ธนารักษ์ควรคิดให้ดีก่อนคิดสร้างบ้านพักผู้สูงอายุ
ธนารักษ์จะประสบความสำเร็จในการสร้างบ้านพักผู้สูงวัยหรือไม่ หรือสังคมอาจครหาเรื่อง "เงินทอน" เป็นสิ่งที่ควรมีการศึกษาให้รอบคอบก่อนการดำเนินโครงการ ดร.โสภณ มีข้อเสนอแนะ
ตามที่มีข่าวว่า "ธนารักษ์เร่งพัฒนาบ้านผู้สูงอายุ 5 พื้นที่ 2 พันยูนิต" {1} มีสาระว่ากรมธนารักษ์ได้ลงนามกับโรงพยาบาลรามาธิบดี เพื่อพัฒนาที่ดินราชพัสดุ เนื้อที่ 72 ไร่ ที่อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการไปแล้ว โดยจะมีที่พักอาศัย 1,000 หน่วย มีขนาดห้อง 30-55 ตรม. ราคา 1.2 ล้านบาท หรือขนาด 55 ตรม. ราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท โดยผู้มีสิทธิ์ซื้อจะต้องมีอายุตั้งแต่ 55 ปีขึ้น และได้สิทธิ์อยู่อาศัยสูงสุด 30 ปี และมีค่าใช้จ่ายส่วนกลาง เดือนละ 1 -2 หมื่นบาท ซึ่งโครงการจะให้บริการตรวจเช็คสุขภาพ มีพยาบาลดูแล มีห้องออกกำลังกาย เป็นต้น โดยความเป็นอยู่เป็นระดับ 4 ดาว นอกจากนี้กรมฯ ยังวางแผนจัดทำอีก 4 พื้นที่ใน 4 จังหวัด คือ เชียงใหม่ (กับโรงพยาบาลสวนดอก) ประจวบคีรีขันธ์ นครนายก และชลบุรี คาดว่าจะมีที่พักอาศัยสำหรับคนชรา รวมกันไม่น้อยกว่า 2,000 หน่วย
กรณีนี้ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตทแอฟแฟร์ส (www.area.co.th) ให้ความเห็นต่อโครงการดังกล่าวว่าเป็นโครงการที่ดีมีหลักการที่จะช่วยเหลือผู้สูงอายุซึ่งจะมีมากขึ้นในสังคมไทย เพราะสังคมไทยเข้าสู่ภาวะสังคมผู้สูงวัย ด้วยมีสัดส่วนของประชากรสูงวัยที่มากเป็นพิเศษ อย่างไรก็ตามจากการแถลงข่าวนี้ซึ่งพบในสื่อหลายฉบับ ปรากฏมีข้อพึงวิพากษ์เพื่อการพัฒนาโครงการที่จะเป็นประโยชน์ยิ่งต่อสังคมไทย ดังนี้:
1. ในการแถลงข่าวไม่ได้ระบุถึงอัตราผลตอบแทนในการลงทุนด้านเศรษฐกิจและด้านสังคมเลย โครงการนี้อาจไม่มีการศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาโครงการอย่างเหมาะสม เพราะอัตราผลตอบแทนทางสังคมและทางเศรษฐกิจนี้เป็นหัวใจที่จะชีว่าโครงการนี้จะประสบความสำเร็จหรือไม่
2. โครงการนี้ได้ประเมินค่าต้นทุนโครงการคือที่ดินไว้อย่างเหมาะสมหรือไม่เพียงใด เพราะหากทางราชการใช้ราคาประเมินทุนทรัพย์เพื่อการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม ซึ่งเป็นราคาที่ต่ำกว่าราคาตลาดปกติก็เท่ากับทางราชการนำสมบัติของแผ่นดินไปใช้อย่างไม่คุ้มค่าทางเศรษฐกิจและสังคม ทำให้คนไทยรุ่นลูกหลานเสียโอกาสไป
3. สำหรับต้นทุนค่าก่อสร้างอาคารซึ่งยังอาจไม่ได้มีการออกแบบในรายละเอียดไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงหรือไม่ก็ได้ ควรที่ทางราชการ จะมีการคำนวณค่าก่อสร้างโดย การถอดแบบก่อสร้างในรายละเอียดจึงจะสามารถต้นทุนที่แท้จริงได้
4. โครงการนี้ได้มีการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมหรือไม่อย่างไร จะส่งผลกระทบต่อชุมชนโดยรอบและสังคมโดยรวมอย่างไร เราจึงยังไม่สามารถประเมินได้ว่าโครงการนี้จะเป็นผลบวกหรือผลลบต่อสังคม
5. การตั้งราคาขายสำหรับระยะเวลา 30 ปีที่ประมาณตารางเมตรละ 30,000 บาทเศษ จะมีความเหมาะสมหรือไม่อย่างไร. ทางราชการควรแจกแจงเปรียบเทียบกับอุปทานในตลาดขณะนี้เพื่อให้สังคมมั่นใจได้ว่าโครงการนี้มีความเป็นไปได้อย่างแท้จริง
