เรื่องลึกลับรัสเซียในอดีต
โพสท์โดย มารคัส
เรื่องลึกลับรัสเซียในอดีต
สหภาพสาธารณะรัฐสังคมนิยมโซเวียต(รัสเซีย)
The Union of Soviet Socialist Republics (or Soviet Union)
กลายเป็นชื่อในอดีตไปแล้ว
แต่เรื่องราวลึกลับตั้งแต่ก่อตั้งประเทศมากว่า 70 ปี
ที่รอการเปิดเผยมีมากมายหลายเรื่องมาก
ตั้งแต่เรื่องที่เลวร้ายที่สุดจนถึงเรื่องที่ดีที่สุด
มีเรื่องราวตัวอย่างที่ค่อนข้างแปลกแต่จริง
แม้ว่าจะเป็นเรื่องราวในอดีตบางเรื่องก็ตาม
แต่จะมีส่วนช่วยให้คนเราเข้าใจในเรื่อง
ภูมิรัฐศาสตร์ในทุกวันนี้ไม่มากก็น้อย
หมายเหตุ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
รัสเซีย จะแทนคำว่า สหภาพสาธารณะรัฐสังคมนิยมโซเวียต
1.) หนังสือเดินทางของรัสเซียในอดีตตรวจการปลอมได้ง่ายมาก
ตรวจด้วยการดึงลวดเย็บกระดาษออกมาได้เลยเพราะคุณภาพแย่มาก
2.) ทหารองครักษ์ต่างหวาดกลัว Stalin เป็นอย่างมาก
ถ้าไม่ได้มีคำสั่งอย่างไรก็ห้ามทำโดยเด็ดขาด
ทำให้ทหาร ฯ ต้องรอคอยอยู่นอกห้องนานถึง 12 ชั่วโมง
จึงจะเข้าไปพบได้แล้วพบว่า Stalin นอนเป็นอัมพฤกษ์ใกล้ตายแล้ว
กว่าจะตามตัวนายแพทย์มาดูแล Stalin ก็อาการหนักมากแล้ว
(มีคำสั่งว่า ถ้าครบ 12 ชั่วโมงแล้ว Stalin ยังไม่ออกจากห้องพัก
ให้สามารถพังห้องพักเข้าไปได้เลย เผื่อว่าเขาเป็นภยันตรายหรือล้มป่วยหนัก
ห้องพักภายในจะเงียบสงบมากและป้องกันภยันตรายขั้นสูงสุด
Stalin เป็นคนโรคจิตที่เกลียดเด็กมาก
เคยมีเด็ก ๆ หลายคนมาวิ่งเล่นส่งเสียงดังใกล้ที่พักของเขา
วันรุ่งขึ้นทั้งเด็กทั้งครอบครัวหายสาบสูญไปจากบริเวณนั้น)
3.) เอกสารทางรัฐการที่ยืนยันการล่มสลายของสหภาพโซเวียต
เพิ่งจะมีการประกาศอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2556
4.) สหรัฐอเมริกาเคยตกลงจะร่วมมือกับรัสเซีย
ในการสำรวจอวกาศร่วมกันมาก่อน
แต่เมื่ออดีตประธานาธิบดี Kennedy ถูกลอบสังหาร
รัสเซียยกเลิกความร่วมมือทันทีเพราะไม่ไว้ใจ
อดีตประธานาธิบดี Johnson ที่มารับตำแหน่งแทน
5.) ในปี 1933(2476) Stalin เนรเทศประชาชน 6,200 คน
ไปอยู่ที่เกาะรกร้างใน Siberia ทิ้งไว้แต่แป้งให้ทำอาหาร
แต่ไม่ทิ้งเครื่องมือก่อสร้างอาคารที่พักอาศัย(หลบภัยฝน/ภัยหนาว)
หนึ่งเดือนภายหลัง เจ้าหน้าที่รัฐกลับมาตรวจดูอีกครั้ง
ปรากฎว่าผู้ถูกเนรเทศตายไปแล้วกว่า 4,000 คน
6.) Vasili Blokhin หัวหน้าทีมงานเพชฌฆาตของรัสเซีย
