropical House (ทรอปิคอล เฮ้าส์)
ทรอปิคอล เฮ้าส์ เป็นแนวดนตรีที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย ฟังสบาย เนื่องด้วยการใช้เสียงเครื่องดนตรีสังเคราะห์ เช่น ฟลุต(flute)หรือฮอร์น(Horn) มาเป็นองค์ประกอบเพื่อให้ดนตรีฟังแล้วดูซอฟต์ลง และใช้เสียงสังเคราะห์มามิกซ์เพื่อให้เสียงกังวานขึ้น โยกตัวตามได้ในจังหวะหนึบๆสบายๆแบบเพลง Firestone ของ Kygo
Kygo - Firestone ft. Conrad Sewell
Deep House (ดีปเฮ้าส์)
ดีปเฮ้าส์ มีบีทค่อนข้างช้าแต่ฟังง่าย เน้นเสียงเบสและซาวด์ที่ทำให้รู้สึกเคลิบเคลิ้ม การร้องจะใช้เสียงสูง ลักษณะโดดเด่นของดนตรีสไตล์นี้คือการใช้เสียงจากธรรมชาติเข้ามาเป็นองค์ประกอบของดนตรี เช่น เสียงนกร้อง หรือเสียงของหยดน้ำ เช่นเพลง Don't Let Me Down ของ The Chainsmokers
The Chainsmokers - Don't Let Me Down ft. Daya
ถึงแม้ว่าดนตรี EDM จะเป็นดนตรีแนวแดนซ์ที่เหมาะกับการฟังคลายเครียด แต่เพลงแนวนี้ก็มีเบื้องหลังที่น่าสนใจมาก ซึ่งในอนาคต