ด่วน แจกเงินคน (อยาก) จน: แจกผิดคนแล้ว!?!
ตามที่รัฐบาลจะแจกเงินคนจนในเมือง 5.4 ล้านราย และในชนบท 2.8 ล้านราย แค่ตัวเลขแค่นี้ก็ผิดแล้ว ดร.โสภณ ยืนยัน "มั่วแน่นอน มีที่ไหน ในเมือง มีคนจนมากกว่าในชนบท" ดร.โสภณย้ำ ดร.สมคิดพาชาติล่มแน่นอน "ตัว ดร.สมคิดเองก็ยังไม่เคยทำธรกิจอะไรสำเร็จเป็นชิ้นเป็นอันเลย"
นโยบายแจกเงินของรัฐบาลตามมาตรการเพิ่มรายได้ให้ผู้มีรายได้น้อยในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ตามมติ ครม. วันที่ 23 กันยายน 2559 และมติ ครม. วันที่ 22 พฤศจิกายน 2559 ได้จัดสรรงบประมาณให้กับผู้มีรายได้น้อยจำนวน 8.2 - 8.3 ล้านราย ที่มาลงทะเบียนเป็นวงเงิน 19,290 ล้านบาท" (http://bit.ly/2ftcDCD)
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย (www.area.co.th) กล่าวว่าโดยนัยนี้ผู้มีรายได้น้อย และอยู่ในชนบทเพียง 2.8 ล้านราย หรือ 34% หรือราวหนึ่งในสาม อีกสองในสามอยู่ในเมืองถึง 5.4 ล้านราย ตัวเลขแค่นี้ ดร.สมคิดก็โดนพวก "แหกตา" เข้าให้แล้ว การออกนโยบายส่งเดชแบบนี้ พาชาติล่มจมแน่นอน เพราะเริ่มต้นก็เป็นตัวเลขผิดมหันต์ เกินจะให้อภัยได้แล้ว
ความผิดพลาดของ ดร.สมคิดและคณะก็คือ
1. จากข้อมูลของธนาคารโลก (http://bit.ly/2glEUZJ) ระบุว่าประเทศไทยมีคนจนอยู่ 10.6% ถ้าประชากรไทยมีอยู่ทั้งหมด 66 ล้านคน (http://bit.ly/2ga5TI4) ก็ควรมีคนจนอยู่เกือบ 7 ล้านคน แต่นี่กลับปล่อยให้มีการลงทะเบียนไปถึง 8.3 ล้านคน นี่ก็คือความผิดมหันต์
2. คนจนส่วนมากอยู่ชนบท ธนาคารโลกระบุว่า 80% ของคนจนข้างต้นอยู่ในชนบท (http://bit.ly/1SauPJM) คนจนในเมืองมีเพียง 20% หรือหนึ่งในห้าของคนจนทั่วประเทศ แต่ ดร.สมคิดและคณะกลับได้ข้อมูลว่าในเมืองมีคนจนถึงสองในสามของคนจนทั่วประเทศ แม้ตอนนี้เขตเมืองจะขยายไปคลุม อบต.หลายแห่ง แต่คนจนในชนบทก็ยังมีมากกว่าในเมืองอยู่ดี นี่จึงเป็นความผิดมหันตโทษ แจกเงินผิดคนแล้ว คนจนจริงๆ คงไม่ได้รับเงินแจก คนจนที่ต้องกระเสือกระสนมาทำงานในเมือง ส่วนมากไม่มีทะเบียนบ้านในเมือง ก็คงหมดสิทธิ์
3. ดร.สมคิดและคณะคงถูกเอ็นจีโอและหน่วยงานที่หากินกับชาวสลัมหลอกว่าคนสลัมในเมืองเป็นคนยากจน แท้จริงแล้ว ดร.โสภณ ได้ศึกษาและค้นพบมาตั้งแต่ปี 2528 (31 ปีก่อนแล้วว่า) คนอยู่อาศัยสลัมเช่นในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีไม่ถึง 10% หากสมมติว่าประชากรทั้งหมดในเขตมี 10 ล้านคน คนในชุมชนแออัดจริงๆ มีไม่ถึง 1 ล้านคน ในจำนวนนี้คนที่ถือว่าจนมีอยู่ราว 1/4 เท่านั้น (http://bit.ly/2grsws7 หน้า 46)
คนจนนอกนั้นคงอยู่นอกชุมชนแออัด เช่น คนเร่ร่อน คนทำงานบ้าน เด็กปั้ม ซึ่งมักไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่งหรือมีทะเบียนบ้านอยู่ต่างจังหวัด คงไม่ได้ไปลงทะเบียนคนจน ด้วยเหตุนี้ ดร.สมคิดและคณะคงไปเหมาเอาคนในชุมชนแอัดทั้งหมดเป็นคนจน แล้วก็แจกกันไป หรือบ้างก็ไม่ใช่คนจน แต่มาลงทะเบียนกันส่งเดชแบบด้านได้อายอด และเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้ไปตรวจสอบ
โดยสรุปแล้วเงินที่แจกไป คงไปไม่ถึงคนจนจริงๆ คงให้คน (อยาก) จน เอาไป "อีลุ่ยฉุยแฉก" คนที่แอบได้ก็คือบริษัทสินค้าอุปโภคบริโภคใหญ่ๆ ที่คงได้เงินไปก่อสภาพคล่องให้กับวิสาหกิจยักษ์ของตนเป็นสำคัญ (แต่โดยผ่านมือชาวบ้าน)
ดร.โสภณ กล่าวว่าสำหรับทางออกควรเป็นอย่างไรนั้น ได้นำเสนอไว้แล้วตาม link นี้: http://bit.ly/2g6CnTD การให้คนอย่าง ดร.สมคิด ที่ตามประวัติไม่เคยทำธุรกิจใด ๆ (สำเร็จ) เลย ที่ผ่านมาได้แต่ทำงานการเมืองมาโดยตลอด มาบริหารด้านเศรษฐกิจของประเทศด้วยนโยบาย "แจกเงิน" ทั้งที่ แม้แต่ในสมัยรัฐบาลทักษิณ ก็ไม่เคยแจกเงินแบบนี้ ดร.สมคิดน่าจะทำให้ประเทศชาติเสียหายได้ เศรษฐกิจไทยในขณะนี้จึงน่าเป็นห่วงจริงๆ