ได้สังหารเจ้าหน้าที่ชาวโปแลนด์มากกว่า 7,000 คน
ด้วยปืนสั้นในช่วง 28 วันด้วยตนเองเพียงลำพัง
เฉลี่ยยิงทิ้ง 3 นาทีต่อหนึ่งศพ
โดยใช้เวลามากกว่าวันละ 10 ชั่วโมง
7.) ทารกเพศชายมากกว่า 80% ที่เกิดในรัสเซียในปี 1923(2466) ตายในสงครามโลกครั้งที่ 2
8.) ภาพยนตร์อเมริกาเรื่อง ผลพวงแห่งความคับแค้น (The Grapes of Wrath)
เคยฉายในรัสเซีย เพื่อโฆษณาเผยแพร่ความตกต่ำของลัทธิทุนนิยม
แต่ต่อมาถูกยกเลิกการฉายทันที เพราะผู้ชมรัสเซียต่างแปลกใจมาก
กับภาพที่คนจนที่สุดในสังคมทุนนิยม ตามท้องเรื่องมีรถยนต์/รถแทร็คเตอร์ส่วนตัว
สรุปย่อ ๆ เรื่องราวครอบครัวอเมริกันที่ทำฟาร์มโดยใช้แรงงานครอบครัวกับเพื่อนบ้าน
ต่อมาธนาคารกับบริษัทขายรถแทร็คเตอร์ ได้ร่วมมือสนับสนุนส่งเสริมการทำฟาร์มด้วยเครื่องมือจักรกลเกษตร
สุดท้ายก็ต้องพ่ายแพ้กับระบบทุนนิยม เพราะการใช้เครื่องจักรจะมาทดแทนแรงงาน
ทำให้คนอีกจำนวนมากมายต้องตกงานไปในที่สุด และเจ้าของฟาร์มบางแห่งก็ไม่รอดเช่นกัน
เพราะถ้าราคาพืชผลเกษตรไม่ดี ดินฟ้าอากาศไม่ดี ผลผลิตเกษตรก็ไม่ได้ผล
สุดท้ายก็ไม่มีรายได้เพียงพอที่จะจ่ายเงินผ่อนกับดอกเบี้ยธนาคาร
ต้องขายทรัพย์สินใช้หนี้ในที่สุด จากชนชั้นกลางก็กลายเป็นคนยากไร้
ครอบครัวนี้เลยเดินหน้าไปหาทางออกในเมืองอื่น ความทุกข์ยากที่เจอร่วมกัน
มีแต่ความผูกพันและน้ำใจที่ช่วยจรรโลงให้ต่อสู้กับโลกทุนนิยมที่โหดร้ายได้
นี่คือหนังสือดีเล่มโดดเด่นในศตวรรษ ซึ่งได้รับรางวัลพูลิตเซอร์ในปี 1940 และรางวัลโนเบลในปี 1962
"ผลพวงแห่งความคับแค้น" เป็นสุ้มเสียงอันคับแค้นของชาวไร่ผู้สูญเสียที่ทำกิน
กลายเป็นผู้อพยพอันทุรนทุรายเพราะความแห้งแล้งของธรรมชาติ
และระบบทุนนิยมในยุคเศรษฐกิจตกต่ำ เป็นความแค้นของพลเมืองผู้ไร้โอกาสที่ทวีจำนวนขึ้นเรื่อยๆ
การต่อสู้แย่งชิงความอยู่รอดเพื่อครอบครัวระหว่างคนจนด้วยกัน
จึงเสมือนอะไรสักอย่างที่ต้องกัดกินกันเองอยู่ภายในกติกาแห่งกลุ่มทุน
เป็นหนังสือต้องห้ามในหลายประเทศที่กลายเป็นวรรณคดีซึ่งเยาวชนชาวอเมริกันทุกคนต้องอ่าน
และเป็นวรรณกรรมอันยิ่งใหญ่ของโลกที่นักอ่านไม่ควรพลาด
ที่มา http://goo.gl/WqSp6X
9.) รัสเซียขุดหลุมลึก Kola Superdeep Borehole
เพื่อทดสอบว่าชาติของตนสามารถขุดผิวโลกได้ลึกขนาดไหน
(แข่งขันกับสหรัฐอเมริกาขุดหลุมลึกใต้ผิวโลกในช่วงนั้น)
สามารถเจาะได้ลึกที่สุดในโลกบนคาบสมุทรบอลติก
