ดร.โสภณแนะบิ๊กตู่ความเหลื่อมล้ำแก้ได้ง่ายมาก
ดร.โสภณ ให้กำลังใจบิ๊กตู่ อย่าได้ถอดใจในการแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม แก้ไขได้ไม่ยาก ถ้าจะแก้จริง โดยอาศัยกลไกภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างและภาษีมรดก
ตามที่มีข่าวว่า "ไทยติดอันดับ 3 ช่องว่างคนรวย-จนมากสุดในโลก ประยุทธ์ ชี้แก้ยากเพราะยังระแวงรัฐ" (http://bit.ly/2gUlcse) นั้น ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) ให้ข้อคิดว่า การแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำนั้นแก้ไขได้ไม่ยาก ด้วยการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง และภาษีมรดกโดย
- ในกรณีที่อยู่อาศัยทั้งหลาย จัดเก็บภาษี 0.1% โดยไม่มีข้อยกเว้น เพราะแม้แต่คนขี่จักรยานยนต์รับจ้าง รถจักรยานยนต์คันเก่า ๆ ประมาณ 15,000 บาท ก็ยังต้องเสียภาษีประมาณ 1% ทุกปี การยกเว้นภาษี ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำ ลักลั่น ทุจริตเพราะการใช้วิจารณญาณของเจ้าหน้าที่ ณ อัตรานี้ถือว่าต่ำมาก ใครมีห้องชุดราคา 500,000 บาท ก็จ่ายปีละ 500 บาทหรือเดือนละ 42 บาทเท่านั้น ถูกกว่าค่าจัดเก็บขยะเสียอีก
- ในกรณีภาษีมรดก การโอนมรดกให้กับลูกหลาน ไม่ว่ากรณีใด ๆ ควรจัดเก็บภาษีที่ร้อยละ 10 โดยไม่มีข้อยกเว้นเช่นกัน ใครที่มีบ้านหลังละ 10 ล้านบาท แต่เป็นคนยากจน ไม่สามารถจ่ายภาษี 1 ล้านบาท ก็พึงขายบ้านดังกล่าวเสีย แล้วนำเงินไปเสียภาษี 1 ล้านบาท ยังเหลือ 9 ล้านบาทเป็นเงินสด สามารถนำไปซื้อบ้านอยู่อาศัยในที่อื่นได้อีกอย่างสบาย ๆ จะอ้างความจนแล้วนั่งทับที่ไว้ไม่ได้
- นำรายได้จากภาษีเหล่านี้นำไปพัฒนาท้องถิ่นเป็นสำคัญ เช่น นำไปจ้างเวรยามตลอด 24 ชั่วโมง ป้ดงกันโจรผู้ร้าย ป้องกันการขี่รถจักรยานยนต์บนทางเท้า พัฒนาสาธารณูปโภคต่าง ๆ โดยให้แต่ละแขวง แต่ละชุมรุมอาคาร แต่ละซอยตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดูแลเงินดังกล่าว ไม่ส่งเข้าส่วนกลาง ไม่ส่งเข้าเทศบาลหรือองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อไม่ให้นำไปใช้ในทางอื่น
- รณรงค์ให้การศึกษาประชาชนเกี่ยวกับบาปของการสะสมความมั่งคั่งเพื่อรณรงค์ความพอเพียงที่แท้โดยเฉพาะในหมู่คนรวย เช่น ภาษิตฝรั่งมีว่า “คนที่ตายอย่างร่ำรวย ตายอย่างไร้ศักดิ์ศรี” (The man who dies thus rich dies disgraced) หรือน่าละอาย นี่คือคำกล่าวของอภิมหาเศรษฐีอเมริกันนายแอนดรูว์ คาร์เนกี ผู้ที่บริจาคทรัพย์เกือบทั้งหมดให้การกุศลก่อนตาย เหลือไว้ให้ทายาทบางส่วน เราไม่ควรสะสมจนเกินงาม จะให้ลูกหลานก็ควรให้ความรู้ วิชาเพื่อไปทำมาหากิน ไม่เป็นภาระแก่ใคร ควรคิดที่จะเสียสละเพื่อส่วนรวมให้มากไว้ (http://bit.ly/22hvWxg)
การทำให้ท้องถิ่นเจริญจะทำให้มูลค่าทรัพย์สินของประชาชนยิ่งเพิ่มสูงขึ้นเป็นเงาตามตัว ทำให้ประชาชนยิ่งยินดีที่จะเสียภาษี เพราะยิ่งจ่ายภาษี ยิ่งได้ประโยชน์ ประชาชนจะเลิกต่อต้านการเสียภาษี และที่สำคัญความเหลื่อมล้ำก็จะน้อยลง
http://www.thaiappraisal.org/thai/journal/order.php?p=publicationb28.php
ที่มา: http://www.area.co.th/thai/area_announce/area_press.php?strquey=press_announcement1691.htm