พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่ 9 ของปวงชนชาวไทย ทรงเป็นองค์พระมหากษัตริย์ผู้เป็นที่รักและเทิดทูนยิ่ง ด้วยพระราชจริยวัตรอันงดงาม พระมหากรุณาธิคุณที่มีต่อพสกนิกรอย่างหาที่สุดมิได้

ทุกครั้งที่พระองค์เสด็จพระราชดำเนินเพื่อบำเพ็ญพระราชกรณียกิจ ไม่ว่าจะเสด็จไปถึงที่ใด เหล่าราษฎรที่อยู่ใต้ร่มพระบรมโพธิสมภาร ต่างก็พากันมาเฝ้ารับเสด็จฯอย่างล้นหลามด้วยความปีติยินดี

ไม่เพียงแต่ประชาชนชาวไทยเท่านั้น แต่ผู้คนในต่างประเทศต่างก็รับรู้ได้ถึงพระบารมี ตลอดช่วงเวลา 70 ปีแห่งการครองราชย์

ช่วงปี พ.ศ. 2502 ถึง พ.ศ. 2510 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชกรณียกิจสำคัญก็คือ การเสด็จพระราชดำเนินเยือนต่างประเทศ เพื่อเจริญสัมพันธไมตรีและคงไว้ซึ่งความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างราชอาณาจักรไทยกับมิตรประเทศ

ในวันที่ 3-8 พฤศจิกายน 2503 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช พร้อมด้วย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินเยือนราชอาณาจักรสเปน และหนึ่งในพระราชกรณียกิจในครั้งนั้นก็คือการเสด็จไปทอดพระเนตรการแข่งขันฟุตบอลที่สนาม ซานติอาโก้ เบร์นาเบว ของสโมสรฟุตบอล เรอัล มาดริด

ทั้งนี้ เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จถึงยังที่ประทับภายในสนาม บรรดาแฟนบอลกว่าแสนคนได้ร่วมกันถวายพระเกียรติ พร้อมใจกันลุกขึ้นยืนปรบมือด้วยความยินดีที่ได้มีโอกาสชื่นชมพระบารมี ขณะที่นักฟุตบอลของทีม เรอัล มาดริด และคู่แข่งขัน พร้อมทั้งกองทหารเกียรติยศ ได้ยืนเข้าแถวเพื่อรอรับเสด็จฯ ก่อนที่การแข่งขันจะเริ่มขึ้น

สำหรับแฟนบอลชาวไทยและรวมถึงประชาชนชาวไทยทุกคน นี่คือหนึ่งในภาพที่น่าภาคภูมิใจ และคู่ควรแก่การบันทึกไว้ในความทรงจำว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช ทรงเป็นองค์มหาราชผู้ที่ไม่เพียงครองใจชาวไทยทั้งประเทศ แต่พระบารมียังแผ่ไพศาลเป็นที่เคารพไปทั่วโลก