ที่ความลึก 40,230 ฟุตจากผิวโลก (หรือ 7.5 ไมล์)
Credit : wikipedia
สภาพปากหลุมที่ขุดเจาะในตอนนี้ ที่มา http://goo.gl/eKaSRr
The Deepest Hole in the World, And What We've Learned From It
10.) ภาพยนตร์รัสเซียเรื่อง The Hobbit สร้างขึ้นในปี 1985(2528)
11.) บรรดานักโทษรัสเซียนิยมสักรูป Lenin กับ สตาลิน
เพราะมีคำสั่งห้ามทหารยิงภาพผู้นำรัฐ
12.) รัสเซียปฏิเสธการเข้าร่วมแข่งขันกีฬา Paralympics ในปี 1980(2523)
ด้วยการประกาศว่าชาติรัสเซีย ไม่มีประชาชนที่เป็นคนทุพพลภาพแม้แต่คนเดียว
13.) หน่วยสืบราชการลับ KGB พยายามจะขู่ว่าจะเปิดเผยความลับ
ภาพยนตร์ที่แอบถ่ายอดีตประธานาธิบดีอินโดนีเซีย Achmed Sukarno
ตั้งแต่เริ่มต้นจนจบเรื่องที่มีเพศสัมพันธ์กับสายลับหญิงชาวรัสเซียหลายคน
แต่เขากลับขอให้ทางรัสเซียทำสำเนาภาพยนตร์ให้อีกหลาย ๆ ชุด
เพราะว่าเมื่อเขากลับถึงประเทศแล้วจะได้นำไปฉาย
เป็นหนังกลางแปลงให้ชาวบ้านดูกันทั่วประเทศ
(เพื่อแสดงถึงความสามารถเก่งกาจยังเป็นชายวัยฉกรรจ์ของอดีตประธานาธิบดี)
14.) Alexey Pajitnov คือผู้สร้างเกมส์ Tetris
แต่ไม่เคยได้รับเงินซักบาทเดียวเลย
เพราะทางการรัสเซียถือว่าเป็นเจ้าของเทคนิคทุกอย่าง
15.) ต้องรอถึง 3 วันรัสเซียจึงยอมประกาศหายนะ
เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ผลิตไฟฟ้าที่เชอร์โนบิล Chernobyl
หลังจากที่หน่วยงานนิวเคลียร์ในสวีเดิน
ตรวจพบการแพร่กระจายของรังสี
16.) นายพลรัสเซียรายหนึ่งสั่งให้นักวิทยาศาสตร์
ผลิต Coca-Cola (ไร้สีดำ) ที่ดูเหมือนเหล้าวอสก้า
เพื่อไม่ให้กระอักกระอ่วนใจในการดื่มต่อหน้ากองทัพของเขา
17.) George Abramovich Koval คือ สายลับรัสเซียผู้ขโมยความลับ
ในเรื่องนิวเคลียร์อเมริกาจากโครงการ Manhattan
เรื่องนี้เพิ่งจะถูกเปิดเผยในปี 2002(2545) แต่ไม่ชัดเจน
จนกระทั่งในปี 2007 ประธานาธิบดี Vladimir Putin
ประกาศสรรเสริญว่าเขาคือ วีรบุรุษรัสเซีย
" ผู้กล้าหาญและมีความเป็นวีรบุรุษ ในการปฏิบัติภาระกิจขั้นสุดยอด "
เขาเป็นลูกชายชาวยิวอพยพเกิดที่ Sioux City รัฐ Iowa
ตอนเด็กพ่อพากลับไปเยี่ยมญาติชาวยิวที่ Khabarovsk ใกล้เขตแดนประเทศจีน
แล้วได้รับการคัดเลือกให้เข้าเรียนฝึกฝนเป็นสายลับใน
Soviet Main Intelligence Directorate เป็นเวลา 9 ปี มีชื่อลับว่า DELMAR
เมื่อกลับสหรัฐในปี 1940 ได้สมัครเป็นทหารกองทัพบกในปี 1943
