แชร์ประสบการณ์ นอนแยกห้องนอนกับแฟนดียังไง
สมาชิกเว็บไซต์พันทิป หมายเลข 2270528 ได้แชร์เรื่องราวข้อดีองการแยกห้องนอนกับแฟนที่ดูน่าสนใจ มาดูกันครับว่าเข้อดีมีอะไรบ้าง โดยเธอได้อะิบายเป็นข้อๆ ดังนี้
สวัสดีค่ะเพื่อนๆพันทิป อยากมาแชร์ประสบการณ์และรับฟังความคิดเห็นเพื่อน
คือเรากับสามีตั้งแต่คบกันก่อนแต่งงานเราจะแยกเตียงนอนและห้องนอนกันตลอดค่ะ เป็นการคุยกันและตกลงกันตั้งแต่ช่วงที่ทำความรู้จักกันแรกๆ เพราะสามีเราเล่าให้ฟังว่าแฟนเก่าของเค้าไม่พอใจที่เค้าอยากนอนแยกเตียงหรือแยกห้อง เค้าก็เลยเกริ่นเรื่องนี้ก่อนที่คบกันจริงจังเพราะเค้าเป็นคนรู้สึกตัวตอนกลางคืนง่าย ซึ่งเราก็ไม่มีปัญหาตรงนั้นอยู่แล้วเพราะเราก็เป็นแบบนั้นเหมือนกัน ช่วง 2 ปีที่ผ่านมาที่อยู่ด้วยกัน ปัจจัยที่มีผลต่อความสัมพันธ์ของเรามันหลากหลายมากๆ ถามว่าเป็นความสัมพันธ์ที่ราบรื่นไหม มันก็ไม่ได้ราบรื่น ดีเด่อะไร ขึ้นบ้างลงบ้างเป็นธรรมดา ก็ต้องเรียนรู้กันไปทุกๆวัน แต่ในส่วนการแยกเตียง การแยกห้องนอนซึ่งมันอาจฟังดูประหลาดสำหรับคู่รักหนุ่มสาวส่วนใหญ่ เราก็เลยอยากลองแชร์ประสบการณ์ ความรู้สึก และข้อดีข้อเสียที่เราประสบมาซึ่งหวังว่าจะเป็นข้อมูลให้หลายๆคู่ได้ตัดสินใจ เผื่อการนอนแยกเตียงหรือแยกห้องนอนอาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่าของคุณก็ได้ค่ะ
1 คุณภาพการนอนที่ดีส่งผลต่อความสัมพันธ์ที่ดีของคู่รัก ถ้าคู่รักของคุณนอนดิ้น นอนกรน นอนเป็นปลาดาว แล้วคุณต้องตื่นกลางดึก นอนไม่หลับ นอนไม่เต็มอิ่ม มันส่งผลกระทบโดยตรงกับวันถัดไปของคุณว่าคุณจะแฮปปี้ไหม มีแรงตื่นมาทำกับข้าว ไปทำงาน ยิ้มแย้มกับคู่รักคุณไหม ถ้าสไตล์การนอนของคู่รักของคุณส่งผลให้คุณภาพการนอนแย่ลง การแยกเตียง หรือแยกห้องนอนช่วยได้ดีเลย สำหรับเราแล้วคือ เราสามารถปรับอุณหภูมิในห้องนอนของเราตามที่เราต้องการ จะปิดห้องให้มืด มีเสียง white noise หรือเพลงเบาๆ หรืออยากเปิดทีวี ก็สามารถทำได้ตามใจ แถมเราจะนอนเป็นปลาดาว พลิกตัวเมื่อไหร่ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะไปทำให้คนข้างๆตื่นไหม คืออันนี้เราแฮปปี้มาก เรานอนเมื่อไหร่ ตื่นเมื่อไหร่ก็ได้ตามใจเรา เราเลยนอนเต็มอิ่ม ตื่นมาก็อารมณ์ดี
2 การแยกห้องนอนทำให้คุณมีเวลาเป็นของตัวเองมากขึ้น หลังจากคุณดีลกับคนที่ทำงาน เดินทาง กินข้าว ทำหน้าที่เป็น พ่อ แม่ เมีย สามี เป็นลูกทั้งวันแล้ว การมีห้องนอนของคุณเองจะทำให้คุณมีช่วงเวลาที่คุณจะได้เป็นตัวของตัวเองและทำตามใจตัวเอง คุณมีพื้นที่ที่จะเป็นตัวของตัวเองโดยที่ไม่ต้องพยายามหาเวลาตรงนั้นในตอนที่คู่รักคุณไม่อยู่บ้าน อยากเต้น อยากร้องเพลง อยากอ่านหนังสือ ดูหนังโป๊ อยากกินขนมตอนเที่ยงคืนก็ทำได้ไม่ต้องเกรงใจ และไม่ต้องเป็นปัญหาให้ทะเลาะกันด้วย จากความรู้สึกส่วนตัวของเรา การพักผ่อนของเราคือการได้อยู่กับตัวเองโดยที่ไม่ต้องมีใครมายุ่ง ดังนั้นเราจึงชอบมากๆที่มีห้องของเราเอง
