"The Eagle" ยื่นฟ้องโรงแรมในเม็กซิโกแอบอ้างใช้ชื่อ "Hotel California"
สมาชิกที่เหลืออยู่ของวงดนตรีระดับตำนาน "The Eagle" ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากโรงแรมแห่งหนึ่งในเม็กซิโก ที่ใช้ชื่อว่า "Hotel California" ซึ่งเป็นชื่อเพลงดังอันดับหนึ่งของวง The Eagle
โรงแรมที่ว่านี้มีขนาด 11 ห้อง สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1950 ตั้งอยู่ที่เมือง Baja California Sur มีเจ้าของเป็นคู่สามีภรรยาชาวแคนาดาซึ่งซื้อโรงแรมแห่งนี้มาเมื่อปี ค.ศ. 2011 และเปลี่ยนชื่อจากโรงแรม Todos Santos เป็น Hotel California
ในเอกสารการฟ้องร้องที่ The Eagle ยื่นกับศาลในนครลอสแองเจลลีส ระบุไว้ว่า นอกจากแอบอ้างใช้ชื่อเพลงดังเพลงนี้แล้ว โรงแรมดังกล่าวยังพยายามแสดงออกว่ามีความเกี่ยวข้องกับวง The Eagle เช่น เปิดเพลงต่างๆ ของ The Eagle ในห้องโถงโรงแรมอยู่เสมอ และยังขายเสื้อยืดที่อ้างถึงวงดนตรีระดับตำนานวงนี้ด้วย
นอกจากนี้ เอกสารการฟ้องระบุด้วยว่า เจ้าของโรงแรมยังพยายามทำให้ลูกค้าเข้าใจผิดว่า โรงแรมแห่งนี้คือแรงบันดาลใจให้กับสมาชิก The Eagle จนเป็นที่มาของเพลง Hotel California ที่โด่งดังไปทั่วโลก ซึ่งไม่เป็นความจริง
เนื้อเพลงHotel California พร้อมคำแปล
On a dark desert highway, cool wind in my hair
บนทางหลวงทะเลทรายที่มืดมิด ลมประชิดแนบปลายผม
Warm smell of colitas, rising up through the air
กลิ่นไออุ่นยอดกัญชาโชยมาตามลม
Up ahead in the distance, I saw a shimmering light
เบื่องหน้าไกลเกินชม ฉันเห็นแสงไฟกระพริบวับแวม
My head grew heavy and my sight grew dim
หัวฉันเริ่มหนักอึ้ง ดวงตาฉันพลันไม่สดใส
I had to stop for the night.
ฉันคงต้องหยุดการเดินทางคืนนี้ไว้
There she stood in the doorway;
ณ ตรงนั้นเธอยืนอยูในตรงหน้าประตู
I heard the mission bell
ฉันได้ยินเสียงกระดิ่งสั่นเรียกขาน
And I was thinking to myself
และฉันได้แต่เพ้อรำพัน
‘This could be heaven or this could be Hell’
มันคงเป็นสรวงสวรรค์หรือไม่ก็อเวจี
Then she lit up a candle and she showed me the way
เธอจุดเทียนทันใดแล้วพาฉันไปตามทาง
There were voices down the corridor,
เสียงเจื้อยแจ้วแว่วดัง
I thought I heard them say
ฉันพลันนึกว่าพวกเขาพูดอะไร
.
Welcome to the Hotel California
ยินดีต้อนรับสู่โรงแรมแคลิฟอร์เนีย
Such a lovely place (such a lovely place)
มันช่างแสนน่ารัก (มันช่างแสนน่ารัก)
Such a lovely face.
แสนจะหน้ารัก (ในหน้าหน้ารัก)
Plenty of room at the Hotel California
มีหลายห้องพักให้เลือกสรร
Any time of year (any time of year) you can find it here
ตลอดทั้งปีมีทุกวัน คุณสรรหามันได้ที่นี่นา
Her mind is Tiffany-twisted, she got the Mercedes benz
ใจของเธอหมกมุ่นกับเครื่องเพชร (เครื่องประดับชื่อแบรนด์ Tiffany) แถมเธอยังมีรถเมอร์ซีเดซอีกหนา
She got a lot of pretty, pretty boys, that she calls friends
เธอมีเหล่าหนุ่มหล่อล้อมรอบกายา ที่เธอเรียกว่าเพื่อนกัน
How they dance in the courtyard, sweet summer sweat
ดูท่วงท่าพวกเขาเต้นกันในสวน เร่าร้อนเหงื่อโชกอ่อนหวาน
Some dance to remember, some dance to forget
บางท่วงท่าก็น่าจดจำ บ้างบังอันนั้นช่างน่าลืม
.
So I called up the Captain,
ดังนั้นฉันจึงเรียกพนักงาน
‘Please bring me my wine’
ช่วยบริการเสริฟไวน์มาให้ฉัน
He said, ‘we haven’t had that spirit here since nineteen sixty-nine’
เขาพูดว่า พวกเราไม่ขายมัน ตั้งแต่เมื่อปี 1969
And still those voices are calling from far away,
และเสียงนั้นยังเรียกขานแว่วมาแต่ไกล
.
Wake you up in the middle of the night
ปลุกคุณตื่นตอนกลางดึก
Just to hear them say”
เพียงเพื่อได้ยินพวกเขาพูดว่า
.
Welcome to the Hotel California
ยินดีต้อนรับสู่โรงแรมแคลิฟอร์เนีย
Such a lovely place (such a lovely place)
มันช่างแสนน่ารัก (มันช่่างแสนน่ารัก)
Such a lovely face.
แสนจะน่ารัก
They livin’ it up at the Hotel California
พวกเขาสรรค์สร้างความสราญที่โรงแรมแคลิฟอร์เนียWhat a nice surprise (what a nice surprise), bring your alibis
มันช่างน่าประหลาดใจ (ช่างน่าประหลาดใจ), หาคำแก้ตัวของคุณมา
.
Mirrors on the ceiling,
กระจกเงาบนฝ่า
The pink champagne on ice
แชมเปญบนน้ำแข็ง
And she said, ‘we are all just prisoners here, of our own device’
และเธอพูดว่า เราทั้งหมดก็แค่เพียง เหล่านักโทษในเรือนจำ (จองจำในตัณหาของตัวเอง)
And in the master’s chambers,
และในห้องของเจ้านาย
They gathered for the feast
พวกเขารวมตัวเพื่อสังสรรค์
They stab it with their steely knives,
พวกเขาทิ่มแทงด้วยมีดเหล็กหลายอัน
But they just can’t kill the beast
แต่มิอาจฆ่าหมู่มาร (ที่อยู่ภายใน)
.
Last thing I remember, I was
สิ่งสุดท้ายที่ฉันจำได้
Running for the door
คือ ฉันกำลังวิ่งไปประตู
I had to find the passage back to the place I was before
ฉันต้องหาทางกลับไปยังที่ืี่ที่ฉันเคยอยู่
‘Relax’ said the night man,
ชายในราตรีบอกฉัน ใจเย็นๆ
‘We are programmed to receive.
เราต่างถูกกำหนดให้เป็นผู้รับ
You can check out any time you like,
คุณเช็คเอ้าท์ตอนไหนก็ได้ตามใจปราถนา
But you can never leave!’
แต่คุณจะไม่มีวันหลุดพ้น.
++++++++++