หลังจากเข้าเรียนเทคนิคด้านไฟฟ้าในระดับวิทยาลัย
เพื่อนร่วมวิทยาลัยยอมรับว่า เขามีอายุมากกว่าคนอื่น ๆ ในชั้นเรียน
เป็นคนเรียนเก่งมาก สูบบุหรี่จัดมากจนนิ้วมือไหม้(สีเหลืองคราบนิโคติน) พูดติดสำเนียง Iowa
ชอบหลบหนีไปข้างนอกโรงเรียนโดยใช้หมอนกับผ้าห่มตบตาเพื่อนร่วมโรงนอนว่ากำลังนอนหลับ
(ความจริงเขาผ่านการเรียนวิชาเรื่องไฟฟ้าจากรัสเซียมาก่อนแล้ว)
ผลการเรียนที่ดีจึงได้ย้ายไปทำหน้าที่นักวิจัยในห้องปฏิบัติการอะตอมมิค
แล้วทะยอยส่งข้อมูลต่าง ๆ กลับไปให้รัสเซีย
ในเรื่องขบวนการสะกัดและผลิตระเบิดจาก plutonium และ uranium
หลังจากสิ้นสุดโครงการได้ทุนของกองทัพบกเรียนจนจบปริญญาตรีด้านไฟฟ้า
แล้วลาออกไปทำงานกับบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง
ในปี 1948 ได้บอกเพื่อนที่ทำงานว่าจะไปเที่ยวยุโรป
แล้วหายตัวไปโดยไม่มีใครทราบข่าวคราวว่าหายไปไหน
จน Kramish เพื่อนร่วมงาน ในโครงการ Manhattan
ได้ติดต่อสอบถามผ่านทางหน่วยงานต่าง ๆ จนจบลงที่ FBI
ที่สันนิษฐานสรุปว่าเขาเป็นจารชนสองหน้า
ในปี 2000 Kramish พบชื่อเขาโดยบังเอิญในหนังสืออ้างอิง
Mendeleev Chemical Institute ที่มอสโคว์
จึงลองหาหมายเลขโทรศัพท์ก็ได้พบรายชื่อเขาจึงได้โทรศัพท์พูดคุย
ภายหลังการพูดคุยเขาได้ให้ อีเมล์ เพื่อการติดต่อพูดคุยกันอย่างสม่ำเสมอ
เขายอมรับว่ากลับมารัสเซียได้งานเพียงแค่ช่างเทคนิคระดับล่าง
และทำหน้าที่สอนในบางรายวิชาโดยไม่ได้รับเกียรติยศหรือค่าตอบแทนอย่างไร
เพราะทางรัสเซียก็กล้วว่าจะเป็นพวกสายลับสองหน้าเช่นกัน
ก่อนตายเขาบอกว่า "ผมไม่เคยเสียใจในการทำเรื่องแบบนี้กับประเทศมาตุภูมิ
เพราะผมเชื่อมั่นในเรื่องของระบบ (ทุกอย่างเป็นเรื่องของขบวนการและระบบ) "
18.) ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 รัสเซียปลดปล่อยนักโทษในค่ายกักกันฝ่ายอักษะ
จำนวนมากมายกว่ากองทัพสัมพันธมิตรทุกชาติรวมกัน
(แต่กักกันคนในชาติที่เป็นนักโทษ/ทำให้นักโทษตายมากติดลำดับโลกเช่นกัน)
เรียบเรียง/ที่มา http://goo.gl/EWQ8F
The Union of Soviet Socialist Republics (or Soviet Union)
กลายเป็นชื่อในอดีตไปแล้ว
แต่เรื่องราวลึกลับตั้งแต่ก่อตั้งประเทศมากว่า 70 ปี
ที่รอการเปิดเผยมีมากมายหลายเรื่องมาก
ตั้งแต่เรื่องที่เลวร้ายที่สุดจนถึงเรื่องที่ดีที่สุด
มีเรื่องราวตัวอย่างที่ค่อนข้างแปลกแต่จริง
แม้ว่าจะเป็นเรื่องราวในอดีตบางเรื่องก็ตาม
