มันเกิดอะไรขึ้น ฝรั่งเมายาจิ้มตาคนพิการสูงอายุจนเลือดออก แต่ไม่มีใครช่วยเหลือ?

มันไม่ได้เป็นการจู่โจมแบบฉับพลันหรอกนะ คือเขาค่อยๆเดินเข้าไปช้าๆ ยกนิ้วจิ้มช้าๆ แบบคนดูแลเค้านึกไม่ถึงว่ามันจะจิ้ม คงนึกว่าจะลูบผิวหน้าหญิงพิการด้วยความเอ็นดู ประมาณนั้น แต่ปรากฏว่ามันจิ้มเลย จนเหยื่อร้องโหยหวนดิ้นพราดๆ ทั้งคนดูแลทั้งเหยื่อร้องไห้ไปตามๆกัน

เราบอกให้เขาหยุด แล้วถามว่า "ทำไมถึงทำแบบนั้น เธอกำลังทำร้ายผู้หญิงคนนั้นนะ" เหยื่อเริ่มมีเลือดไหลเป็นหยดๆออกมาจากตาข้างที่โดนนิ้วเปื้อนๆของชาวต่างชาติบรรจงจิ้มลงไป

ระหว่างนั้นมีพลเมืองดีที่เห็นเหตุการณ์ช่วยกันโทรเรียกตำรวจ (มีแต่ ผญ ค่ะที่สนใจหยิบยื่นความช่วยเหลือ) อีกส่วนหนึ่งพยายามแจ้งทีมรักษาความปลอดภัยของสถานีฯใต้ดิน เราเองพยายามขอความช่วยเหลือผู้ชายละแวกนั้นให้ช่วยสกัดตัวชายคนนี้ไว้ เราพยายามพูดให้เขาอยู่กับที่ อย่าหนีไปไหน แล้วเราก็ตะโกนขอ ผช ที่มุงดูเหตุการณ์ช่วยกันฝรั่งให้อยู่กับที่ย้ำๆอีก 3-4 รอบ แต่ก็ไม่มีใครแสดงความแมนเข้ามาคุมตัวชายชาวต่างชาติคนนี้ไว้ ผู้คนมัวแต่มุง เราไม่เจอชายไทย man up จุดนี้คือส่ายหัวรัวๆ

เอาวะ ลุยเองก็ได้

ตอนนั้นมองไปที่พี่ยาม เขาวิ่งหายไปในสถานีใต้ดินแล้ว คิดในใจว่าขอให้วิ่งไปขอความช่วยเหลือเถอะ แต่วิ่งทำไม?! วอของพี่มันไม่ทำงานรึไง สถานการณ์ lonely สุดๆ

ชายชาวต่างชาติ ถามเรากลับแบบใสๆว่า "ทำไมเขาร้องกรี้ดๆด้วย ฉันแค่จิ้มดู แล้วทำไมหน้าเขาแปลกแบบนั้นหละ" ดูหน้าตาของนางในรูปที่ 1 ประกอบไปด้วยนะ

เรา: ....(อ่าวเห้ย เรากำลังประเมินว่า ผช คนนี้สภาพจิตไม่ปกติ น่าจะไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่งแถมเมายาด้วยมั้ง)
เรา: คุณมาจากไหน
ผช: สวีเดน
เรา: พักที่ไหน มาเมืองไทยได้กี่วันแล้ว อยู่กับเพื่อนเหรอ
ผช: พักแถวๆอโศก มาไทยได้ 6 วัน ฉันมาคนเดียว ไม่มีเพื่อน
เรา: มาทำอะไรที่ไทย
ผช: มาเรียน
เรา: เรียนมหาลัยที่ไทยเหรอ
ผช: เปล่า ผมเรียนทางไกลกับประเทศของผม
เรา:(ขร่ะ คงไม่ค่อยปกติจริงๆ)
เรา: คุณมาจากประเทศอะไรนะ ฉันขอถามอีกรอบ
ผช: ผมอาศัยอยู่ที่นี่
เรา: เธอใช้ยาเหรอ
ผช: โน่ววววว โน่ววววววววว

