เที่ยวเมืองเก่า สืบสารตำนานพุทธ เมืองส่งธรรม นครศรีธรรมราช กับ รายการนิวดีไลท์
รายการนิวดีไลท์ ช่วงพาเที่ยว แนะนำของดี
ตอน เที่ยวเมืองเก่าสืบสารตำนานพุทธ เมืองส่องธรรม นครศรีธรรมราช
เมื่อไม่นานมานี้ทางทีมงานนิวดีไลท์ได้มีโอกาสมาเยือนเมืองนครศรีธรรมราชก้าวแรกที่ย่างเท้าลงบนแผ่นดินของเมืองเก่าแก่อายุนับเกือบสองพันปีแห่งนี้บอกเลยตื่นเต้นสุด ๆ เพราะเคยได้ยินเรื่องเล่าของเมืองนครศรีธรรมราช มาไม่น้อยเกี่ยวกับวัดวาอารามแหล่งโบราณคดีเครื่องเงินอาหารและอื่น ๆ อีกมามายพูดขนาดนี้แล้วหลายๆ ท่านคงคิดว่าสถานที่แรกที่ทางทีมงานรายการนิวดีไลท์จะพาท่านไปสัมผัสคงเป็นวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ตั้งอยู่ริมถนนราชดำเนินตำบลในเมืองอำเภอเมืองจังหวัดนครศรีธรรมราชมีเนื้อที่ 25 ไร่ 2 งานเป็นพระอารามหลวงชั้นเอกชนิดวรมหาวิหารสร้างขึ้นเมื่อพุทธศักราช 854 มีศิลปะการก่อสร้างแบบศรีวิชัยตอบเลยว่าถูกต้องค่ะ
วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์สำคัญคู่บ้านคู่เมือง ตามตำนานกล่าวว่า สร้างขึ้นครั้งแรกประมาณ ปี พุทธศักราช 854 ด้วยศิลปะการก่อสร้างแบบศรีวิชัย (หลายคนเชื่อว่ามีลักษณะคล้ายพระบรมธาตุไชยา จ.สุราษฎร์ธานี) ภายในบรรจุพระทันตธาตุ (ส่วนฟันของพระพุทธเจ้า) หากมาถึงนครศรีธรรมราชแล้วไม่มากราบสถานที่แห่งนี้ถือว่ามาไม่ถึงนะคะ เอาละไปสถานที่ต่อไปกันเลยดีกว่า หากเอ๋ยถึง จังหวัดนครศรีธรรมราช อีกหลายๆท่านก็คงคิดถึง เกจิอาจารย์ และวัตถุมงคล ถ้าอย่างนั้นสถานที่ต่อไปขอเป็น วัดสวนขัน อำเภอช้างกลาง จังหวัดนครศรีธรรมราช
วัดสวนขัน อำเภอช้างกลาง จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นวัดที่จำพรรษาของ พระครูพิศิษฐ์อรรถการ หรือที่รู้จักกันทั่วไปว่า "พ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์" พระครูพิศิษฐ์อรรถการ คือ นามตามสมณศักดิ์ท่าน เป็นอดีตเจ้าอาวาสวัดสวนขัน จังหวัดนครศรีธรรมราช หรือ พ่อท่านคล้าย นามเดิมว่า "คล้าย สีนิล" เกิดตรงกับ วันอังคาร ที่ 27 ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 4 ปีชวด จุลศักราช 1238 รัตนโกสินทร์ศก 95 ที่บ้านโคกทือ ตำบลช้างกลาง กิ่งอำเภอช้างกลาง จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นบุตรของนายอินทร์ นางเหนี่ยว สีนิล มีพี่สาว 1 คน ชื่อนางเพ็งเป็นภรรยานายซ้าย