หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

เบื้องลึกอสังหาฯ ปี 60 จะเกิดวิกฤตจริงหรือ?

โพสท์โดย areathai

เบื้องลึกอสังหาฯ ปี 60 จะเกิดวิกฤตจริงหรือ?

           การสำรวจของศูนย์จข้อมูลฯ นี้ สำรวจข้อมูลในฐานะผู้ที่จะซื้อบ้านหรือทรัพย์สิน ไม่ได้ไปในฐานะเจ้าหน้าที่ และศูนย์ข้อมูลฯ ก็ไม่ได้เป็นนายหน้าหรือไม่ได้พัฒนาที่ดินเอง จึงตั้งใจนำเสนอข้อมูลที่เที่ยงตรงเป็นกลางที่สุด โดยไม่เข้าข้างหรือให้ร้ายฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง และการสำรวจนี้ที่ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง จึงครอบคลุมโครงการ (แทบ) ทั้งหมด ทำให้เห็นความเปลี่ยนแปลงอย่างเด่นชัด และเป็นแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือและสามารถอ้างอิงได้มากที่สุดในประเทศไทย



 

 



เจาะลึกสินค้าเปิดใหม่

           ในจำนวนสินค้าเปิดใหม่ 110,577 หน่วยนั้น มีจำนวนถึง 58,350 หน่วย หรือ 53% เป็นห้องชุดพักอาศัย รองลงมาคือทาวน์เฮาส์ 29,932 หน่วย (27%) และบ้านเดี่ยว 12,146 หน่วยหรือ 11% อาจกล่าวได้ว่าสินค้าราคาไม่เกิน 2 ล้านบาททั้งหมดที่เปิดตัวมี 36% ของทั้งหมด และหากนับรวมสินค้าที่มีราคาปานกลางทั้งหลาย (คือ ณ ราคาไม่เกิน 3 ล้านบาทต่อหน่วย) จะพบว่ามีสัดส่วนรวมกันสูงถึง 61% ของทั้งหมด ส่วนสินค้าที่มีราคาแพงคือตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไปนั้น มีเพียง 3,295 หน่วย หรือเพียง 3% ของทั้งตลาด แต่มีมูลค่ารวมกันถึง 18% ของทั้งตลาด

 





เจาะลึกสินค้าที่เปิดตัวสูงสุด

           ศูนย์ข้อมูลฯ เป็นแหล่งข้อมูลแหล่งเดียวที่สามารถเจาะลึกข้อมูลที่ชัดเจนที่สุด โดยจะพบว่า

           1. สินค้าที่เปิดตัวสูงสุดก็คือห้องชุดราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท แถวทำเล G3 อ่อนนุช-ศรีนครินทร์ โดยเปิดขึ้นถึง 2,209 หน่วย และภายในห้วงเวลาเดียวกันก็สามารถขายได้สูงถึง 2,262 หน่วย เหลือเพียง 47 หน่วย นับเป็นการเปิดตัวถึง 5.1% ของทั้งหมด (110,577 หน่วย)

           2. อันดับสองเป็นห้องชุด ราคา 1-2 ล้านบาท แถวทำเล C1 รัตนาธิเบศร์-จัสโก้ โดยเปิดขายถึง 2,032 หน่วย ขายได้เร็วมากถึง 1,962 หน่วย เหลือเพียง 70 หน่วย นับว่าเปิดขายถึง 4.7% ของอุปทานทั้งปี 2559

           3. อันดับ 3 ก็คือห้องชุดราคา 2-3 ล้านบาท แถว F5 รัชดาภิเษก-ลาดพร้าว โดยเปิดถึง 1,911 หน่วย ขายได้แล้ว 1,203 หน่วย เหลือ 708 หน่วย นับว่าเปิดตัวรวมกันถึง 4.4%

