หนุ่มไทยและบ่าวลาว
สวัสดีครับทุกท่านวันนี้ผมจะมาแชร์ประสบการณ์ตัวจริงนะครับเป็นเรื่องของคนสองคนนะครับ ตอนที่รักกันอยู่รักกันมากๆครับ. เรื่องเลี่มเริ่มต้นจากตอนที่ผมกับเค้ารู้จักกันผ่านทาง facebook ไม่รู้ว่าเป็นพรหมลิขิตหรือเปล่าหรือมันคืออะไรเพราะเราได้มาเจอกันตอนนั้นผ่านทาง facebook ผมที่ไม่เคยรู้ว่าจะเจอรักแท้เมื่อก่อน เฝ้าคอยมาตลอดทั้งชีวิต ( เฮ้ยยังไม่ทั้งชีวิตดิ ) ตอนนั้นผมอายุ 16 ผมเล่น facebook อยู่ดีๆก็มีแชทเด้งขึ้นมา บอกว่า ทำอะไรอยู่ ผมก็เลยรีบตอบไปว่าไม่ได้ทำอะไรเล่น facebook อยู่ เขาก็เลยถามมาอีกว่าชื่ออะไรก็ทักไปทักมาตามปกติ ลืมบอกไปแทนนามผม ชื่อว่า B ก็แล้วกัน ชวนคนคนนั้น T เราเริ่มคุยกันมาได้สักพักนึง เขาก็บอกอยากมาหา อ๋อลืมบอกไป พี่เขาเป็นคนไทย และผมเป็นคนลาว พอคุยกันได้อยู่ประมาณสัก 3 เดือน เขาตกลงที่จะมาหา เราก็ยินดีที่จะต้อนรับ ในตอนตอนนั้นนั่นเองเราไม่รู้หรอกว่าเขาจะมาจริงหรือเปล่า เพราะผมไม่เคยเจอกับรักแท้ไม่เคยเจอกับคนที่บอกว่าจะมาผมอย่างจริงจัง ผมก็ได้แค่เฝ้ารอคอยนับจากวันที่คุยกัน จากวันเป็นเดือน จากเดือนเป็น 2 เดือนแล้วก็ 3 เดือน ที่จะได้เจอ
วันนี้ก็เป็นวันสุดท้ายและที่เราคุยกัน พี่เขาบอกจะมาหา เขาก็เดินทางมาซักประมาณ 3 วันกว่าจะถึงที่ที่ผมอยู่ พอเขาเดินทางมาถึงวันแรก เขาก็โทรหาเขาก็ซื้อซิมที่ลาวโทรมาหาแต่วันนั้นเราคุยกันถึงตี 2 ผมเลยหลับไป
แล้วรู้ตัวอีกที ก็มีสายที่เข้าโทรศัพท์ไม่ได้รับ 26 สาย ผมก็เลยรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรกลับไปด่วน( ตอนนั้นเป็นประมาณสักตี 5) ขณะที่กำลังโทรไป จากนั้นก็ได้ยินเสียงรับโทรศัพท์จากนั้นก็ได้ยินเสียงรับโทรศัพท์ มารับหน่อย....!
ดูจากน้ำเสียงคล้ายลักษณะคนที่เหมือนกลัวถูกหลอกไม่ไปรับ จากนั้นผมก็รีบไปหยิบกุญแจรถ แล้วก็ออกไปทั้งทั้งที่หน้ายังไม่ได้ล้าง ฉันยังไม่ได้แปลง น้ำยังไม่ได้อาบ ใส่ชุดนอน ไปอย่างนั้นเลย
พอไปถึงสถานนีรถเมย์ ผมก็เลยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอีกทีเพื่อจะโทรหาพี่เค้า ผมก็ถามว่าอยู่ที่ไหน พี่เขาก็บอกว่าอยู่ใกล้ๆร้านขายของ ผมก็เลยบอกว่าหันมารถคันสีดำเห็นไหม เพราะตอนนั้นผมหาไม่เห็น ผมก็เลย หันไปอีกทีนึง เห็นยืนอยู่ ใส่เสื้อกันหนาว รองเท้าบูท ตัวดำดำ ใส่แว่น ตาเหล่ ฟันเหยิน 5555 เกินไป
จากนั้นผมก็เลยลงจากรถไปหยิบกระเป๋าตัวใบใหญ่ขึ้นหลังรถ พร้อมกับเชิญขึ้นรถ หลังจากที่ขับรถออกมาจากสถานี ผมก็เริ่มสอบถาม ว่ารู้สึกยังไง พี่เค้าก็รู้สึก ตกใจที่โทรมาแล้วผมไม่รับ เขาก็กะจะหาโรงแรมแล้ววันต่อมาก็จะกลับบ้านแล้ว ถ้าโทรไปแล้วผมไม่รับอีกที จากตอนนั้นผมรู้สึกตื่นเต้นมาก หัวใจเต้นแรงด้วย เพราะเป็นครั้งแรกที่มีคนที่จริงใจกล้ามาหาเรา ไกลขนาดนี้
อ๋อลืมบอกไปในที่ที่ผมอยู่ไม่มีเซเว่น มีแต่ภูผาป่าดงลักษณะเป็นชนบทสูงกว่าชนะน้ำทะเล 3000 เมตร เดี๋ยวเอาไว้จะมาเล่าต่อครับฝากติดตามด้วย