วัดกู่เสือ พระอารามสงบงามบนถนนต้นยางเก่าแก่
วัดกู่เสือ พระอารามสงบงามบนถนนต้นยางเก่าแก่
ถนนสายเชียงใหม่-ลำพูน เป็นถนนที่มีเสน่ห์ไม่เหมือนใคร เพราะมีต้นยางขนาดใหญ่เรียงรายอยู่ตลอดสองข้างทาง ยามใดที่มีโอกาสได้สัญจรบนถนนสายนี้ รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังเดินทางอยู่ระหว่างโลกที่ผสานอดีตกับปัจจุบันไว้ด้วยกัน นอกจากความยิ่งใหญ่ของต้นยางแล้ว ยังมีวัดที่เป็นศูนย์รวมจิตใจของคนในชุมชนตั้งอยู่หลายวัด แต่ก็ไปสะดุดตากับทางเข้าวัดแห่งหนึ่งที่เป็นพญานาคสีขาวสองตนทอดตัวยาวนำไปสู่เขตพัทธสีมาของวัดแห่งนี้
ทางเข้าวัดกู่เสือ ต้นไม้ร่มรื่นมาก
วัดกู่เสือตั้งอยู่บนถนนเชียงใหม่-ลำพูน ตำบลยางเนิ้ง อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๐๔ เดิมชื่อว่า “วัดปูเสื้อ” ตำนานเล่าว่าก่อนที่จะตั้งวัด ณ บริเวณปัจจุบัน วัดแห่งนี้เคยตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำปิง มีพระธุดงค์รูปหนึ่งเดินทางมาพักที่นี่ ชาวบ้านในละแวกนี้ต่างพากันมากราบไหว้ นำภัตตาหารมาถวาย เมื่อเห็นว่าท่านไม่มีอะไรรองนั่ง จึงถอดเสื้อให้ปูนั่ง เมื่อท่านสร้างวัดขึ้นในบริเวณดังกล่าว จึงตั้งชื่อพระอารามว่า “วัดปูเสื้อ” เพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์ในครั้งนั้น
บรรยากาศภายในวัด
ต่อมาวันนี้ถูกน้ำท่วม ประกอบกับเมืองเชียงใหม่ทำศึกสงครามกับพม่า วัดจึงร้างในที่สุด เมื่อมีคนอพยพมาตั้งถิ่นฐานใหม่ เห็นว่าวัดปูเสื้อเหลือแต่ซาก ปฏิสังขรณ์ให้ดีดังเดิมได้ยาก จึงย้ายมาสร้างวัดบริเวณฝั่งตะวันออกของแม่น้ำปิง ซึ่งมีกู่ร้าง (เจดีย์ร้าง) ตั้งอยู่ก่อนแล้ว จึงสร้างเจดีย์ครอบกู่องค์เดิมไว้ และตั้งชื่อใหม่ว่า “วัดกู่เสือ” เนื่องจากมีเสือท้องแก่ตัวหนึ่งมาคลอดลูกใกล้ๆ
ศาลาครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนา
บรรยากาศภายในวัดเป็นระเบียบเรียบร้อย แลดูสะอาด ต้นไม้พอมีให้ความร่มรื่นกับผู้มาเยือน จุดแรกที่จะพาไปชมคือ ศาลาครูบาศรีวิชัย อยู่บริเวณทางเข้าวัดเลยค่ะ เป็นอาคารสถาปัตยกรรมไทใหญ่ หลังคาซ้อนกัน ๕ ชั้น ภายในเป็นที่ประดิษฐานรูปเหมือนครูบาศรีวิชัย และพระสีวลี ฝั่งตรงข้ามเป็นวิหารจตุรมุขขนาดเล็กส่วนยอดเป็นองค์ระฆังคว่ำสีขาวภายในเป็นที่ประดิษฐานรูปเหมือนของพระครูท่านหนึ่ง คาดว่าเป็นผู้สร้างวัดนี้
พระวิหารของวัด
หมู่พระประธานภายในวิหาร
พระวิหาร เป็นอาคารก่ออิฐถือปูนสถาปัตยกรรมล้านนา หลังคาซ้อนกัน ๒ ชั้น หน้าบันเป็นงานแกะสลักไม้ลวดลายพรรณพฤกษา ผนังด้านหน้ามีงานจิตรกรรมรูปรามสูรขว้างขวาน ซุ้มประตูทางเข้าเป็นปูนปั้นรูปเทพพนมล้อมรอบด้วยลายพรรณพฤกษา ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยเป็นพระประธาน ส่วนที่ฝาผนังมีจิตรกรรมเล่าเรื่องพุทธประวัติ และทศชาติชาดก
พระเจดีย์ประธานของวัดกู่เสือ "พระเจดีย์สะหลีพยัคฆาวนาราม"
พระเจดีย์สะหลีพยัคฆาวนาราม ศิลปะล้านนา อยู่ด้านหลังพระวิหาร ฐานล่างสุดเป็นฐานสี่เหลี่ยมรับกับฐานย่อเก็จ ๔ ชั้น มีปูนปั้นรูปเสือหลายตัววางเรียงรายอยู่ เหนือขึ้นไปเป็นฐานย่อเก็จยกสูงรับกับมาลัยเถา ๗ ชั้น ถัดขึ้นไปเป็นองค์ระฆังคว่ำ ส่วนยอดเป็นฉัตรสีทอง ๗ ชั้น
พระอุโบสถ
ศาลาจตุรมุข
พระอุโบสถ อยู่ด้านข้างพระเจดีย์ สถาปัตยกรรมล้านนา บริเวณหน้าบันตลอดจนเสาและประตูทางเข้าโดดเด่นด้วยลายปูนปั้นสีทองตัดกับพื้นสีแดง พื้นที่ส่วนนี้เป็นเขตสังฆกรรมนะคะ ฆราวาสอย่างเราไม่ควรเข้าไปในนั้นค่ะ เพียงแค่ชมความงามภายนอกก็พอแล้ว
นอกจากนั้นภายในวัดยังมีจุดอื่นๆ ที่น่าสนใจ คือ หอไตร ศาลามาต๋ามหน้าบุญ ศาลเจ้าพ่อไวยทัต และพระพุทธรูปปางมารวิชัยทรงเครื่องอยู่ใต้ต้นโพธิ์ ส่วนการเดินทางมาสู่วัดนี้จากสี่แยกหนองหอยมาตามถนนเชียงใหม่-ลำพูนประมาณ ๔.๖ กิโลเมตร พอเห็นพญานาคสีขาวก็เลี้ยวเข้าไปในวัดได้เลยค่ะ
เรื่องและภาพโดย เลดี้ ดาริกา