แต่จะมีส่วนช่วยให้คนเราเข้าใจในเรื่อง
ภูมิรัฐศาสตร์ในทุกวันนี้ไม่มากก็น้อย
หมายเหตุ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
รัสเซีย จะแทนคำว่า สหภาพสาธารณะรัฐสังคมนิยมโซเวียต
1.) หนังสือเดินทางของรัสเซียในอดีตตรวจการปลอมได้ง่ายมาก
ตรวจด้วยการดึงลวดเย็บกระดาษออกมาได้เลยเพราะคุณภาพแย่มาก
2.) ทหารองครักษ์ต่างหวาดกลัว Stalin เป็นอย่างมาก
ถ้าไม่ได้มีคำสั่งอย่างไรก็ห้ามทำโดยเด็ดขาด
ทำให้ทหาร ฯ ต้องรอคอยอยู่นอกห้องนานถึง 12 ชั่วโมง
จึงจะเข้าไปพบได้แล้วพบว่า Stalin นอนเป็นอัมพฤกษ์ใกล้ตายแล้ว
กว่าจะตามตัวนายแพทย์มาดูแล Stalin ก็อาการหนักมากแล้ว
(มีคำสั่งว่า ถ้าครบ 12 ชั่วโมงแล้ว Stalin ยังไม่ออกจากห้องพัก
ให้สามารถพังห้องพักเข้าไปได้เลย เผื่อว่าเขาเป็นภยันตรายหรือล้มป่วยหนัก
ห้องพักภายในจะเงียบสงบมากและป้องกันภยันตรายขั้นสูงสุด
Stalin เป็นคนโรคจิตที่เกลียดเด็กมาก
เคยมีเด็ก ๆ หลายคนมาวิ่งเล่นส่งเสียงดังใกล้ที่พักของเขา
วันรุ่งขึ้นทั้งเด็กทั้งครอบครัวหายสาบสูญไปจากบริเวณนั้น)
3.) เอกสารทางรัฐการที่ยืนยันการล่มสลายของสหภาพโซเวียต
เพิ่งจะมีการประกาศอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2556
4.) สหรัฐอเมริกาเคยตกลงจะร่วมมือกับรัสเซีย
ในการสำรวจอวกาศร่วมกันมาก่อน
แต่เมื่ออดีตประธานาธิบดี Kennedy ถูกลอบสังหาร
รัสเซียยกเลิกความร่วมมือทันทีเพราะไม่ไว้ใจ
อดีตประธานาธิบดี Johnson ที่มารับตำแหน่งแทน
5.) ในปี 1933(2476) Stalin เนรเทศประชาชน 6,200 คน
ไปอยู่ที่เกาะรกร้างใน Siberia ทิ้งไว้แต่แป้งให้ทำอาหาร
แต่ไม่ทิ้งเครื่องมือก่อสร้างอาคารที่พักอาศัย(หลบภัยฝน/ภัยหนาว)
หนึ่งเดือนภายหลัง เจ้าหน้าที่รัฐกลับมาตรวจดูอีกครั้ง
ปรากฎว่าผู้ถูกเนรเทศตายไปแล้วกว่า 4,000 คน
6.) Vasili Blokhin หัวหน้าทีมงานเพชฌฆาตของรัสเซีย
ได้สังหารเจ้าหน้าที่ชาวโปแลนด์มากกว่า 7,000 คน
ด้วยปืนสั้นในช่วง 28 วันด้วยตนเองเพียงลำพัง
เฉลี่ยยิงทิ้ง 3 นาทีต่อหนึ่งศพ
โดยใช้เวลามากกว่าวันละ 10 ชั่วโมง
7.) ทารกเพศชายมากกว่า 80% ที่เกิดในรัสเซียในปี 1923(2466) ตายในสงครามโลกครั้งที่ 2
8.) ภาพยนตร์อเมริกาเรื่อง ผลพวงแห่งความคับแค้น (The Grapes of Wrath)
เคยฉายในรัสเซีย เพื่อโฆษณาเผยแพร่ความตกต่ำของลัทธิทุนนิยม
แต่ต่อมาถูกยกเลิกการฉายทันที เพราะผู้ชมรัสเซียต่างแปลกใจมาก