3 สำหรับคู่ที่อินดี้และมีสไตล์การแต่งห้องที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง การมีห้องนอนของตัวเองเป็นทางออกที่ดีอีกทางนึง สามีเราชอบโทนเทาดำเค้าชอบแต่งห้องแบบเรียบๆ ส่วนเราต้องสีฉูดฉาด สีร้อนๆ แบบ exotic เพ้นท์ลายดอกไม้บ้าบอของเรา คือมันตรงกันข้ามมากๆ ซึ่งสุดท้ายแล้วหากเรามีห้องเป็นของตัวเองเราก็ตัดปัญหาการแต่งห้องนอนได้
4 มีหลายคนที่ยึดหลักว่าห้ามไปนอนแบบที่ยังโกรธกันอยู่ แต่สำหรับเราเวลาเราทะเลาะกันเรามีพื้นที่ส่วนตัวที่จะพักรบและทบทวนการกระทำของแต่ละคน และสามารถหลีกเลี่ยงการประทะคารมได้ บางทีปัญหามันไม่สามารถเคลียร์กันจบในคืนเดียวได้ หรือคุณอาจจะเหนื่อยที่จะพยายามทำความเข้าใจกัน ปัญหาเหล่านี้ถ้าคุณได้ปล่อยไปสักพัก วันต่อมาคุณอาจมีทางออกดีๆหลังจากที่คุณได้นอนพักผ่อนอย่างเต็มที่ก็ได้
5 Distance makes your love grow fonder ยิ่งห่างกันยิ่งรักกัน อันนี้เรามันจริงสำหรับเรามากอ่ะ คืออยู่ด้วยกันทั้งวันทั้งคืนมันอาจจะเยอะไป เห็นหน้ากันตลอดอาจทำให้เรามองข้ามกิจกรรมธรรมดาๆที่ทำให้เรามีความสุขได้ เช่น การกอดกัน จูบกันกู๊ดไนท์ ห่มผ้าห่มให้ หรือเวลาเราตื่นมาเข้าห้องน้ำตอนกลางคืนแล้วเราเห็นว่าสามีเรายังไม่นอน เราก็เข้าไปนอนกอดอีกรอบ ตื่นนอนมาเราก็คิดถึงสามีเรามากๆ ทำให้เราได้เห็นว่าการได้ใช้เวลากับคนที่เรารักมันดีค่าขนาดไหน มันทำให้เวลาที่เราได้อยู่ใกล้กันมันซู่ซ่ามากกว่าเดิมอ่ะ
6 แล้วเรื่องบนเตียงล่ะ??? เราว่าการแยกเตียงหรือแยกห้องไม่มีผลสำหรับเราเลย คือเราก็ต้องเปิดใจกับคู่รักของเราด้วยนะ สำหรับเราแล้วถ้าเราอยากมีเวลาเซ็กซี่เมื่อไหร่เราก็เข้าไปหาเค้าแล้วก้อเข้าไปกอดไปจูบ (ไปอ่อยหน่อยว่างั้น) ถ้าไม่แน่ใจว่าเค้ายุ่งอยู่ป่าวก็ถามไปตรงๆเลย เราก็คุยกะแฟนตรงๆว่าถ้าตอนไหนมีอารมณ์ก็มาเคาะประตูได้ ซึ่งบางทีเค้าก็มาเคาะประตู ซึ่งดูแล้วมันน่ารักมากสำหรับเราอ่ะ รู้สึกยิ่งเพิ่มความขำความหวานให้กันและกันได้อีก หรือคุณอาจจะเซอร์ไพร้ จัดห้องนอนคุณแบบเอ๊กซ์ๆหน่อยก็ได้ เวลาแฟนคุณเข้ามาในห้องนอนเค้าก้อรู้แล้วว่าคุณต้องการอะไร
ที่เล่ามาทั้งหมดนี่เรายังไม่มีข้อเสียเลยนะ บางช่วงถ้ารู้สึกว่าเราห่างกันไปหน่อยหรือบางวันเราอยากอยู่ใกล้ๆสามีเราตอนกลางคืนเราก็ขนฟูกไปนอนห้องสามีบ้างเหมือนกัน เราแต่มันขึ้นอยู่กับนิสัยและความต้องการของแต่ละคนจริงๆ ที่สำคัญ เราต้องสื่อสารกับคู่รักกันตลอดเวลา เพื่อที่คุณและเค้าจะได้ตกลงกันได้ คือทั้งหมดทั้งมวลก็อยากจะบอกว่าการแยกเตียงแยกห้องนอนมันไม่ได้หมายถึงเราไม่รักกัน หรือจะเลิกกัน แต่มันอาจเป็นปัจจัยสำคัญของคู่รักที่จะทำให้อยู่กันยืดก็ได้