เพ็ชรฤทธิ์ ไม่มีบุตรสืบสกุลแต่มีบุตรบุญธรรมหนึ่งคน ชื่อนายครื้น เพ็ชรฤทธิ์ พ่อท่านคล้าย มีลักษณะนิสัย เป็นคนมีมานะอดทน ขยันหมั่นเพียร อยู่ในโอวาทคำสั่งสอนของบิดามารดาและครูอาจารย์อย่างเคร่งครัด สุภาพ เรียบร้อย ว่านอนสอนง่าย นิสัยอ่อนโยนละมุนละไม จึงเป็นที่รักของบิดามารดา ครูอาจารย์และญาติมิตรเป็นอันมาก เมื่ออายุ 15 ปี หลวงพ่อคล้าย ประสบอุบัติเหตุในการถางป่าทำไร่กระดูกปลายเท้า สามนิ้วแตกละเอียด รักษาไม่หาย ด้วยกำลังใจที่เด็ดเดี่ยว พ่อท่านคล้าย ได้ใช้มีดตัดปลายเท้าออกด้วยตัวเอง และใช้ยาพอกจนหายเป็นปกติ ขาของพ่อท่านคล้ายนั้นเสียข้างหนึ่ง คือ ขาด้านซ้ายขาดตั้งแต่ตาตุ่มลงไป (เสียตั้งแต่สมัยเด็กๆ โดนต้นไม้ทับที่บ้านญาติของท่านที่ จ.กระบี่ ขาเป็นหนองเลยต้องตัดทิ้ง โดยท่านใช้มีดปาดตาลตัดเอง) ท่านเลยต้องใส่กระบอกไม้ไผ่แทน พ่อท่านคล้าย ได้บรรพชาเป็นสามเณร เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ.2438 (อายุ 19 ปี) บรรพชาที่วัดจันดี ต.หลักช้าง บรรพชาโดยอาจารย์ พระอธิการจันเจ้าอาวาสวัดจันดี (ทุ่งปอน) และพ่อท่านสามารถท่อง พระปาฏิโมกข์จนได้แม่นยำ
พ่อท่านคล้าย เป็นเจ้าอาวาสวัดสวนขัน ในปี พ.ศ.2448 พระปลัดคง เจ้าอาวาสวัดสวนขัน ลาสิกขาบท คณะอุบาสกอุบาสิกาของวัดสวนขัน ได้ร่วนกันเสนอไปยัง ท่านพระครูกรายเจ้าคณะแขวงฉวาง ขอแต่งตั้ง"พ่อท่านคล้าย"เป็นเจ้าอาวาส วัดสวนขันแทน ท่านพระครูกรายก็เสนอไปยังเจ้าคณะเมือง (ม่วง เปรียญ) ครั้งดำรงสมณศักดิ์เป็น
เจ้าคุณพระศิริธรรมมุนี เจ้าคณะใหญ่เมือง ได้แต่งตั้งให้พ่อท่านคล้ายเป็นเจ้าอาวาสวัดสวนขันแต่นั้นมา
วัดสวนขันเป็นวัดราษฎร์ เดิมตั้งอยู่ที่ วัดราษฎร์บำรุง ปัจจุบันชาวบ้านเรียกวัดคุดด้วน เพราะตั้งอยู่ริมฝั่งคลองคุดด้วน มีพระปลัดคงเป็นเจ้าอาวาส แต่ที่ตั้งเป็นที่ไม่เหมาะบางประการ เนื่องจากฤดูน้ำก็ถูกน้ำท่วมบ่อยๆและสถานที่คับแคบ จึงทำการย้ายวัดขึ้นไปทางเหนือของคลองคุดด้วน สร้างวัดขึ้นมาใหม่ใน ป่าไม้ขันอันเป็นที่สวนของอุบาสกผู้มีศรัทธาถวายให้วัด และพร้อมใจกันตั้งชื่อวัดว่า วัดสวนขัน วัดสวนขันปัจจุบันตั้งอยู่ที่ ตำบลสวนขัน กิ่งอำเภอช้างกลาง จ.นครศรีฯ พระปลัดคงได้เป็นเจ้าอาวาสรูปแรก พระปลัดคงเป็นลูกศิษย์ของพระครูกราย ต่อมาลาสิกขาบทพระครูกรายเสนอพ่อท่านคล้ายให้เป็นพ่อท่านคล้าย ตลอดมาเป็นเวลา65ปี จนถึง วันมรณภาพ