           4. อันดับ 4 คือ ห้องชุดแถว G3 อ่อนนุฃ-ศรีนครินทร์ ทำเลเดิม แต่เป็น ณ ราคา 3-5 ล้านบาท เปิดขายถึง 1,880 หน่วย ขายได้แล้ว 1,294 หน่วย นับว่าเปิดถึง 4.3% ของทั้งหมด

           5. อันดับ 5 เป็นทำเล L3 บางพลัด เปิดขายห้องชุดราคา 2-3 ล้านบาท จำนวน 1,833 หน่วย ขายได้ดีมากถึง 1,448 หน่วย และกลุ่มนี้มีสัดส่วนในตลาดถึง 4.2%

           จะสังเกตได้ว่าใน 20 กลุ่มแรกของสินค้าแยกตามทำเล ประเภทและระดับราคาที่เปิดขายมากที่สุดนั้น เกือบทั้งหมดเป็นห้องชุดพักอาศัย มีเพียง ทาวน์เฮาส์ราคา 1-2 ล้านบาท แถว G5 ลาดกระบัง และแถว H8 บางนา-ตราด กม.10-30 ที่เปิดขายมากถึง 1,314 และ 1,308 หน่วย แต่การขายยังค่อนข้างช้าอยู่







ภาพรวมของการขายสินค้า

           ศูนย์ข้อมูลฯ พบว่า อุปทานที่เปิดขายใหม่ ทั้งปี 59 จำนวนโครงการ จำนวนหน่วยขาย เพิ่มขึ้น แต่มูลค่า และราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยลดลง เมื่อเปรียบเทียบกับปี 58

           1. จำนวนโครงการเปิดใหม่ปี 59 จำนวน 453 โครงการ เพิ่ม 28 โครงการ (7%) จากปี 58  

           2. จำนวนหน่วยขายเปิดใหม่ปี 59 จำนวน 110,577 หน่วย เพิ่ม 2,587 หน่วย (4%) จากปี 58

           3. มูลค่าโครงการปี 59 จำนวน 382,110 ล้านบาท ลดลง 52,946 ล้านบาท (-12%) จากปี 58

           4. ราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วย 3.456 ล้านบาท ลดลง (-14%) จากราคา 4.029 ล้านบาท ณ สิ้นปี 58

           ยอดซื้อ ปี 2559 จำนวน 98,408 หน่วย ลดลงจากปี 58 จำนวน 5,489 หน่วย หรือ (-5%) ทั้งนี้สามารถแยกแยะได้ดังนี้:

           บ้านเดี่ยว:   หน่วยขายเปิดใหม่ทั้งปี 59 จำนวน 12,146 หน่วย ลด 418 หน่วย (-3%) จากปี 58

                                 อุปทานเหลือขาย 39,527 หน่วย ลดลง 299 หน่วย (-0.8%) จากสิ้นปี 58

                                 ขายได้ปี 59 จำนวน 12,445 หน่วย เพิ่ม 327 หน่วย (3%) จากปี 58

           ทาวน์เฮ้าส์:        หน่วยขายเปิดใหม่ทั้งปี 29,932 หน่วย เพิ่ม 4,932 หน่วย (20%) จากปี 58

                                 อุปทานเหลือขาย 54,654 หน่วย เพิ่ม 5,655 หน่วย (12%) จากสิ้นปี 58

                                 ขายได้ปี 59 จำนวน 24,277 หน่วย ลดลง 2,868 หน่วย (-11%) จากปี 58

          ห้องชุดพักอาศัย: หน่วยขายเปิดใหม่ 58,350 หน่วย ลด 4,483 หน่วย (-7%) จากปี 58

                                 อุปทานเหลือขาย 69,798 หน่วย เพิ่ม 2,449 หน่วย (4%) จากสื้นปี 58

                                 ขายได้ปี 59 จำนวน 55,901 หน่วย ลด 3,119 หน่วย (-5%) จากปี 58

           อาจกล่าวได้ว่าอุปสงค์ ทั้งปีโดยรวมลดลง 5,489 หน่วย หรือ -5.3% จากปี 2558 ยิ่งกว่านั้น สิ่งที่น่าเป็นห่วงก็คือ อุปทานคงเหลือสะสม รวม ณ สิ้นปี 2559 เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 58 ประมาณ 7.2% จาก 171,905 หน่วย ณ สิ้นปี 58 เพิ่มเป็น 184,329 หน่วย (เพิ่ม 12,424 หน่วย)


