อสังหาฯ ปี 60 ตีตื้นปี 59 เพราะการโหมเปิดใหม่ในเดือนมิถุนายน
ในเดือนมิถุนายน ภาพรวมของอสังหาริมทรัพย์ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีการเปิดตัวโครงการเพิ่มขึ้นมาก ถึง 34 โครงการ รวม 13,026 หน่วย และมีมูลค่าการพัฒนาโครงการรวม 47,826 ล้านบาท การเปิดใหม่มหาศาลนี้ทำให้ประมาณการทั้งปี 2560 ใกล้เคียงกับปี 2559 ทั้งที่แต่เดิมเปิดตัวน้อยมาก
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) เปิดเผยว่าจำนวนอสังหาริมทรัพย์ที่เกิดขึ้นใหม่ในเดือนมิถุนายนนี้มีทั้งหมด 13,026 หน่วย เพิ่มขึ้นจากเดือนที่ผ่านมาจำนวน 5,963 หน่วย (เดือนพฤษภาคม 2560 มีจำนวน 13,026 หน่วย) หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 84% เนื่องจากผู้ประกอบการในตลาดหลักทรัพย์ส่วนใหญ่ได้นำโครงการมาเปิดขายก่อนสิ้นไตรมาส 2 โดยเฉพาะอาคารชุด จึงทำให้มีจำนวนหน่วยขายโดยรวมของเดือนนี้เพิ่มขึ้นค่อนข้างสูง
ยิ่งกว่านั้นมูลค่ารวมของการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่เกิดใหม่ในเดือนมิถุนายน 2560 นี้มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 47,826 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดือนที่ผ่านมาจำนวน 22,234 ล้านบาท (เดือนพฤษภาคม 2560 มีมูลค่า 25,591 ล้านบาท) หรือเพิ่มขึ้น ประมาณ 87% ซึ่งในเดือนนี้ลักษณะการพัฒนาที่อยู่อาศัยจะใกล้เคียงกับเดือนที่ผ่านมา โดยจะพบว่าสินค้าที่เข้าสู่ตลาดส่วนใหญ่เป็นอาคารชุด และมีราคาปานกลางเป็นสำคัญโดยมีระดับราคา 1-3 ล้านบาท (62%) รองลงมา คือที่ราคา 3-5 ล้านบาท (20%) และระดับราคา 5-10 ล้านบาท (14%) ของหน่วยขายที่เปิดใหม่ทั้งหมดในเดือนนี้
เมื่อพิจารณาอัตราการขายได้ จะพบว่าในเดือนแรกของการเปิดขายมีอัตราการขายได้เฉลี่ยที่ 28% ซึ่งลดลงจากเดือนที่ผ่านมาที่มีอัตราการขายได้ที่ 36% ต่อเดือน แสดงว่าเปิดขายมาก แต่ผลตอบรับอาจไม่ดีนัก โดยประเภทอสังหาริมทรัพย์ที่มีอัตราการขายได้สูงสุด และมีจำนวนหน่วยขายเป็นส่วนใหญ่ของตลาด อันดับ 1 คือ อาคารชุดระดับราคา 10-20 ล้านบาท จำนวน 439 หน่วย ขายได้แล้ว 197 หน่วย (45%) รองลงคือ ทาวน์เฮ้าส์ระดับราคา 3-5 ล้านบาท จำนวน 327 หน่วย ขายได้แล้ว 140 หน่วย (43%) และอันดับ 3 คืออาคารชุดระดับราคา 5-10 ล้านบาท จำนวน 1,108 หน่วย ขายได้แล้ว 431 หน่วย (39%) ตามลำดับ
ผู้ประกอบการที่เปิดตัวโครงการใหม่ในเดือนนี้ เป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ (มหาชน) จำนวน 12 บริษัท คือ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) บริษัท ริชี่เพลซ 2002 จำกัด (มหาชน) บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) บริษัท เมเจอร์ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์จำกัด(มหาชน) จำกัด (มหาชน) บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ตามลำดับ นอกจากนี้ก็ยังมีบริษัทในเครือ และบริษัททั่วไปอีกจำนวนหนึ่ง หากเปรียบเทียบการพัฒนาระหว่างบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ บริษัทในเครือ และบริษัททั่วไป
หากพิจารณาภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ที่เปิดใหม่เดือนมิถุนายนของปีนี้กับเดือนมิถุนายนปี 2559 จะพบว่าในปีนี้มีจำนวนหน่วยขายเพิ่ม 3,869 หน่วย (42%) มีมูลค่าเพิ่มขึ้น 15,447 ล้านบาท (48%) และมีราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยเพิ่มขึ้นจาก 3.277 ล้านบาท เป็น 3.672 ล้านบาท (4%) และหากพิจารณาภาพรวมใน 6 เดือนแรก 2560 (มกราคม-มิถุนายน 2560) เปรียบเทียบกับ 6 เดือนแรกปี 2559 มีจำนวนหน่วยขายรวม 49,794 หน่วย (เพิ่มขึ้นประมาณ 3%) มีมูลค่ารวม 167,852 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 6%) แต่มีราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยลดลงจาก 3.414 ล้านบาทเป็น 3.371 ล้านบาท (-4%) โดยกลุ่มที่อยู่อาศัยที่เปิดขายมากสุด คืออาคารชุดจำนวน 28,538 หน่วย (57%) รองลงมา คือ ทาวน์เฮ้าส์ 16,227 หน่วย (33%) และอันดับ 3 คือ บ้านเดี่ยว 2,718 หน่วย (5%)