พ่อท่านเคยแต่งบทกลอนกำดัดสอนนาคไว้น่าฟังดังนี้
ศีลสิบโดยตั้ง รักษาโดยหวัง
องค์ศีลทั่วผอง สองร้อยยี่สิบเจ็ด
สิ้นเสร็จควรตรอง ศีลสิบหม่นหมองสองร้อยมรณา
งานด้านศาสนา พระครูพิศิษฐ์อรรถการ เป็นผู้นำในการสร้างวัดพระเจดีย์ พระพุทธรูป และร่วมกันในการบูรณปฏิสังขรณ์ศาสนสถานเป็นจำนวนมาก ผลงานสำคัญ ดังเช่น สร้างวัด พ่อท่านคล้ายเห็นความสำคัญของปูชนียสถานจึงได้สร้างวัดขึ้นหลายแห่ง ได้แก่ วัดมะปรางงาม ตำบลละอาย อำเภอฉวาง ใน พุทธศักราช 2490 ต่อมา พุทธศักราช 2500 ทายาทอึ่งค่ายท่าย ถวายที่ดิน และวัดที่สำคัญที่สุด คือ วัดพระธาตุน้อย หรือคนทั่วไปเรียกว่า วัดพ่อท่านคล้าย
ด้านความมีเมตตาและวาจาสิทธิ์ ศิษย์ยานุศิษย์และประชาชนที่เคารพนับถือ ศรัทธาพ่อท่านคล้ายได้เชื่อถือถึงความศักดิ์สิทธิ์ของวาจา พูดอย่างไรเป็นอย่างนั้น พ่อท่านคล้ายจะพูดจากับทุกคนด้วยใบหน้ายิ้มแย้มและแจ่มใสอารมณ์เยือกเย็นอยู่ตลอดเวลา ท่านมักจะให้พรกับทุกคน "ขอให้เป็นสุข เป็นสุข" ผู้ที่เคารพนับถือท่านต่างพากันกลัวคำตำหนิ เพราะผู้ที่ถูกตำหนิทุกรายล้วนแต่พบความวิบัติ คนส่วนมากจึงหวังที่จะได้รับคำอวยพร เพราะคำเหล่านั้นเป็นการพยากรณ์ที่แม่นยำทั้งในทางดีและทางเสื่อมเสีย คนที่ไปนมัสการ"พ่อท่านคล้าย"หวังที่จะได้วัตถุมงคล พระเครื่อง บ้างขอน้ำมนต์ ชานหมาก แหวน ผ้ายันต์ เหรียญ รูปหล่อ รูปพิมพ์ ซึ่งพ่อท่านคล้ายก็ได้มีเมตตาให้กับทุกคน ยิ่งชานหมากของท่านหากใครได้รับจากมือท่านเป็นต้องหวงแหนอย่างที่สุด
พ่อท่านคล้าย มรณภาพ พ่อท่านคล้าย หรือพระครูพิศิษฐ์อรรถการเมื่อครั้นถึงวันที่ 22 พฤศจิกายน 2513 ตรงกับแรม 9ค่ำ เดือน12 ปีจอ พ่อท่านจะต้องเดินทางไปจังหวัดสุรินทร์ เนื่องในงานพุทธาภิเษก ที่คณะพุทธบริษัท จังหวัดนั้นนิมนต์ใว้ เวลา 16.00 น. ของวันเดินทาง คณะศิษย์เป็นว่าพ่อท่านอาพาธ กะทันหันจึงนิมนต์พ่อท่านขึ้นรถด่วนเข้ากรุงเทพ ถึงวันรุ่งขึ้นได้นำพ่อท่านเข้าโรงพยาบาลพระมงกุฎในวันนั้น แพทย์ได้พยายามรักษาจนเต็มความสามารถ เป็นเวลา14วัน อาการมีแต่ทรงกับทรุด ครั้งถึงวันที่ 5 ธันวาคม 2513 เวลา23.05 น. พ่อท่านคล้าย มรณภาพด้วยอาการสงบ รวมอายุได้ ๙๖ ปี เมื่อบำเพ็ญกุศลครบ ๑๐๐ วัน จึงได้บรรจุสรีระของท่านไว้ในโลงแก้ว ประดิษฐานอยู่ในองค์พระเจดีย์ในวัดพระธาตุน้อยจนถึงปัจจุบัน พระเครื่องหลวงพ่อคล้าย วาจาสิทธิ์ วัดสวนขันพระเครื่องพ่อท่านคล้าย รุ่นต่างๆ