สิวมี่กี่ชนิด รู้แล้วสำคัญอย่างไร?
สิวมี่กี่ชนิด รู้แล้วสำคัญอย่างไร?
เคยสงสัยกันไหมว่า สารพัดสิวที่ขึ้นมากวนใจอยู่บนใบหน้าของเรา ใหญ่บ้าง เล็กบ้าง มันมีกี่ชนิดและแต่ละชนิดมีลักษณะเป็นอย่างไร เรามาทำความรู้จักกันดีกว่าจะได้หายสงสัย
สิวแบ่งออกเป็น 5 ชนิด ตามลักษณะอาการและความรุนแรง ได้ดังนี้
1.สิวหัวเปิด 2. สิวหัวปิด 3. สิวอักเสบ 4. สิวหัวหนอง 5. สิวอักเสบขนาดใหญ่
1. สิวหัวเปิด หรือ สิวหัวดำ (Black head)
คือสิวอุดตันที่มีรูเปิดออกสู่ภายนอก มีลักษณะเป็นตุ่มนูนเม็ดเล็ก ประกอบไปด้วยเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว ไขมันและเชื้อแบคทีเรีย P.acnes อุดตันอยู่ในรูขุมขน ซึ่งหัวสิวจะสัมผัสกับออกซิเจนในอากาศ ทำให้เปลี่ยนเป็นสีดำ
2. สิวหัวปิด หรือสิวหัวขาว (White head)
เป็นสิวอุดตันที่ไม่มีรูเปิดออกสู่ภายนอก เป็นตุ่มนูนขนาดเล็กอยู่ใต้ผิวหนัง เกิดจากการอุดตันสะสมของน้ำมันและเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ในต่อมไขมันและรูขุมขน เมื่อปล่อยทิ้งไว้นาน จะกลายเป็นสิวอักเสบ
3. สิวอักเสบ (Papule)
เกิดจากสิวหัวปิดหรือสิวหัวขาวที่ได้รับการติดเชื้อแบคทีเรีย P.acnes ทำให้เกิดการอักเสบ มีลักษณะเป็นตุ่มนูน บวมแดง อยู่บนผิวหนัง ถ้ามีการอักเสบรุนแรงจะกลายเป็นสิวหัวหนองและสิวอักเสบขนาดใหญ่
4. สิวหัวหนอง (Pustule)
เป็นตุ่มสิวอักเสบหัวหนอง พัฒนามาจากสิวอักเสบที่ไม่ได้รับการรักษาทันท่วงที ซึ่งเกิดจากปฏิกิริยาของร่างกายที่ให้เม็ดเลือดขาวเข้ามากำจัดเชื้อแบคทีเรียและสิ่งแปลกปลอมบนผิวหนัง สำหรับคนที่มีสิวหนองมักมีอาการเจ็บหรือปวดบริเวณสิวร่วมด้วย และมีโอกาสเป็นหลุมสิวได้ ถ้าปล่อยไว้นาน เนื่องจากหนองสามารถทำลายคอลลาเจนและอีลาสตินที่อยู่ในชั้นผิวหนังได้
5. สิวอักเสบขนาดใหญ่ (Nodule) และ สิวบริเวณถุงใต้ผิวหนัง (Cyst)
มีลักษณะเป็นตุ่มสีแดงขนาดใหญ่บนผิวหนัง เกิดจากการอักเสบของสิวบริเวณใต้ผิวหนังอย่างรุนแรงเป็นระยะเวลานาน ซึ่งภายในเต็มไปด้วยเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว น้ำมัน และ เชื้อแบคทีเรีย P. acnes สิวประเภทนี้ไม่สามารถรักษาเอง ด้วยยาที่ขายตามร้านขายยาทั่วไป เพราะอาจจะจะทำให้เชื้อลุกลามมากยิ่งขึ้น ในกรณีนี้ ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเท่านั้น เพราะถ้าหากรักษาผิดวิธี อาจจะก่อให้เกิดรอยแผลเป็น หลุมสิว บนผิวหน้าได้
Beauty tips : แนะนำวิธีการรักษาสิวเบื้องต้นด้วยตัวคุณเอง
สำหรับผู้ที่ประสบปัญหาสิวในระยะเริ่มต้น สามารถรักษาหรือบรรเทาอาการได้เบื้องต้น ด้วยยาที่มีจำหน่ายในท้องตลาดทั่วไป เช่น
- ยาในกลุ่ม Benzoyl peroxide หรือที่คลินิกความงามหรือร้านขายยาทั่วไปเรียกว่า “บีพี” ยาในกลุ่มนี้จะช่วยลดปริมาณไขมันที่ผิวหนังและละลายสิ่งสกปรกที่อุดตันตามรูขุมขน ลดการอุดตันของต่อมไขมัน โดยมีตัวเลขกำกับต่อจากชื่อยาหรือชื่อยี่ห้ออยู่ ซึ่งหมายถึงปริมาณตัวยาที่อยู่ในหนึ่งหลอดนั้นเอง ทั้งนี้ควรเริ่มต้นจาก % ที่น้อย เพราะ BP สามารถก่อให้เกิดการระคายเคืองได้
- ยาในกลุ่ม Clindamycin หรือ คลินด้า มีสรรพคุณเป็นยาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ใช้แต้มลงบนหัวสิวอักเสบหรือกำลังจะอักเสบ ช่วยให้สิวยุบแห้งเร็ว ซึ่งสามารถใช้ร่วมกับยาบีพี เพื่อช่วยกำจัดแบคทีเรียและลดการติดเชื้อได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ระหว่างรักษาสิว ห้ามบีบ แกะ สิว เพราะจะทำให้สิวอักเสบมากขึ้นและสิวอุดตันรอบข้างจะอักเสบตามไปด้วย
นอกจากนี้แล้ว ในระหว่างการรักษาสิว อาจจะทำให้ผิวหน้าแห้ง ไวต่อแสงแดดและการระคายเคือง ดังนั้นจึงควรเลือกใช้ Cleansing ที่ปราศจาก แอลกอฮอล์, ทากันแดดอย่างสม่ำเสมอ และที่สำคัญรักษาความสะอาด เท่านี้ สิวของคุณก็สามารถบรรเทาลงได้อย่างแน่นอน
รู้จักสิวแต่ละชนิดและวิธีการรักษาเบื้องต้นกันไปแล้ว ทั้งนี้หากมีข้อสงสัยหรืออาการผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังผู้เชี่ยวชาญ จะได้มีผิวหน้าเนียนใส ไร้สิว อย่างปลอดภัยครับ
แหล่งที่มา: http://www.at-z.co.th/