5 อันดับเพชรที่แพงที่สุดในโลก
1.The DeBeers Centenary Diamond - $100 million. It’s the highest grade of a diamondthat is colorless flawless. The diamond itself is 273.85 carats (54.77 grams)in weight.
1.เพชรเดอเบียร์ “เพชรเซนทีนารี” – ราคา 100 ล้านเหรียญดอลล่าสหรัฐเป็นเพชรที่มีคุณภาพยอดเยี่ยมทั้งสีที่ขาวใสและไม่มีตำหนิ นำหนักของเพชรอยู่ที่ 273.85กะรัต (54.77 กรัม)
Centenary (เซนทีนารี) เพชรเม็ดนี้ถูกพบที่เหมืองพรีเมียร์ของ เดอ เบียร์ส วันที่ 17กค 1986 มีน้ำหนักมากถึง 599.10 กะรัตโดยใช้ทีมช่างเจียรไนถึง 3 ปีและได้เจียรในแบบใหม่ที่มีหน้าถึง 247 หน้า(เพชรปกติมี 50กว่าหน้า) ในกลุ่มเพชรน้ำงามที่สุดของโลก เซนทีนารีเป็นรองเพียง"The First Star of Africa" และ "The Second Star of Africa " เท่านั้นหลังจากเจียรไน เพชรเม็ดนี้มีน้ำหนัก273.85 กะรัตชื่อเพชรเม็ดนี้ตั้งโดย เดอ เบียร์สเพื่อฉลองครบรอบ 100 ปี และได้ออกแสดงที่ Tower of London ด้วยราคาประกันประมาณ 100 ล้านดอลล่าสหรัฐ
2.Koh-I-Noor- Priceless. Means as “Mountain of Light” in Persian.It’s a 105.60 carat (21.6 gram) diamond that was once the largest known diamonds in the world.
2.เพชรโค-อิ-นอ มีความหมายว่า “ภูเขาแห่งแสงสว่าง” ในภาษาเปอร์เซียเพชรนี้มีน้ำหนัก 105.60 กะรัต (21.6 กรัม)เพชรนี้ครั้งหนึ่งเคยได้ขึ้นว่าเป็นเพชรที่ใหญ่ที่สุดในโลก
เป็นเพชรที่มีผู้คนรู้จักมากที่สุดและมีตำนานที่เก่าแก่ยาวนานมาก ที่มาของเพชรเม็ดนี้มีความซับซ้อนและการแก่งแย่งช่วงชิงในประวัติศาสตร์ของหลายประเทศ มันมีขนาด 36.00 x 31.90 x 13.04 มิลลิเมตร เป็นรูปทรงรี ซึ่งถูกเจียรไนในแบบสเตนล่าบริลเลี่ยนท์คัต มี 66เหลี่ยม
แหล่งข้อมูลบางแห่งได้กล่าวไว้ว่าตำนานของมันมีมายาวนานกว่า 5,000ปี แต่ในหลักฐานที่มีเป็นลายลักษณ์อักษรได้มีบันทึกไว้ในปี ค.ศ. 1295ในเอกสาร “บาบูร์นาม่า” (เขียนโดยจักรพรรดิ บาบูร์ – พระจักรพรรดิมหาราชพระองค์แรกแห่งราชวงศ์โมกุลของอินเดีย)ชื่อ โค-อิ-นอ นี้มีความหมายว่า “ภูเขาแห่งแสงสว่าง” ซึ่งในตอนแรกเพชรเม็ดนี้มีขนาดถึง 186.10 กะรัตและมีต้นกำเนิดมาจากประเทศอินเดีย หลังจากที่ตกเป็นสมบัติของกษัตริย์หลายพระองค์ทั้งอินเดียนและเปอร์เซียนที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ของการรบราฆ่าฟันกันเพื่อแย่งชิงเพื่อเพชรเม็ดนี้ ในปีค.ศ. 1852 มันได้กลายมาเป็นสมบัติของราชวงศ์อังกฤษซึ่งได้นำมาประดับไว้บนมงกุฏของพระราชินีวิกตอเรียและเป็นที่ที่มันคงอยู่ในปัจจุบันในการนำมันมาใช้เป็นเครื่องประดับบนมงกุฏแห่งราชวงศ์อังกฤษในครั้งนั้นเจ้าชายอัลเบิร์ด ได้รับสั่งให้ทำการเจียรไนมันใหม่อีกครั้งเพื่อที่จะทำให้เกิดประกายเล่นไฟมากขึ้น แต่หลังจากการเจียรไนแล้ว เพชรเม็ดนี้ก็เหลือขนาดเพียง105.602 กะรัตซึ่งเจ้าชายอัลเบิร์ดก็ยังไม่ทรงพอพระทัยในผลงาน ตำนานได้เล่าขานว่าเพชรโค-อิ-นอ มีพลังเหนือธรรมชาติซึ่งจะทำให้ผู้ที่เป็นเจ้าของมีพลังเหนือศัตรูทั้งปวง
3.The Cullinan Diamond is 3,106.75 carats and is the largest rough gem quality diamond ever found in the world. After polished it became Cullinan I. At 530.20carats, (106.0 grams) it was the largest diamond in the world until 1985 when the Golden Jubilee of 545.67 carats, (109.13 grams) was found at the same mine.