6. การที่ผู้สูงอายุที่เข้าอยู่อาศัย ต้องออกเงินเพิ่มเติมเดือนละไม่เกิน 20,000 บาทนั้น แสดงว่าผู้ใช้บริการหรือผู้รับผลประโยชน์จากโครงการนี้ไม่ใช่ประชาชนผู้มีรายได้น้อยแต่เป็นผู้มีรายได้ปานกลางค่อนข้างสูงซึ่งเป็นกลุ่มที่สามารถช่วยตนเองได้ทางด้านการเงินอยู่แล้ว. ไม่จำเป็นที่รัฐบาลจะเข้าไปอุ้มชูช่วยเหลือ รัฐบาลควรนำทรัพยากรที่มีไปช่วยเหลือประชาชนผู้ด้อยโอกาสหรือประชาชนคนเล็กคนน้อยในสังคม จะดีกว่านี้
7. การที่ทางราชการแถลงว่าจะพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยของผู้สูงอายุในจังหวัดเชียงใหม่ประจวบคีรีขันธ์ และนครนายก อีกราว 2000 หน่วย ข้อนี้จะเป็นเพียงการแถลงเพื่อให้ดูมีผลงานหรือไม่ โครงการใดๆ ที่แถลงสู่สังคมควรกอปรด้วย ผลการศึกษาที่ชัดเจนเพื่อความมั่นใจของประชาชนเจ้าของประเทศ ทำราชการไม่ควรแถลงอะไรลอยๆ
8. การแถลงโดยไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนยังอาจทำให้สังคมเข้าใจว่า โครงการนี้เป็นการพยายามก่อให้เกิดการใช้จ่ายผ่านการก่อสร้าง เพื่อหวัง "เงินทอน" จากการพัฒนานั่นเอง การนี้จะทำให้เสียภาพพจน์โดยไม่จำเป็นหากทางราชการนำเสนอผลการศึกษาที่แน่ชัด ไม่ได้พูดลอย ๆ
ดร.โสภณ ให้ข้อเสนอแนะว่า แทนที่กรมธนารักษ์จะไปร่วมมือกับโรงพยาบาลของรัฐที่มีหน้าที่บริการประชาชน ไม่ใช่หน้าที่หารายได้พิเศษ ควรร่วมมือกับภาคเอกชน โดยรัฐบาลออกค่าที่ดินตามราคาตลาด ไม่ใช่ราคาของทางราชการที่ต่ำมากๆ กำไรที่ได้จากการทำเพื่อคนรวยหรือผู้ที่ไม่ได้ยากจน จะได้นำมาช่วยเหลือสังคมอีกต่อหนึ่ง รัฐบาลไม่ควรทำเอง หรือไปแข่งกับภาคเอกชนเลย เว้นแต่การแข่งกับเอกชนในการช่วยเหลือคนด้อยโอกาสหรือประชาชนคนเล็กคนน้อยที่ภาคเอกชนอาจไม่สามารถเอื้อมมือลงไปทำธุรกิจได้นั่นเอง
การสร้างบ้านสำหรับผู้สูงอายุต้องทำเพื่อผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อย ไม่ใช่ไปเจือจุนคนที่ไม่จนหรือคนรวยอยู่แล้ว และไม่สร้างภาระต่อประเทศชาติในอนาคต
อ้างอิง
{1} มติชน 13 เมษายน 2560 www.matichon.co.th/news/528883
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า
10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯ
'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีน
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน
‘ดร.ธรณ์’ แนะนำ ถ้าจะย้ายที่อยู่ จังหวัดไหนเหมาะที่สุด ที่ไม่มีมลพิษของฝุ่นและภัยพิบัติทางธรรมชาติ
แบงก์เขมรปิด ฮุน โต! เผ่นหนี ลูกค้าถอนเงินไม่ได้
สภาทนายความ แจงเหตุลบชื่อ ‘ทนายคนดัง’ ออกจากทะเบียนทนาย
สารพิษในร่าง 'ณัฐวุฒิ ปงลังกา'! ตำรวจเร่งสอบพยาน ตรวจบ้านพักซ้ำ รอญาติจากเชียงราย
แคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี
ปมปริศนาการจากไป! พ่อแม่ 'ณัฐวุฒิ ปงลังกา' อายัดศพ หลังทราบผลชันสูตร
ภาษาที่ควรเรียนที่สุด ในอีก5ปีข้างหน้า
สารพิษในร่าง 'ณัฐวุฒิ ปงลังกา'! ตำรวจเร่งสอบพยาน ตรวจบ้านพักซ้ำ รอญาติจากเชียงราย
“นานา ไรบีนา” เพิ่งพ้นคุกก็เจอดราม่าซ้อน—เพื่อน (เคย) รักแห่ออกมาสวนแรง
"ประธานสหภาพฯ" บริษัทไดกิ้น เปิดใจหลังสั่งปิดงาน! ชี้ ยังต้องได้โบนัส
"เป็กกี้ ศรีธัญญา" โพสต์แซ่บถึง "นิยาย" ที่แสนสนุก ใครคือเจ้าของเรื่องตัวจริง?
กองกำลังพิเศษ BHQ ทรยศฮุนเซน แอบไปซบ อก สมรังสี



