ต้นตำรับความซาดิสม์ ‘Marquis de Sade’ ชายผู้ชื่นชอบความรุนแรงทางเพศ
อำมหิต และชอบความรุนแรงทุกรูปแบบโดยเฉพาะเรื่องเพศ จนกระทั่งชื่อของเขาถูกนำมาตั้งเป็นชื่อโรคจิต
ประเภทหนึ่ง กล่าวคือผู้ป่วยทางจิตประเภทนี้เป็นพวกชอบความรุนแรง และชอบทรมานคู่นอนขณะร่วมเพศ
เป็นลูกขุนนางชั้นสูง ใช้ชีวิตในปราสาท มีชีวิตที่สมบูรณ์แบบ แม่ของ เด ซาด เป็นนางกำนัลของเจ้าหญิงแห่งกงเด (Princess of Conde) นางต้องการให้ลูกชายสนิทสนมกับเจ้าชายน้อยกงเด แต่ความคิดนี้ล้มเหลวเนื่องจาก
เด ซาดชอบแกล้งเจ้าชายน้อยกงเด จนถูกไล่ออกไปอยู่นอกปราสาท
พออายุได้ 14 ปี เขาเบื่อหน่ายชีวิตซ้ำซากในชนบท เลยสมัครเป็นทหารในส่วนของกองทหารม้า เขาอยู่ใน
กองทัพนานหลายปีเนื่องจากในขณะนั้นเกิดการปฏิวัติขึ้น เด ซาด ได้เห็นความรุนแรงต่อเชลยและนักโทษ
ที่ถูกจับได้ แต่ความรุนแรงเหล่านี้ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกสะอิดสะเอียนแต่อย่างใด กลับกัน เขากลับรู้สึกชื่นชอบมันมากขึ้น
หลังจากปลดประจำการ เด ซาดได้รับตำแหน่งขุนนางจากพ่อ (Marquis) และได้แต่งงานกับสตรีนางหนึ่ง
ซึ่งต่อมาหญิงสาวคนนั้นได้ตระหนักว่าชีวิตคู่ของหล่อนกับสามีเหมือนนรกทั้ง เป็น เพราะ เด ซาด มักกระทำการหยาบช้าและหมิ่นน้ำใจภรรยาเสมอ เช่นการจ้างโสเภณีมาเสพกามที่บ้านทั้งที่ภรรยาของตนยังอยู่ นอกจากเขายังชอบมัดมือ
มัดเท้าเหล่าโสเภณี ก่อนเฆี่ยนตีจนเป็นแผล และร่วมรักกับเธอจนสุขสม และมอบเงินปิดปากก่อนแยกย้าย
พฤติกรรมชั่วร้ายของเด ซาด ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ เขาเสพติดเซ็กส์และความรุนแรงจนถอนตัวไม่ขึ้น
ต่อมามีหญิงสาวรายหนึ่งที่ถูกล่อลวงมาเกิดไม่ยอมความ หล่อนแจ้งความกับเจ้าหน้าที่บ้านเมืองจนเป็นข่าวดัง
ก่อนเด ซาด ถูกส่งขังคุกในเวลาต่อมา
หลังจากพ้นโทษ เด ซาด ยังไม่สำนึกในความผิดที่เขาเคยก่อ กลับมาครั้งนี้ เด ซาดเหิมเกริมกว่าเดิน เขาจัดปาร์ตี้
เซ็กส์หมู่ที่เมืองมาร์กเซย จ้างคณะโสเภณีมาเกือบยกเมืองและมอมยาจนเกือบเสียชีวิต สุดท้ายเขาถูกแจ้งจับ
ในข้อหาพยายามฆ่าและกามวิตถาร เดซาดจึงหนีความผิดไปอยู่ที่อิตาลี ก่อนที่จะถูกตำรวจจับเนื่องจากแม่ยาย
ทนความชั่วร้ายของเขาไม่ได้
เด ซาด กลายเป็นบุคคลอันตราย เขากลายเป็นคนที่สังคมรังเกียจ เด ซาดล่อลวงเด็ก ๆ ไปกระทำวิตถาร จนพ่อแม่
และคนในเมืองทนไม่ได้ คราวนี้ เด ซาด ต้องใช้ชีวิตหลบ ๆ ซ่อน ๆ จากการไล่ลาของตำรวจอยู่หลายปี จนกระทั่ง
เขาถูกจับอีกครั้ง เขาถูกส่งไปยังปราสาทแวงซองส์ ที่นั่นเองที่ทำให้เด ซาด ลิ้มรสความทรมานที่แท้จริง
เขาขาดสาว ๆ และเซ็กส์วิตถาร เขาจึงหาทางออกด้วยการเป็นนักเขียน เขาแต่งกลอน ละครเพลง เกี่ยวกับ
ประสบการณ์ทางเพศของเขา ซึ่งเนื้อหาถูกบรรยายอย่างละเอียดจนเห็นภาพ หนังสือของเขากลายเป็นสิ่งต้องห้ามมากว่า 200 ปี เขาใช้เวลาเขียนหนังสือในคุก 7 ปี โดยมีหนังสือเรื่อง ‘120 Days of Sodom’ ซึ่งเป็นงานเขียนระดับมาสเตอร์พีซของเขา และยังมี ‘The Misfortunes of Virtue’ งานเขียนเหล่านี้ถูกเด ซาด แอบซ่อนไว้จาก
ผู้คุมเพื่อไม่ให้ถูกนำไปทำลาย
สุดท้าย เมื่อขาดเซ็กส์วิตถารนาน ๆ เข้า เด ซาดจึงถูกส่งไปยัง โรงพยาบาลบ้านที่ชาเรนตอง
(asylum of Charenton) เด ซาดใช้เวลาในช่วงสุดท้ายของชีวิตที่นี่ และเขาได้แอบมีความสัมพันธ์กับคนงานสาววัยเพียง14 ปี ซึ่งเขาได้เขียนบันทึกไว้อย่างละเอียด จนกระทั่งเสียชีวิตในปี 1814 ปิดฉากชายผู้ฉาวโฉ่ที่สุดในโลก
นับตั้งแต่นั้น ชื่อของเขาจึงถูกนำมาเรียกชื่อผู้ป่วยทางจิตที่ชื่นชอบความรุนแรง จนเป็นตำนานมาถึงปัจจุบัน