7 ปัญหาสุขภาพที่ผิวกำลังบอกคุณ
แพทย์ผิวหนังเปรียบเสมือนนักสืบสุขภาพ เพียงมองเห็นจากภายนอกก็สามารถให้ข้อมูลที่สำคัญเกี่ยวกับสิ่งที่ซ่อนอยู่ภายใน ผิวหนังสามารถสะท้อนให้เห็นถึงสุขภาพโดยรวมของร่างกายได้เป็นอย่างดี การเปลี่ยนแปลงภายในผิวบอกได้ว่าผิวต้องการการนอนหลับที่เพียงพอหรือการบำรุงที่มากขึ้น แต่ในบางกรณีคุณอาจไม่มีทางรู้ได้และนี่คืออาการของโรคที่สามารถบอกใบ้ว่ามีอะไรบางอย่างกำลังเกิดขึ้น
คุณอาจเป็นโรคสะเก็ดเงิน หรือเกิดความไม่สมดุลของเซลล์ภูมิคุ้มกันที่กรองอยู่ใต้ผิวหนังซึ่งอาจทำให้เกิดการอักเสบและการระคายเคืองผิว บางคนมียีนที่ทำให้พวกเขาเสี่ยงต่อการเป็นโรคแพ้ภูมิตัวเอง คนส่วนใหญ่จะเป็นโรคสะเก็ดเงินใน 2 ช่วงอายุคือในช่วงวัยรุ่นหรืออายุ 20 ต้นๆ และอีกครั้งเมื่อพวกเขาอายุประมาณ 50-60 ปี ซึ่งอย่างหลังจะเกิดขึ้นเมื่อมีเหตุการณ์ตึงเครียด เช่น การเสียชีวิตของสมาชิกในครอบครัวหรือการหย่าร้าง ลำคออักเสบก็สามารถกระตุ้นให้เป็นโรคสะเก็ดเงินได้เช่นกัน โดยอาจมีอาการปวดข้อ ตึงหรือบวมร่วมด้วย หากคุณมีอาการทั้งหมดนี้การรักษาด้วยครีมที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์คงไม่เพียงพอ นอกจากนี้บุคคลที่เป็นโรคสะเก็ดเงินอาจมีความเสี่ยงในการเป็นโรคอื่นด้วย เช่น โรคหัวใจ โรคมะเร็ง และโรคซึมเศร้า
อาการ : ผิวแห้ง คัน
คุณอาจกำลังเข้าสู่ภาวะผิวหนังอักเสบ หากคุณมีผิวแห้งซึ่งเป็นผลมาจากอากาศเย็นหรือการใช้เครื่องทำความชื้นคุณควรหลีกเลี่ยงการอาบน้ำร้อนจัดๆ ขณะเดียวกันการทาครีมบำรุงผิวเป็นประจำจะช่วยทำให้ผิวเนียนนุ่ม แต่ถ้าเป็นอาการคันรุนแรงและมีอาการอื่นๆตามมา เช่น อาการอ่อนเพลียหรือน้ำหนักลด แพทย์อาจวินิจฉัยว่าคุณมีปัญหาเกี่ยวกับต่อมไทรอยด์ โรคไต หรือโรคมะเร็งบางชนิด
อาการ : สิว
คุณอาจมีอาการเครียด หากคุณมีเรื่องกังวลสิวก็จะปะทุออกมาทางใบหน้า ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอลซึ่งทำให้เกิดสิว มีการพิสูจน์แล้วว่าฮอร์โมนคุมกำเนิด (เช่นยาคุมกำเนิด) สามารถป้องกันการเกิดสิวได้ นอกจากนี้กิจกรรมบางอย่าง เช่น โยคะ การหายใจลึกๆ การเต้นรำภายในบ้าน หรือการเดินเล่นรอบสวน จะช่วยทำลายความเครียด ที่สำคัญการฝึกสมาธิจะช่วยให้จิตใจของคุณสงบลงอย่างรวดเร็ว
อาการ : ตุ่มแดง
อาจไม่ใช่แค่ความเครียด บางครั้งความวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้าก็อาจทิ้งรอยแดง ตุ่ม หรือเลือดออกไว้บริเวณผิวหนัง ในกรณีนี้แพทย์ผิวหนังอาจส่งคุณไปพบกับจิตแพทย์เพื่อหาสาเหตุของปัญหา
อาการ : สิวและขนที่ไม่พึงประสงค์
น่าเสียดายที่สิวไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นเฉพาะกับวัยรุ่น ผู้หญิงไม่ว่าวัยใดก็สามารถเป็นได้หมด ในช่วงวัย 30-40 ปีคุณอาจสังเกตเห็นสิวที่คางและแก้ม อีกทั้งขนส่วนเกินบริเวณหน้าท้อง ใบหน้า หรือหน้าอก คุณอาจคิดว่าอาการเหล่านี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผิวหนังแต่คุณคิดผิด คุณอาจต้องตรวจเลือดเพื่อหาความไม่สมดุลของฮอร์โมน เช่น โรคถุงน้ำในรังไข่ เป็นต้น และอาจส่งต่อไปยังนักวิทยาต่อมไร้ท่อเพื่อทำการรักษาต่อไป
อาการ : เปลือกตาบวม
ตาบวมอาจเกิดจากบางอย่างที่สะสมอยู่บนเปลือกตา การนอนคว่ำจะทำให้ของเหลวสะสมบริเวณรอบเปลือกตา หากมีอาการคัน แดง และตกสะเก็ด คุณอาจจะเป็นโรคภูมิแพ้ตามฤดูกาล เปลือกตามีชั้นผิวที่บางที่สุดในร่างกายและมักจะแสดงอาการแพ้ก่อนบริเวณอื่นๆ โรคภูมิแพ้ที่พบบ่อยได้แก่ กลิ่นสีในผลิตภัณฑ์ความงาม เสื้อผ้าและฟอร์มาดีไฮด์ (สารกันบูดในครีมบางชนิด แชมพู และยาทาเล็บ) แพทย์ผิวหนังของคุณอาจต้องทดสอบภูมิแพ้เพื่อหาว่าส่วนผสมใดที่ทำให้เกิดอาการแพ้
อาการ : ตุ่มสีเหลืองที่ขาและแขน หรือรอยปื้นดำๆ
คุณควรตรวจคัดกรองหาโรคเบาหวาน ตุ่มสีเหลืองที่ดูคล้ายกับขี้ผึ้งซึ่งผุดออกมาจากผิวเป็นผลมาจากระดับไตรกลีเซอไรด์สูงหรือโรคเบาหวาน ส่วนรอยปื้นดำๆบริเวณหลังคอและแขน (บางคนพยายามถูมันออกเพราะคิดว่าเป็นสิ่งสกปรกแต่อันที่จริงแล้วไม่ใช่) ก็เป็นอีกสัญญาณหนึ่งของโรคเบาหวาน แม้ว่าชาวอเมริกันกว่า 29 ล้านคนเป็นโรคเบาหวาน แต่ปรากฏว่าหนึ่งในสี่ของพวกเขายังไม่ทราบ ดังนั้นอาการทางผิวหนังอาจเป็นเบาะแสแรกที่คุณสามารถสังเกตได้
Source : executiverepublic.blogspot.com