กับภาพที่คนจนที่สุดในสังคมทุนนิยม ตามท้องเรื่องมีรถยนต์/รถแทร็คเตอร์ส่วนตัว
สรุปย่อ ๆ เรื่องราวครอบครัวอเมริกันที่ทำฟาร์มโดยใช้แรงงานครอบครัวกับเพื่อนบ้าน
ต่อมาธนาคารกับบริษัทขายรถแทร็คเตอร์ ได้ร่วมมือสนับสนุนส่งเสริมการทำฟาร์มด้วยเครื่องมือจักรกลเกษตร
สุดท้ายก็ต้องพ่ายแพ้กับระบบทุนนิยม เพราะการใช้เครื่องจักรจะมาทดแทนแรงงาน
ทำให้คนอีกจำนวนมากมายต้องตกงานไปในที่สุด และเจ้าของฟาร์มบางแห่งก็ไม่รอดเช่นกัน
เพราะถ้าราคาพืชผลเกษตรไม่ดี ดินฟ้าอากาศไม่ดี ผลผลิตเกษตรก็ไม่ได้ผล
สุดท้ายก็ไม่มีรายได้เพียงพอที่จะจ่ายเงินผ่อนกับดอกเบี้ยธนาคาร
ต้องขายทรัพย์สินใช้หนี้ในที่สุด จากชนชั้นกลางก็กลายเป็นคนยากไร้
ครอบครัวนี้เลยเดินหน้าไปหาทางออกในเมืองอื่น ความทุกข์ยากที่เจอร่วมกัน
มีแต่ความผูกพันและน้ำใจที่ช่วยจรรโลงให้ต่อสู้กับโลกทุนนิยมที่โหดร้ายได้
นี่คือหนังสือดีเล่มโดดเด่นในศตวรรษ ซึ่งได้รับรางวัลพูลิตเซอร์ในปี 1940 และรางวัลโนเบลในปี 1962
"ผลพวงแห่งความคับแค้น" เป็นสุ้มเสียงอันคับแค้นของชาวไร่ผู้สูญเสียที่ทำกิน
กลายเป็นผู้อพยพอันทุรนทุรายเพราะความแห้งแล้งของธรรมชาติ
และระบบทุนนิยมในยุคเศรษฐกิจตกต่ำ เป็นความแค้นของพลเมืองผู้ไร้โอกาสที่ทวีจำนวนขึ้นเรื่อยๆ
การต่อสู้แย่งชิงความอยู่รอดเพื่อครอบครัวระหว่างคนจนด้วยกัน
จึงเสมือนอะไรสักอย่างที่ต้องกัดกินกันเองอยู่ภายในกติกาแห่งกลุ่มทุน
เป็นหนังสือต้องห้ามในหลายประเทศที่กลายเป็นวรรณคดีซึ่งเยาวชนชาวอเมริกันทุกคนต้องอ่าน
และเป็นวรรณกรรมอันยิ่งใหญ่ของโลกที่นักอ่านไม่ควรพลาด
ที่มา http://goo.gl/WqSp6X
9.) รัสเซียขุดหลุมลึก Kola Superdeep Borehole
เพื่อทดสอบว่าชาติของตนสามารถขุดผิวโลกได้ลึกขนาดไหน
(แข่งขันกับสหรัฐอเมริกาขุดหลุมลึกใต้ผิวโลกในช่วงนั้น)
สามารถเจาะได้ลึกที่สุดในโลกบนคาบสมุทรบอลติก
ที่ความลึก 40,230 ฟุตจากผิวโลก (หรือ 7.5 ไมล์)
Credit : wikipedia
สภาพปากหลุมที่ขุดเจาะในตอนนี้ ที่มา http://goo.gl/eKaSRr
The Deepest Hole in the World, And What We've Learned From It
10.) ภาพยนตร์รัสเซียเรื่อง The Hobbit สร้างขึ้นในปี 1985(2528)
11.) บรรดานักโทษรัสเซียนิยมสักรูป Lenin กับ สตาลิน
เพราะมีคำสั่งห้ามทหารยิงภาพผู้นำรัฐ
12.) รัสเซียปฏิเสธการเข้าร่วมแข่งขันกีฬา Paralympics ในปี 1980(2523)