ระหว่างพูดคุยเพื่อรอจนกว่าการ์ดสถานีจะส่งเจ้าหน้าที่มาคุมตัว เรายิ่งเห็นชัดมากขึ้นว่า ผช คนนี้กลิ่นตัว(แรงมาก) รอยยุง คราบดินทรายบนหน้า เสื้อผ้าขาดๆเก่าๆ ผมเผ้าที่แค่ดูก็เหม็นแล้ว เป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่า เขาไม่ปกติจริงๆ หรือไม่ก็กำลังเล่นยา และป้าคนนั้นคงเจ็บตัวฟรีแน่ๆ
5-10 นาทีต่อมา จนท. สถานีส่งคนมาคุมตัวเพื่อประสานต่อไปยังสถานีตำรวจต่อไป ทำงานไวมาก ขอชื่นชม มีอย่างเดียวค่ะ ก่อนพี่รปภ.จะวิ่งไปขอความช่วยเหลือ พี่มาช่วยหนูคุมตัวเขาหน่อยสิคะ พี่มีกระบอง หนูถือแต่กระเป๋า หนูก็กลัวมันนะคะ ไม่ใช่พี่รปภ.คนเดียวที่หวั่นใจ

ฝรั่งไม่ได้ดีทุกคนนะคะ อย่าไปไมตรีกับมันมาก ป้องกันตัวเองเวลาเข้าใกล้ฝรั่งนะคะ ฝรั่งไม่ได้ขี้หอมเสมอไป คนที่เป็นภัยแฝงตัวในทุกชนชาติแม้กระทั่งชาติเราเอง หึหึ

เรากลับบ้านด้วยคำถามว่า บ้านเรามันอันตรายขนาดนี้ แล้วที่เรารอดชีวิตแต่ละวันมาได้ยังไง เรื่องนี้มันไม่ได้น่ากลัวมากมาย แต่ที่น่าคิดคือเรามารู้ภายหลังว่ามีคนเห็นชาวต่างชาติคนนี้ตั้งแต่ตี ของเช้าวันนั้น เดินไปเดินมาเรื่อยๆแถวๆรัชดา-ห้วยขวางจนมีเรื่องตอนเกือบ 6 โมงเย็น เป็นเพราะทุกคนเห็นว่าเขาดูไม่มีพิษภัยอะไร พวกเรารอ กระทั่งตอนที่เขาทำร้ายเหยื่อ นั่นแหละเราถึงได้ตระหนักว่าเขาคือภัย ถ้าเราช่วยกัน report ตำรวจตั้งแต่ตี 2 ตี 5 หรือ 8 โมงเช้า คุณยายอาจจะไม่ต้องลงเอยแบบนี้

มันไม่มีใครผิด แต่ทำไมเรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นง่ายๆ พอเรื่องเกิดขึ้นแล้วไม่ต้องโทษใคร เพราะเราคิดว่าถ้าอยากอยู่รอดปลอดภัยในสังคมประเทศของเรา เราต้องรู้จักดูแลสวัสดิภาพตนเอง อย่าหวังพึ่งพาใครหลังเกิดเรื่อง ป้องกันเรื่องวิ่งเข้าหาให้ดีที่สุด

อีกอย่าง รปภ.ที่เราเห็นรถไฟฟ้าใต้ดินจ้างก็คุณลุงวัยดึก ตัวเล็กๆถึงปานกลาง ซึ่งเวลาหน้าสิ่วหน้าขวาน เหล่าลุงๆหนีบกระบองวิ่งไปเรียกความช่วยเหลือต่อ มันควรเป็นว่ารปภ.ช่วยได้ทันใด ให้เรื่องไม่บานปลาย แต่เพราะองค์กรให้ค่าจ้างน้อยเกินกว่าจะจ้างคนหนุ่มๆมาทำงาน เราไม่ได้อยากให้ลุงๆไม่มีงานนะ อย่าเข้าใจผิดค่ะ

เราไม่แน่ใจว่าชายต่างชาติออกไปจากไทยหรือยัง หากใครพบเห็นชายดังกล่าวยังคงป้วนเปี้ยนในบ้านเรา ถ่ายรูปแล้วแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมเล่าเรื่องราวของ post นี้ ให้เขาเรียกสถานฑูตส่งตัว deport กลับประเทศสถานเดียวค่ะ เขาไม่มีสิทธิ์มาแร่ร่อนในบ้านเราต่อไปแม้จะไม่ได้ทำร้ายใครเพิ่มเติมก็ตาม

ช่วยกันเป็นหูเป็นตาให้บ้านเกิดเมืองนอนของเรากันค่ะ ประเทศจะน่าอยู่มันเริ่มที่ตัวเราจริงๆ

‪#‎js100‬ ‪#‎js100radio‬ ‪#‎mrt‬