ผังเมือง กทม. แบบ "สิ้นคิด"
เห็นแนวคิดการทำผังเมืองใหม่ของ กทม.แล้ว ดร.โสภณ บอกได้คำเดียวว่า "หมดหวัง" กับการวางแผนความเจริญที่แท้จริงของมหานครใหญ่ของโลกแห่งนี้ แค่นน่าจะจ้างนักผังเมืองสิงคโปร์มาวางจะดีกว่าไหม
ตามข่าว "เล็งขีดวงแนวรถไฟฟ้า/ผังเมืองให้ชั้นในผุดตึกสูงเกิน10เท่า" (http://bit.ly/2jt2Yex) ระบุถึงแนวคิดการวางผังเมืองของกรุงเทพมหานคร ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) ขออนุญาตวิพากษ์เพื่อประโยชน์ต่อทางราชการ ดังนี้:
1. ตามข่าวว่าสัดส่วนอาคารต่อที่ดินหรือ Floor Area Ratio (FAR) ได้มากกว่า 10 เท่า แต่จริง ๆ ได้แค่ 10เท่า ทั้งที่กรณีตึกวอลสตรีททาวเวอร์ที่สุรวงศ์ ก็เคยได้ถึง 20 เท่าต่อหนึ่ง ก็ไม่เห็นจะเป็นปัญหากับใครเลย ที่ญี่ปุ่นเขาให้สร้างได้ถึง 33 เท่าต่อหนึ่ง ทั้งที่มีแผ่นดินไหว มีท่อแก๊สอยู่ข้างใต้ ถนนก็แคบ กลับไม่รู้จักศึกษาให้ถ้วนถี่
2. ที่บอกว่าให้สร้างตึกสูงได้เฉพาะรอบ 250 เมตร ระยะเท่านี้น้อยเกินไป ปกติระยะทางในการเดินก็ราว 500 เมตร การ "จำกัดจำเขี่ย" แสดงถึงความไม่เต็มใจที่จะให้สร้างสูงจริง
3. รอบ ๆ สถานีรถไฟฟ้า เช่น รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์ไปสนามบินสุวรรณภูมิ ควรจะมีการจัดรูปที่ดิน เวนคืนที่อยู่ห่างออกไป 2-5 กิโลเมตร แล้วให้สร้างเมืองใหม่ขึ้นมา แล้วจัดรถไฟฟ้ามวลเบา หรือรถประจำทางขนส่งคนเข้าเมือง ก็คิดไม่ได้ ได้แต่เป็นการวางผังเมืองไปตามความเติบโตของเมืองอย่างสะเปะสะปะ
4. การซื้อขายสิทธิของเจ้าของที่ดินในพื้นที่อนุรักษ์ใจกลางเมืองที่ถูกห้ามสร้างสูงให้ขายให้กับบุคคลอื่นในพื้นที่อื่น เป็นการแก้ไขปัญหาอย่างปัดความรับผิดชอบสิ้นดีของทางราชการหรือไม่ ที่ดินใจกลางเมือง มีสาธารณูปโภคครบ ควรสร้างสูง สร้างรายได้ได้มาก แต่ทางราชการกลับห้ามด้วยเหตุผลต่าง ๆ นานา ถ้ารัฐจะห้ามจริง ก็ควรที่จะจ่ายค่าชดเชย ไม่ใช่ปัดสวะให้คนอื่น แถมยังจะกะเกณฑ์ราคาในการซื้อขายอีกต่างหาก ทำอย่างกับว่าไม่ต้องการให้มีการซื้อขายจริงดังโฆษณา
5. ที่จะให้ปรับให้สร้างได้มากขึ้นตามแนวรถไฟฟ้า ก็ปรับเฉพาะบางสาย บางสายก็ไม่ปรับอ้าง (ส่งเดช) ว่ากลัวเมืองจะขยายไปไร้ขอบเขต แล้วจะสร้างรถไฟฟ้าไปทำไม (วะ) สร้างเสร็จกลับอ้าง "ชุ่ยๆ" ว่ากลัวเมืองจะขยายตัวออกไป จะสร้างไว้ "จุดธูป" แบบสายสีม่วงหรือไร
6. การสร้างรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์ และสายสีแดง ที่ต่อไปอาจมี "หมอชิต" ไปอยู่ ก็จะกลายเป็นการขนส่งทั้งคนในตัวเมือง และคนเดินทาง ยิ่งทำให้สับสน ทุกวันนี้การเดินทางโดยรถไฟแอร์พอร์ตลิงค์ ก็เบียดเสียดแทบจะย่ำแย่อยู่แล้ว การเช็คอินที่มักกะสันก็ยกเลิกไปแล้ว ยิ่งทำยิ่งตกต่ำ ทำไงดี
คำถามเหล่านี้คือสิ่งที่ทางราชการพึงนำมาพิจารณา แต่ทางราชการหลายหน่วยงาน ก็อาจ "ปัดสวะ" กันไป น่าสงสารประเทศชาติ ดร.โสภณ กล่าวในที่สุด
ที่มา: http://www.area.co.th/thai/area_announce/area_press.php?strquey=press_announcement1763.htm