วิธีง่ายๆในการป้องกันปัญหาส้นเท้าแตก
ไม่มีใครอยากส้นเท้าแตกลายงาแน่นอน หลายๆคนที่ส้นเท้าแตกก็เป็นกังวลกันมากมาย ทั้งหาครีมกันส้นเท้าแตกมาทา หาโลชั่นมาทาเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น หายามาทาบ้าง ไปหาหมอบ้าง เพราะว่ากลัวจะเท้าไม่สวย ใส่รองเท้าเปิดส้นก็อาย วันนี้เรามีวิธีง่ายๆในการป้องกันปัญหาส้นเท้าแตกมาฝากกันค่ะรู้ไว้จะได้ไม่เกิดปัญหาส้นเท้าแตกค่ะ
1 เมื่อเราจะเป็นต้องใช้เท้าในการเดินทุกๆวัน ส้นเท้าเป็นส่วนหนึ่งของการรับน้ำหนักในการเดินมากที่สุด ดังนั้นหากคุณมีน้ำหนักตัวมากเกินไป ก็จะทำให้ส้นสามารถเกิดปัญหาได้ง่ายกว่าเดิม ดังนั้น เริ่มต้นที่การควบคุมน้ำหนักของคุณ ไม่ให้มันมากเกินไป เพื่อจะได้ไม่เกิดปัญหาแรกที่ส้นเท้าจะแตกนั่นเอง
2 เลือกใส่รองเท้าที่มีความนุ่ม มากกว่ารองเท้าที่มีส้นแข็ง ใส่แล้วเจ็บ แบบนี้ไม่แนะนำ เพราะว่ายังไงรองเท้าก็เป็นสิ่งที่เราใส่ป้องกันเท้า เพื่อเดินไปนู่นไปนี่เสมอ หากใส่รองเท้าที่ไม่ดี มีรวดลายมากเกินไป เกินการเสียดสีระหว่างรองเท้ากับส้นเท้า จนเท้าด้าน พอด้านมากๆ ส้นเท้าก็จะแข็ง จากนั้นก็จะเกิดปัญหาส้นเท้าแตกขึ้นมา ดังนั้น แก้ปัญหาด้วยการเลือกซื้อรองเท้าที่เป็นมิตรกับเท้าของคุณจะดีที่สุด
3 หมั่นหาครีมหรือโลชั่นมาบำรุงส้นเท้าอย่างสม่ำเสมอ หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ใส่รองเท้าผ้าใบ หรือรองเท้าหุ้มส้นบ่อยๆ จะทำให้เกิดการเสียดสีจนส้นเท้ามีความแข็งกระด้าง แล้วยิ่งในหน้าหนาว บางคนผิวแตกไปจนถึงส้นเท้า ดังนั้น กมีความชุ่มชื่นมาคอบหล่อเลี้ยง บำรุงส้นเท้าด้วยครีมหรือโลชั่นเสมอ รับรองว่าส้นเท้าของคุณไม่มีวันแตกลายงาอย่างแน่นอน
4 การยืน การนั่ง การนอน มีผลส่งต่อส้นเท้าเสมอ การนอนนั้นเป็นการที่เราแทบจะไม่ได้ใช้การทำงานของส้นเท้า แต่วันๆหนึ่งจะให้เรามานอนทั้งวันก็ไม่ได้ การนั่งก็เป็นการใช้ส้นเท้าน้อย นอกจากการยันพื้นขณะนั่งเก้าอี้ แต่จะไปนั่งตลอดเวลาไม่ไปไหนก็ไม่ใช่เรื่อง ส่วนการยืนแน่นอนว่าเป็นปัญหาใหญ่ของส้นเท้า เพราะว่าได้รับการรับน้ำหนักอย่างเต็มที่ สำหรับคนงานที่ต้องใช้งานยืนมากกว่าการนั่ง มักจะมีปัญหาส้นเท้าแตกอย่างนอน ดังนั้น ควรพักการยืนซะบ้าง ลดการยืนให้น้อยที่สุดเท้าที่จะทำได้
5 การทานอาหารอย่างมีประโยชน์ เรียกว่าเป็นการบำรุงตั้งแต่ภายใน เน้นการทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะการดื่มน้ำตามมากๆ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นจากภายในออกมาสู่ภายนอกทำให้ร่างกายของเรามีน้ำมีนวล ไปจนถึงส้นเท้า ทำให้ลดปัญหาส้นเท้าแตกลงได้
แหล่งที่มา: thaihealth.or.th
www.khanpaklive.com
สถิติหวย ย้อนหลัง 10 ปี เลขท้าย 2 ตัว งวด 16 ธันวาคม
10 อันดับ บุคคลฉาว-ช็อก! ที่คนไทยค้นหามากที่สุดประจำปี 2568
กรมศิลป์บินลัดฟ้ารับ ‘โพธิสัตว์ประโคนชัย’ คืนจากสหรัฐ
ฐานปฏิบัติการ HBQ โดนถล่ม ดับยกตี้ 46 ศพ
เลขเด็ด ม้าสีหมอก งวด 16/12/68: แนวทางจัดเต็ม 2 ตัวบน-ล่าง
เขมร!ระส่ำแล้ว สูญเสีย 4 นายพลหน่วย BHQ
ฮาร์วาร์ดเผย 11 อาหารที่ช่วยล้างไขมันเลว กินทุกวันเพื่อเคลียร์หลอดเลือดและป้องกันโรคหัวใจ
ทรัมป์ออกโรงแล้ว เตรียมเจรจาไทยและเขมร
เเนวทางเลขเด็ดซีเกมส์ครั้งที่ 33
เบื้องหลัง "หัวปากกา" ชิ้นจิ๋ว ความยากระดับสร้างยานอวกาศ ที่มหาอำนาจหลายชาติยังยอมแพ้
ฮุนเซนเรียกร้องให้ปชช.ซื้อข้าวในประเทศเพื่อมอบให้กองทัพ
ปิดฉากจักรวาล เพิกถอน JKN ออกจากตลาดหลักทรัพย์
ทรัมป์ออกโรงแล้ว เตรียมเจรจาไทยและเขมร
10 อันดับ บุคคลฉาว-ช็อก! ที่คนไทยค้นหามากที่สุดประจำปี 2568
เขมร ยิง BM-21 ใส่โรงบาลพนมดงรัก
22 ปีเพลงรักในสายลมหนาว… นักแสดงเป็นอย่างไรบ้าง? จากตำนานฮัลรยูสู่ความจริงที่ชวนคิดถึง
จับชาวต่างชาติ 2 คน แปะคิวอาร์โค้ดขายยาเสพติดทั่วกรุง ใช้ AI ตอบลูกค้า
เขมร!ระส่ำแล้ว สูญเสีย 4 นายพลหน่วย BHQ
10 อันดับ บุคคลฉาว-ช็อก! ที่คนไทยค้นหามากที่สุดประจำปี 2568
5 มิติของความจนที่คนอาจไม่เข้าใจ
รีวิวการกินไข่วันละ 6 ฟอง ปีละกว่า 2,000 ฟอง เผยผลลัพธ์ที่น่าทึ่งต่อร่างกาย
ยอมอดดีกว่ากิน 4 ผลไม้ที่เป็น "กับดักน้ำตาล" เพราะอาจทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนได้ แม้ไม่หวานก็ยังทำร้ายตับได้!