3.เพชรคูลิแนนเป็นเพชรก้อนที่มีน้ำหนัก 3,106.75กะรัต และถือได้ว่าเป็นเพชรที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยค้นพบมาก่อนในโลกหลังจากที่ทำการเจียรไนแล้วเพชรคูลิแนนเหลือน้ำหนัก 530.20 กะรัต(106 กรัม)เพชรคูลิแนนนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นเพชรที่ใหญ่ที่สุดในโลกจนกระทั่งในปี ค.ศ.1985จนกระทั่งมีเพชรโกลด์เด้นจูบิลี่น้ำหนัก 545.67 กะรัต (109.13 กรัม)ขุดพบในเหมืองเดียวกันกับเพชรคูลิแนน
Cullinan สำหรับคนที่ชื่นชอบเพชรครับ เม็ดที่ 4 เป็นเพชรที่มีขนาดใหญ่มากของโลกเม็ดนึงเลยที่เดียวตอนค้นพบมีน้ำหนักมากถึง3,106 กะรัตที่แอฟริกาใต้ต่อมารัฐบาลทรานสวาลได้ซื้อเพชรเม็ดนี้ถวายพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 7 เพชรเม็ดนี้ได้ถูกเจียรไนออกเป็น 9 เม็ดโดยบริษัท Asscherและได้ถูกนำไปประดับมงกุฏต่างๆแห่งสหราชอาณาจักรเช่นเพชรคัลลินานที่ 1 หรืออีกชื่อหนึ่งว่า Star ofAfrica เป็นรูปหยดน้ำ น้ำหนัก 530.20 กะรัตประดับไว้บนคฑาหลวงแห่งเซเวอเรน
เพชรคัลลินานที่ 2 เจียรเป็นรูปหมอนน้ำหนัก 317.40 กะรัตประดับไว้ที่ The Imperial State Crown ส่วนคัลลินานที่ 3 เป็นรูปหยดน้ำประดับไว้บนยอดมงกุฏของพระนางแมรี่
4.The HopeDiamond - $350 million. A 45.52 carat (9.10 gram) large diamond that is now located in the Smithsonian Museumof Natural History in Washington DC.
4.เพชรโฮป เป็นเพชรสีน้ำเงินต้องคำสาปขนาดใหญ่ที่มีราคาอยู่ที่ 350ล้านเหรียญดอลล่าสหรัฐ โดยน้ำหนัก 45.52 กะรัต(9.10 กรัม)ปัจจุบันเก็บรักษาไว้ในพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติสมิธโซเนียนในกรุงวอชิงตันดี.ซี.
เรื่องเล่าว่ากันว่าตระกูลโฮปที่เคยร่ำรวยต้องประสบมรสุมชีวิตและลงท้ายด้วยการล้มละลายเนื่องจากถูกคำสาปของเพชรซึ่งตามข้อเท็จจริงมีอยู่ว่าหลังจากเฮนรีฟิลิป โฮป ผู้ไม่มีบุตร เสียชีวิตลงเพชรโฮปได้ตกทอดเป็นมรดกไปถึงสมัยเหลนของเขาคือลอร์ด ฟรานซิส โฮป (Lord Francis Hope) ซึ่งเป็นนักพนันตัวยงเขาได้ผลาญเงินของตระกูลไปกับการพนันจนในที่สุดก็ต้องขายเพชรเพื่อใช้หนี้และตระกูลโฮปต้องเผชิญกับความลำบากไปอีกหลายชั่วอายุคน
อีกครั้งที่เพชรโฮปได้เดินทางไปทั่วผ่านพระหัตถ์ของเจ้าชายคานิตอฟสกีแห่งรัสเซีย ซึ่งทรงได้มอบเพชรเป็นของกำนัลแก่นางละครที่โฟลีส์แบแย (Folies Bergere) คนเดียวกับที่พระองค์ทรงยิงจนเสียชีวิตในอีกไม่กี่วันต่อมาส่วนตัวเจ้าชายก็ถูกพวกกบฏแทงสิ้นพระชนม์ตามไปติดๆ ไปจนถึงชาวกรีกคนหนึ่งชื่อไซมอน มอนธะริเดส(Simon Montharides)ที่ซื้อเพชรโฮปไว้แต่ก็ต้องประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์จนเสียชีวิตทั้งครอบครัวถึงปีคริสศักราช 1908 สุลต่านอับดุล ฮามิดที่ 2 แห่งตุรกี (Abdul-Hamid II) ที่ได้ครอบครองเพชรเพียงสองสามเดือนก็ถูกรัฐประหารปลดออกจากตำแหน่งและในปลายปีถัดมานายหะบิบ เจ้าของเพชรชาวอียิปตคนใหม่ก็เสียชีวิตจากเรืออัปปางที่ช่องริโอ
