ท่านทราบไหมมูลค่าตลาดบ้านของไทยปีละเท่าไหร่
หลายคนคงไม่ทราบว่ามูลค่าการขายบ้านเป็นเงินปีละเท่าไหร่ ถ้าเราทราบตัวเลขที่น่าตกใจนี้ เราน่าจะมีกระทรวงที่อยู่อาศัยด้วยซ้ำไป!
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) ได้วิเคราะห์ตัวเลขที่อยู่อาศัยทั่วประเทศและขนาดของธุรกิจที่อยู่อาศัยไว้ดังนี้:
1. มูลค่าของที่อยู่อาศัยทั่วประเทศมีมูลค่าประมาณ 48 ล้านล้านบาท ทั้งนี้พิจารณาจากตัวเลขที่อยู่อาศัยประมาณ 24 ล้านหน่วย ๆ ละประมาณ 2.005 ล้านบาท
2. ในแต่ละปีมีการซื้อขายบ้านกันประมาณ 793,475 หน่วย โดย 3 ส่วนเป็นบ้านมือสอง (600,000 หน่วย) อีกหนึ่งส่วนเป็นบ้านมือหนึ่ง (193,475 หน่วย) จะเห็นได้ว่าธุรกิจการขายบ้านมือสองมีขนาดใหญ่กว่าการขายบ้านมือหนึ่งเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เพราะตลอดช่วงที่ผ่านมามีการผลิตที่อยู่อาศัยมากมาย จนการผลิตที่อยู่อาศัยมือหนึ่งปีละ 100,000 หน่วย มีสัดส่วนในตลาดลดลงตามลำดับ
3. มูลค่าตลาดบ้านมือหนึ่งทั่วประเทศเป็นเงิน 382,110 ล้านบาท และในจังหวัดภูมิภาคอีก 171,950 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 554,060 ล้านบาท การที่ธุรกิจที่อยู่อาศัยมีขนาดใหญ่อย่างนี้ รัฐบาลจึงควรให้บริการข้อมูลที่ดี รวดเร็ว ทันสมัยให้กับประชาชนเป็นสำคัญ ไม่ใช่เน้นต่อเฉพาะผู้ประกอบการพัฒนาที่ดิน เพราะผู้บริโภคเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่สำคัญที่สุด
4. มูลค่าของบ้านมือหนึ่งต่อบ้านมือสองของไทยเท่ากับ 1: 2.2 คือขายขายมือหนึ่ง 1 ส่วนคือ 554,060 ล้านบาท แต่ขายบ้านมือสอง 1,202,767 ล้านบาท ในอนาคตตลาดบ้านมือสองก็จะเพิ่มขึ้นทั้งจำนวนและมูลค่า เพราะการสร้างบ้านมือหนึ่งจะไม่สามารถสร้างได้มากมายเช่นแต่ก่อน เนื่องจากมีอุปทานมือสองเพิ่มขึ้นตามลำดับ และบ้านมือสองก็มักมีราคาถูกกว่า ทำให้ดึงดูดความต้องการของลูกค้าได้มาก
5. สำหรับค่านายหน้า ที่ได้จากการขายบ้านมือหนึ่งมีเพียง 2,493 ล้านบาท เพราะบ้านมือหนึ่งส่วนใหญ่ขายโดยผู้ประกอบการพัฒนาที่ดินเอง ส่วนค่านายหน้าบ้านมือสองเป็นเงินประมาณ 8,018 ล้านบาท แสดงว่าค่านายหน้าจากการขายบ้านมือหนึ่ง ถ้าสมมติให้เป็น 1 ค่านายหน้าจากการขายบ้านมือสองจะมีขนาดใหญ่กว่าคือ 3.2 เท่านั่นเอง
6. ในแต่ละปี ธุรกิจนายหน้าที่อยู่อาศัยทั้งบ้านและห้องชุดมือหนึ่งและมือสองรวมเป็นเงิน 10,512 ล้านบาท ถือว่าเป็นกิจการขนาดใหญ่พอสมควร แต่ปรากฏว่าประเทศไทยยังไม่มีการควบคุมวิชาชีพนายหน้าเพื่อประโยชน์ของผู้บริโภคเลย
จะเห็นได้ว่าวิชาชีพสำคัญในอนาคตจะเป็นวิชาชีพนายหน้า ไม่ใช่ธุรกิจพัฒนาที่ดินเช่นแต่ก่อน บริษัทนายหน้าที่มีการบริหารจัดการที่ดี และขยายตัวได้เร็วอาจมีขนาดใหญ่กว่าบริษัทพัฒนาที่ดินในตลาดหลักทรัพย์บางแห่งเสียอีก เพราะการขายบ้านผ่านนายหน้าจะมีเพิ่มขึ้นตามลำดับ
โดยที่บ้านในประเทศไทยมีถึง 24 ล้านหน่วยโดยประมาณ รวมมูลค่า 48 ล้านล้านบาท และอุตสาหกรรมที่อยู่อาศัยมีมูลค่า 554,060 ล้านบาทต่อปี ธุรกิจนายหน้ามีวงเงินปีละ 10,512 ล้านบาท เราควรจะลงทุนด้านข้อมูลเพื่อประโยชน์ของประชาชนเจ้าของประเทศเป็นที่ตั้ง จะได้ไม่สุ่มเสี่ยงซื้อบ้านด้วยความมืดบอด ทำให้เกิดปัญหาในวงการพัฒนาที่ดินและเศรษฐกิจโดยรวม