ด้วยการประกาศว่าชาติรัสเซีย ไม่มีประชาชนที่เป็นคนทุพพลภาพแม้แต่คนเดียว
13.) หน่วยสืบราชการลับ KGB พยายามจะขู่ว่าจะเปิดเผยความลับ
ภาพยนตร์ที่แอบถ่ายอดีตประธานาธิบดีอินโดนีเซีย Achmed Sukarno
ตั้งแต่เริ่มต้นจนจบเรื่องที่มีเพศสัมพันธ์กับสายลับหญิงชาวรัสเซียหลายคน
แต่เขากลับขอให้ทางรัสเซียทำสำเนาภาพยนตร์ให้อีกหลาย ๆ ชุด
เพราะว่าเมื่อเขากลับถึงประเทศแล้วจะได้นำไปฉาย
เป็นหนังกลางแปลงให้ชาวบ้านดูกันทั่วประเทศ
(เพื่อแสดงถึงความสามารถเก่งกาจยังเป็นชายวัยฉกรรจ์ของอดีตประธานาธิบดี)
14.) Alexey Pajitnov คือผู้สร้างเกมส์ Tetris
แต่ไม่เคยได้รับเงินซักบาทเดียวเลย
เพราะทางการรัสเซียถือว่าเป็นเจ้าของเทคนิคทุกอย่าง
15.) ต้องรอถึง 3 วันรัสเซียจึงยอมประกาศหายนะ
เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ผลิตไฟฟ้าที่เชอร์โนบิล Chernobyl
หลังจากที่หน่วยงานนิวเคลียร์ในสวีเดิน
ตรวจพบการแพร่กระจายของรังสี
16.) นายพลรัสเซียรายหนึ่งสั่งให้นักวิทยาศาสตร์
ผลิต Coca-Cola (ไร้สีดำ) ที่ดูเหมือนเหล้าวอสก้า
เพื่อไม่ให้กระอักกระอ่วนใจในการดื่มต่อหน้ากองทัพของเขา
17.) George Abramovich Koval คือ สายลับรัสเซียผู้ขโมยความลับ
ในเรื่องนิวเคลียร์อเมริกาจากโครงการ Manhattan
เรื่องนี้เพิ่งจะถูกเปิดเผยในปี 2002(2545) แต่ไม่ชัดเจน
จนกระทั่งในปี 2007 ประธานาธิบดี Vladimir Putin
ประกาศสรรเสริญว่าเขาคือ วีรบุรุษรัสเซีย
" ผู้กล้าหาญและมีความเป็นวีรบุรุษ ในการปฏิบัติภาระกิจขั้นสุดยอด "
เขาเป็นลูกชายชาวยิวอพยพเกิดที่ Sioux City รัฐ Iowa
ตอนเด็กพ่อพากลับไปเยี่ยมญาติชาวยิวที่ Khabarovsk ใกล้เขตแดนประเทศจีน
แล้วได้รับการคัดเลือกให้เข้าเรียนฝึกฝนเป็นสายลับใน
Soviet Main Intelligence Directorate เป็นเวลา 9 ปี มีชื่อลับว่า DELMAR
เมื่อกลับสหรัฐในปี 1940 ได้สมัครเป็นทหารกองทัพบกในปี 1943
หลังจากเข้าเรียนเทคนิคด้านไฟฟ้าในระดับวิทยาลัย
เพื่อนร่วมวิทยาลัยยอมรับว่า เขามีอายุมากกว่าคนอื่น ๆ ในชั้นเรียน
เป็นคนเรียนเก่งมาก สูบบุหรี่จัดมากจนนิ้วมือไหม้(สีเหลืองคราบนิโคติน) พูดติดสำเนียง Iowa
ชอบหลบหนีไปข้างนอกโรงเรียนโดยใช้หมอนกับผ้าห่มตบตาเพื่อนร่วมโรงนอนว่ากำลังนอนหลับ
(ความจริงเขาผ่านการเรียนวิชาเรื่องไฟฟ้าจากรัสเซียมาก่อนแล้ว)
ผลการเรียนที่ดีจึงได้ย้ายไปทำหน้าที่นักวิจัยในห้องปฏิบัติการอะตอมมิค
แล้วทะยอยส่งข้อมูลต่าง ๆ กลับไปให้รัสเซีย
