รถโดนชนแบบนี้..ดีนะที่มีกล้องหน้ารถ!!

 

เมื่อวาน ตอนเย็น ถ้าใครขับรถผ่านสะพานพระราม 3 ช่วงฝั่งขาออกไปฝั่งธนฯ คงบ่นกันว่า รถติด สาเหตุมาจากเราแหละคะ เพราะเราโดนรถถอยมาชน  จากเหตุการณ์นี้ทำให้เรารู้สึก หดหู่ใจ และสงสัยว่าทำไม สังคมเราเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ พอเราโดนชน ก็มี ผู้ชาย รู้ร่างท่วม ลงมาจากด้านหลังของรถ แล้วเรียกเราบอกให้ลงจากรถ รถชนจะนั่งอยุ่ทำไม เราลง แล้วบอกว่า เรากำลังโทรหาประกัน คุณมีประกันมั้ยเค้าบอกไม่มี พี่เรียกเลย ประกันมาก็เห็นว่าพี่ผิด ขับรถชนท้าย ยังไงก็ผิด เราได้ยินตกใจ ถอนหายใจแล้วพูดว่าไม่เป็นไร พี่มีกล้อง แล้ว เราก็กลับขึ้นรถโทรหาประกัน

 

โทรเสร็จก็ลงมาจะบอกว่ารอประกันมาแล้วกัน แต่ระหว่างนั้นเราได้ยิน คู๋กรณีที่เป็นสามี (ลืมบอกภรรยาเป็นคนขับ สามีนั่งอยุ่เบาะหลัง กับลูกสาว)  โทรคุยได้ยินแล้วเหมือนจะคุยกับตำรวจ เราก็ไม่ได้อะไร คิดในใจว่า โห รู้จักตำรวจด้วย คุยเสร็จก็หันมาบอกเราว่า พี่ฟังนะ วิน วินเลย พี่ผิด แยกย้าย เลย จบ  เราบอกเฮ้ย ไม่ได้นะ พี่ไม่ได้ผิด รถถอยมาชน ไง พี่ก็มีกล้อง (เราเพิ่งติดกล้องได้ไม่ถึงเดือน ตัดสินใจติด เพราะเห็นข่าวบ่อย ว่ากล้องช่วยได้) สักพัก เราโทรหาประกัน ๆ บอกว่า ยังไง เรื่อง ก็ต้องจบที่โรงพักเราเลย ลงไปบอก คู่กรณี ว่า เออ รู้จักตำรวจไม่ใช่เหรอ ให้เค้ามาดิ รถติดเนี้ย เงียบ ไม่มีเสียงตอบ  เราเลยตัดสินใจโทรหา จส 100 แจ้งเหตุ  สักพัก ภรรยาลงมา เราก็คิดว่า จะ มายอมรับผิด 

 

 แต่ กลับลงมายืนยันว่า พี่ขับรถชนท้าย  ( เหตุการณ์นี่ทำให้เราเข้าใจ คำว่า " ศีลเสมอกัน"  )  เราก็ไม่ได้ว่า อะไร แค่ยืนยันว่า พี่มีกล้อง สักพัก ตำรวจมา แจ้งให้ไป คุยกันที่ สน. วัดพระยาไกร  พอถึงสน. คู่กรณีที่เป็นสามี ก็ยัง เที่ยวเดินบอกใครต่อใคร ว่า โดนชนท้าย เราก็เฉย ไม่ฟัง ได้แต่ ถอนใจ และ ภาวนา ให้เมมโมรี่ ไม่มีปัญหา สักพัก ประกันมา ร้อยเวร ก็ให้ ทั้ง  2 ฝ่ายให้ปากคำ ก็เหมือนเดิม เรายืนยันว่า โดนถอยมาชน นั่นก็ยืนยันว่า โดน ชนท้าย

 

เราบอกว่าเรามีกล้อง ร้อยเวร ก็เลยให้เราไปเปิดที่คอม  ระหว่างที่เปิด เรา ตืนเต้นมากกก กลัวว่าจะมีปัญหา แต่สุดท้าย ภาพออกมาชัดมาก  ว่า รถคุ่กรณีถอยมาชน พอตำรวจแจ้งเท่านั้นแหละ คู่กรณีที่เป็นสามี ก็ยอมรับ โดนไม่ขอดูภาพ สักนิดเลย แต่มีเหตุการณ์ ที่ ทำให้เครียดหนักไปกว่าเดิมคือ  ลูกสาว คุ่กรณี ลงมาที่โรงพักด้วย อายุประมาณ 1-2 ขวบ (เดินได้แล้ว)  ก็เดินเล่น แถวนั้น ลูกสาวเค้าหันมายิ้มกับเรา แล้ว ทางพ่อ (คุ่กรณี) พูดว่า เอ้า ขอโทษพี่เค้าซิคะ มามี่ ขับรถชนพี่เค้า  ห๊าาาา !!!!  เราได้แต่ยิ้มแล้วคิดในใจว่า ถ้าลูกสาวเค้าโต กว่านี้ รู้เรื่องมากกว่านี้ เห็น และรับรู้เหตุการณ์ ต่างๆ ที่เกิด ขึ้น เด็กคนนี้จะโตมา เป็น แบบไหน ในสังคม ....


******  คำถามก็คือ เราสงสัยว่า ถ้าเราไม่มี กล้อง เราจะทำยังไง แล้วเราจะเป็นยังไง  แล้ว กรณีนี้ เรา แจ้งความว่า คู่กรณี แจ้งความเท็จได้มั้ย

และสุดท้าย เราก็ได้แต่ คิด แล้วก็ปลง แล้วก็ คิดว่าเป็นการฟาดเคราะห์ แล้วก็ก้มหน้ารับกรรม เอารถเข้าอุ่ซ่อมไม่มีรถใช้ แล้วก้อภาวนา ขอให้ เด็กคนนั้น โต มาอยู่ในสังคม และรับผิดชอบ ต่อการกระทำ ของตนเอง รู้จัก พูดคำว่า ขอโทษ โดยที่ไม่ต้องมีหลักฐานมาบอกว่าตัวเองผิด


ถอนหายใจ ....... ยาวววววววว