 




สัญญาณอันตราย สินค้าหยุดการขาย

           สินค้าที่หยุดการขาย คือสินค้าที่แสดงให้เห็นถึงภาวะที่ย่ำแย่ ไม่สามารถขายออกได้ เป็นดัชนีสำคัญอันหนึ่งของตลาดที่อยู่อาศัย จากการสำรวจของศูนย์ข้อมูลฯ พบว่า

           1. ณ สิ้นปี 2559 มีสินค้าที่หยุดการขายไปจำนวนรวม 165 โครงการ 47,256 หน่วย มูลค่า 118,155 ล้านบาท

           2. ณ กลางปี 2559 มีจำนวน 150 โครงการ 38,647 หน่วย มูลค่า 105,973 ล้านบาท

           การนี้แสดงว่าจำนวนโครงการที่หยุดการขายเพิ่ม 15 โครงการ (8%) หน่วยขายเพิ่ม 8,609 หน่วย (22%) มูลค่าเพิ่ม 12,182 ล้านบาท (11%) ยิ่งหากเทียบทั้งปีคือเมื่อเดือนธันวาคม 2558 จะพบว่า สินค้าที่หยุดการขายมีเพียง 37,723 หน่วย ขณะนี้เพิ่มขึ้นถึง 25% ส่วนมูลค่าเพิ่มขึ้นจาก 99,499 ล้านบาท เป็น 118,155 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 19%

           สำหรับเหตุผลที่โครงการเจ๊งไปเพราะสถานบันการเงินไม่อำนวยสินเชื่อ 26% ไม่ผ่านการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม 24% และขายไม่ออก 16% อย่างไรก็ตามเมื่อเทียบกับอุปทานโดยรวมทั้งหมดแล้ว จะพบว่ายังไม่เป็นสัญญาณที่ถึงขีดอันตราย แต่หากในอนาคตยังพุ่งไม่หยุด ก็อาจเป็นปัญหาได้









อันดับบริษัทพัฒนาที่ดิน

           อันดับของบริษัทพัฒนาที่ดิน 3 อันดับแรก เรียงเหมือนกันทั้งจำนวนหน่วยและมูลค่า ดังนี้:

           1. บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท ยังครองส่วนแบ่งตลาดสูงสุดโดยเปิดตัวโครงการจำนวนมากที่สุดถึง 42 โครงการ รวม 15,402 หน่วย รวมมูลค่า 37,673 ล้านบาท มีสัดส่วนในตลาด 14.3% ในแง่จำนวนหน่วย และ 8.7% ในแง่มูลค่าการพัฒนา

           2. อันดับสองคือ บมจ.เอพี (ไทยแลนด์) เปิดขาย 19 โครงการในปี 2559 รวมมูลค่า 25,098 ล้านบาท รวม 6,821 หน่วย มีสัดส่วนในตลาด 6.3% ในแง่จำนวนหน่วย และ 5.8% ในแง่มูลค่าการพัฒนา

           3. อันดับที่สามก็คือ บมจ.ศุภาลัย โดยเปิดพัฒนาถึง 14 โครงการ รวม 5,514 หน่วย รวมมูลค่า 20,824 ล้านบาท โดยอาจกล่าวได้ว่าบริษัทนี้มีสัดส่วนในตลาด 5.1% ในแง่จำนวนหน่วย และ 4.8% ในแง่ของมูลค่า