ผู้ครอบครองเพชรโฮปคนต่อมาคือ นางเอวาลีนวอลซ์ แมคลีน (Evalyn Walsh Mclean) ภรรยานายเอ็ดเวิร์ด แมคลีน
(Edward Mclean) เจ้าของหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ ซึ่งภรรยาของแมคลีนต้องการที่จะให้พระทำพิธีขับไล่ผีในเพชรก่อนพิธีนี้จึงได้มีขึ้นและเธอได้ป่าวประกาศว่ามีฟ้าฝ่าและฟ้าแลบในระหว่างทำพิธีหลังจากนั้นเธอจึงสวมใส่เพชรเม็ดนี้โชคร้ายที่คำสาปในเพชรยังคงมีอยู่บุตรชายของเธออายุ 9 ขวบหลุดรอดจากการดูแลของบรรดาเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยถูกรถชนเสียชีวิตนายเอ็ดเวิร์ดก็เริ่มดื่มเหล้า หลังจากนั้นไม่กี่เดือนลูกสาวของเค้าก็ได้ฆ่าตัวตายด้วยยานอนหลับส่วนเอ็ดเวิร์ดกลายเป็นคนวิกลจริตและจบชีวิตในโรงพยาบาลโรคประสาทหลังจากที่ภรรยาแมคลีนเสียชีวิตแล้ว Harry Winston ได้ซื้อเพชรโฮปไปเพื่อเพิ่มชุดสะสมส่วนตัวแต่ในที่สุดนางเอดนา วินสตันภรรยาของแฮรี่ วินสตันเจ้าของคนสุดท้ายจึงตัดสินใจบริจาคเพชรโฮปให้แก่สถาบันสมิธโซเนียน(Smithsonian Institution) ที่วอชิงตัน ดี ซี ในปี 1958ซึ่งเพชรโฮปได้อยู่อย่างสงบที่นั่นจนถึงปัจจุบันนี้
5.The Sancydiamond - $400 million. 55.23 carats (11.05 grams) of pale yellow diamond thatonce was famous for belonging to one of the Great Moguls. It’s believed thatthe diamond is of Indian origin.
5.เพชรแซนซี่เป็นเพชรสีเหลืองอ่อนมีราคาอยู่ที่ 400 ล้านเหรียญดอลล่าสหรัฐ มีน้ำหนัก 55.23กะรัต (11.05 กรัม)เพชรนี้เคยเป็นของเอกอัครราชที่มีชื่อเสียงมาก่อน และเชื่อว่าต้นกำเนิดของเพชรนี้มาจากประเทศอินเดีย
TheSancy เพชรสีเหลืองอ่อนน้ำหนัก55.23กะรัตซึ่งมีความพิเศษด้านการเจียระไนโดยไม่มีส่วนล่างของเพชรมีแต่ส่วนบนของเพชรหนึ่งคู่ เม็ดหนึ่งอยู่บนอีกเม็ดหนึ่งเจ้าของเพชรเม็ดนี้คนแรกทำเพชรหายไปในสนามรบเมื่อ ค.ศ. 1477 และถูกตั้งชื่อตามเจ้าของรายต่อมาSeigncur de Sancy เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำตุรกีต่อมาพระเจ้าเฮนรี่ที่ 3 ได้ขอยืมเพชรเม็ดนี้มาตกแต่งพระมาลาเพื่อปิดบังพระเศียรที่ล้าน และประสงค์จะให้เพชรเม็ดนี้เป็นเครื่องประกันการกู้ยืมเงิน ผู้ส่งสารได้นำเพชรเม็ดนี้เดินทางไปฝรั่งเศสแต่ไปไม่ถึงซองซีจึงเดินทางตามเส้นทางของผู้ส่งสารและพบว่าคนส่งสารถูกฆ่าตายส่วนเพชรหายไปซองซีรู้ดีถึงความภักดีของคนส่งสาร เมื่อให้ตรวจดูศพบริเวณช่องท้องก็พบเพชรเม็ดนี้กล่าวคือคนส่งสารกลืนเข้าไปเพื่อป้องกันการโขมยจากโจรนั่นเอง หลังจากนั้นเพชรเม็ดนี้ก็ได้ถูกขายให้พระเจ้าเจมส์ที่ 1 แห่งอังกฤษและได้ตกทอดไปเรื่อยๆปัจจุบันเพชรซองซีจัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ ประเทศฝรั่งเศส
https://www.facebook.com/notes/lozenge-jewelry/5-อันดับเพชรที่แพงที่สุดในโลก/864950153552150/
Credit: PascalMouawad และข้อมูลจากอินเตอร์เนท