ในเรื่องขบวนการสะกัดและผลิตระเบิดจาก plutonium และ uranium
หลังจากสิ้นสุดโครงการได้ทุนของกองทัพบกเรียนจนจบปริญญาตรีด้านไฟฟ้า
แล้วลาออกไปทำงานกับบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง
ในปี 1948 ได้บอกเพื่อนที่ทำงานว่าจะไปเที่ยวยุโรป
แล้วหายตัวไปโดยไม่มีใครทราบข่าวคราวว่าหายไปไหน
จน Kramish เพื่อนร่วมงาน ในโครงการ Manhattan
ได้ติดต่อสอบถามผ่านทางหน่วยงานต่าง ๆ จนจบลงที่ FBI
ที่สันนิษฐานสรุปว่าเขาเป็นจารชนสองหน้า
ในปี 2000 Kramish พบชื่อเขาโดยบังเอิญในหนังสืออ้างอิง
Mendeleev Chemical Institute ที่มอสโคว์
จึงลองหาหมายเลขโทรศัพท์ก็ได้พบรายชื่อเขาจึงได้โทรศัพท์พูดคุย
ภายหลังการพูดคุยเขาได้ให้ อีเมล์ เพื่อการติดต่อพูดคุยกันอย่างสม่ำเสมอ
เขายอมรับว่ากลับมารัสเซียได้งานเพียงแค่ช่างเทคนิคระดับล่าง
และทำหน้าที่สอนในบางรายวิชาโดยไม่ได้รับเกียรติยศหรือค่าตอบแทนอย่างไร
เพราะทางรัสเซียก็กล้วว่าจะเป็นพวกสายลับสองหน้าเช่นกัน
ก่อนตายเขาบอกว่า "ผมไม่เคยเสียใจในการทำเรื่องแบบนี้กับประเทศมาตุภูมิ
เพราะผมเชื่อมั่นในเรื่องของระบบ (ทุกอย่างเป็นเรื่องของขบวนการและระบบ) "
18.) ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 รัสเซียปลดปล่อยนักโทษในค่ายกักกันฝ่ายอักษะ
จำนวนมากมายกว่ากองทัพสัมพันธมิตรทุกชาติรวมกัน
(แต่กักกันคนในชาติที่เป็นนักโทษ/ทำให้นักโทษตายมากติดลำดับโลกเช่นกัน)
เรียบเรียง/ที่มา http://goo.gl/EWQ8F
14.) Alexey Pajitnov คือผู้สร้างเกมส์ Tetris
แต่ไม่เคยได้รับเงินสักบาทเดียวเลย
เพราะทางการรัสเซียถือว่าเป็นเจ้าของเทคนิคทุกอย่าง
แต่ไม่เคยได้รับเงินสักบาทเดียวเลย
เพราะทางการรัสเซียถือว่าเป็นเจ้าของเทคนิคทุกอย่าง
ขอบคุณที่มา: https://pantip.com/topic/32815635
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
44 VOTES (4/5 จาก 11 คน)
VOTED: todaysayhi, ดูดี มีชาติตระกูล, khunwat, Tabebuia, ท่านแมวฮั่ว, สาวๆ ทักมาจะยินดีมาก, บางครั้งฟังแจ๊ซ
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ราคาทองร่วงหนักHot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
วัยรุ่นฟันน้ำนม!! เต้นบีบอยอย่างเทพ รุ่นนี้ยังใส่แพมเพิสอยู่เลย เก่งแท้เจ้าหนูเอ้ย"แซมมี่-แชมป์ ฉลองลอยกระทงในสไตล์คู่รักสุดเก๋ ธีมสลับร่างสุดฟิน"