ตั้งกองพลดับเพลิงได้แล้ว
กทม. มักอ้างว่าที่ไม่ให้สร้างตึกสูงโดยเฉพาะตามซอยต่างๆ ก็เพราะหากเกิดไฟไหม้ จะดับได้ยาก แต่ความจริง แม้แต่อาคารที่ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่ และไม่สูงมากนัก ก็ยังดับไม่ได้ อย่าให้ความไร้ประสิทธิภาพในการดับเพลิง กีดขวางความเจริญของเมืองเลย
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านผังเมืองให้ความเห็นต่อกรณีข้อจำกัดของการก่อสร้างตึกสูงบนถนนสายที่มีความกว้างจำกัดว่า ในกรณีที่ถนนแคบไม่เกิน 6 เมตร ก็ไม่สมควรให้สร้างอาคารขนาดใหญ่ เว้นแต่จะอยู่ในบริเวณที่มีระบบขนส่งมวลชน
ที่ผ่านมามีอาคารขนาดใหญ่ แม้ไม่สูงอยู่มากนัก กรุงเทพมหานครก็ไม่สามารถดับไฟได้ ดังภาพเหตุเพลิงไหม้ที่พบเห็นในย่านใจกลางกรุงเทพมหานคร แม้ถนนผ่านหน้าที่ดินจะมีขนาดใหญ่มาก แต่ก็ไม่อาจจะดับไฟได้อยู่ดี กรณีนี้ กรุงเทพมหานครหรือนครอื่น ๆ จึงควรมีกองพล หรือกองกำลังดับเพลิง ที่มีทั้งเฮลิคอปเตอร์ดับเพลิง กองกำลังเคลื่อนที่เร็ว เพื่อการดับเพลิงได้อย่างทันท่วงที
รัฐบาลไม่ควรปล่อยให้การขาดประสิทธิภาพในการดับเพลิง กีดขวางการพัฒนาที่ดินเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดและดีที่สุดในเมือง หากเรากีดขวางความเจริญในเมือง การพัฒนาต่าง ๆ ก็จะกระจายในแนวราบออกนอกเมือง และส่วนมากจะเป็นการพัฒนาออกไปอย่างไร้ทิศผิดทาง เป็นการทำลายพื้นที่เกษตรกรรมในย่านชานเมือง หรือทำลายพื้นที่สีเขียวในชนบท ทำให้สาธารณูปโภคต่าง ๆ ต้องขยายตัวออกไปนอกเมืองอย่างไม่สิ้นสุด สร้างปัญหาให้กับเมืองและประชาชนในเมืองในการเดินทางและมีต้นทุนในการขนส่งคมนาคมมากยิ่งขึ้นนั่นเอง
นอกจากนี้เพื่อความเป็นธรรมต้องมีการเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างตามแบบสากล โดยเก็บตามมูลค่าของที่ดิน โดยอาจจัดเก็บในอัตราเดียว เช่น 1% สำหรับทรัพย์สินทั้งหลายตามราคาที่ดิน ดังนั้นหากมีใครแสร้งนำที่ดินในเมืองไปประกอบกิจกรรมเกษตรกรรม ก็สามารถทำได้ แต่นำมาอ้างเพื่อเลี่ยงภาษีไม่ได้ เพราะที่ดินราคาแพง ควรนำมาพัฒนาให้คุ้มค่า ส่วนที่ดินในย่านชานเมืองหรือย่านชนบทที่มีราคาถูก ก็ย่อมเก็บภาษีน้อยลงตามลำดับนั่นเอง
ที่มา: http://bit.ly/2urq7bm