           อาจกล่าวได้ว่าบริษัทมหาชนในตลาดหลักทรัพย์จำนวนกว่า 50 แห่ง ครองส่วนแบ่งตลาดอยู่ 2/3 ของทั้งตลาดที่เหลืออีก 200 บริษัทครองส่วนแบ่งตลาดเพียง 1/3 เท่านั้น แต่อย่างไรก็ตามก็ไม่มีบริษัทใดที่จะสามารถเป็นผู้ชี้นำตลาดได้โดยตรง เพราะสัดส่วนทางการตลาดยังไม่สูงมากนัก



ขอบคุณที่มา: http://www.trebs.ac.th/Thai/news/index.php?nid=83
ที่มา: http://www.trebs.ac.th/Thai/news/index.php?nid=83
ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
areathai's profile


โพสท์โดย: areathai
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
20 VOTES (4/5 จาก 5 คน)
VOTED: guythai, ลูกสาวอบตไง, zerotype, areathai
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
แจ้งโอนเงิน 10,000 เข้าบัญชี 19 ธ.ค.นี้ เช็คผู้มีสิทธิ์ได้แคปชั่นสวัสดีเดือนธันวาคม 2567 hello december ต้อนรับเดือนสุดท้ายของปี 2024เลขเด็ด เลขมาแรง เลขดัง "รวมหวยเด็ดสำนักดัง vol.25" งวดวันที่ 1 ธันวาคม 2567คุณหมอนักมวยกรง ความลับแตก เพราะได้แชมป์แนวทางหวยรัฐบาลงวดนี้01/12/67 เลขเด็ดเลขปฏิทินจีน เข้ามาแล้วหลายงวด!!โค้งสุดท้าย! ส่องเลขประทัดพิธี "อธิฐานจิตส่งกำลังใจผู้ประสบภัยน้ำท่วม"โค้งสุดท้าย!! รวมหวยเด็ดสำนักดัง 1/12/67ที่มาของชื่อ "สะพานซังฮี้" หรือ สะพานกรุงธน ในปัจจุบัน สะพานเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่ง ของกรุงเทพมหานครคนเวียดนามมาไทย กลับไปต้องมีติดมือ8 ผลไม้ต้านมะเร็ง กินได้ทุกวัน ผลไม้ที่มะเร็งกลัวงานแสดงสุดอลังกาล!! ณ กลางสนามหลวง สักการะพระเขี้ยวแก้ว 1 ปีมีครั้งไม่ได้ไปต่อ! "นิธินาฏ ราชนิยม" ปิดฉาก 27 ปีในช่อง 3 อย่างน่าจดจำ
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
Miss Planet International 2024 กับเสียงวิจารณ์แรง กัมพูชาดันทุรังเกินไป?ภรรยาสาว "ขนม ศศิกานต์" ออกมาประกาศลดสถานะ!! "ครูเต้ย อภิวัฒน์""ซินแสเข่ง" ทักแรง! ดูดวงปี 68 แล้ว ประเทศไทยจะเสียแผ่นดินแน่นอน!!ที่มาของชื่อ "สะพานซังฮี้" หรือ สะพานกรุงธน ในปัจจุบัน สะพานเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่ง ของกรุงเทพมหานครเอ พศิน แจงข่าวลือ อกหักจากเจนี่ ที่หันไปคบอั้ม อธิชาติ ยันไม่เป็นความจริง!
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
จริงหรือไม่? ดื่มน้ำเกลือช่วยรักษาโรคหวัดได้ที่มาของชื่อ "สะพานซังฮี้" หรือ สะพานกรุงธน ในปัจจุบัน สะพานเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่ง ของกรุงเทพมหานครชายชาวออสเตรเลียพบหินสีดำ นำกลับบ้านให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบ พบว่าเป็นหินอุกกาบาตการเลือกสนมในราชสำนักจีนโบราณ
ตั้งกระทู้ใหม่