21 วิธีจัดการเวลาที่คุณต้องรู้เดี๋ยวนี้

หลายคนมักจะบ่นว่า “ไม่ค่อยมีเวลา” หากเพื่อนชวนไปวัดทำบุญฟังเทศน์ฟังธรรม หรือไปกินข้าวสังสรรค์ หรือบางคนก็บอกว่า “อยากให้ 1 วันมีมากกว่า 24 ชั่วโมง” จะได้ทำอะไรหลายๆอย่างให้เสร็จ ไม่ว่าจะเป็นงานที่ทำงาน งานที่บ้าน หรือกิจกรรมต่างๆ คำพูดประเภทนี้แสดงให้เห็นถึงความไร้ประสิทธิภาพในการบริหารเวลา เพราะในความเป็นจริง ทุกคนสามารถทำภารกิจต่างๆให้สำเร็จลุล่วงได้ และยังมีเวลาเหลือพอที่จะทำกิจกรรมที่โปรดปรานได้ในแต่ละวัน เพียงแต่ต้องมีการวางแผนและบริหารจัดการเวลาอย่างมีประสิทธิภาพ

เทคนิค 21 ข้อต่อไปนี้ คือส่วนหนึ่งของการบริหารจัดการเวลาที่จะส่งผลดีต่อการงานและชีวิตของคุณอย่างมาก

1. ออกแรงทำงานที่ส่วนสำคัญก่อน : หลีกเลี่ยงการให้ความสำคัญไปกับรายละเอียดปลีกย่อยของงานจนกว่าคุณจะทำตรงจุดสำคัญสำเร็จก่อน คนเราส่วนใหญ่ไม่สามารถทำงานได้เสร็จเนื่องจากมักจะจมไปกับอยู่ส่วนที่ไม่สำคัญ

2. พูดคำว่าไม่ : มีหลายสิ่งที่มักจะเข้ามารบกวนการทำงานของคุณ เช่นมีคนอื่นต้องการให้คุณเข้าไปสนใจเรื่องราวของเขา คุณต้องไม่พูดคำว่า “ได้สิ” หรือแม้กระทั่งตอบคำถามเขา

3. ขอให้คนอื่นช่วยเตือนคุณให้มีความรับผิดชอบ : บางคนอาจมีบัดดี้คอยช่วยย้ำเตือนให้มีความรับผิดชอบ ขณะที่คนอื่นอาจจ้างโค้ชมาดูแล ซึ่งได้รับการพิสูจน์แล้วว่าการมีคนอื่นคอยเตือนให้เรามีความรับผิดชอบอยู่เสมอเราคือกุญแจนำไปสู่การทำสิ่งต่างๆ ให้ลุล่วง

4.สังเกตว่าคุณกำลังทำให้ตัวคุณเองยุ่งหรือกำลังทำให้งานของคุณคืบหน้า : หากคุณเพ่งมองไปที่สิ่งต่างๆ ที่คุณทำตลอดทั้งวัน ว่าเป็นกิจกรรมที่กินเวลานานหรือเป็นการปฏิบัติงานซึ่งสร้างความแตกต่างให้กับงานของคุณหรือเปล่า จงใช้สายตาเพ่งมองไปที่การปฏิบัติงาน ไม่ใช่มองไปยังงานที่ยุ่ง คุณจะทำในสิ่งที่ถูกต้องไปตลอดวัน

5. ตื่นนอนแต่เช้า : คุณจะรู้สึกเหมือนคุณได้เริ่มต้นสมองของคุณในวันนั้น ตอนเช้าตรู่เป็นช่วงเวลาที่สลัวและเงียบสงัด เหมาะมากกับการจัดระบบความคิดของคุณ จัดลำดับความสำคัญของงานที่คุณต้องทำในวันนั้น รวมถึงได้ดูแลตัวเองหรือดูแลลูกๆ ของคุณ ก่อนจะเริ่มต้นทำงาน

6. จดสิ่งสำคัญที่สุดที่คุณต้องทำในวันถัดไป : จดบันทึกในรูปแบบการจัดลำดับงานที่สำคัญ เช่น สิ่งสำคัญ 3 ลำดับแรกหรือ 5 ลำดับแรก การทำในลักษณะนี้จะส่งผลให้คุณต้องมองไปยังอนาคต คุณจะทำงานได้ง่าย เนื่องจากคุณรู้ตัวเองว่าอะไรคือสิ่งที่คุณจำเป็นต้องทำให้สำเร็จในวันนี้ ตั้งแต่ตอนตื่นนอน

7. รับมือกับทั้งงานเล็กและใหญ่ในหนึ่งวัน : ด้วยกับการผ่านงานที่เล็กกว่า คุณจะรู้สึกเหมือนกับว่าคุณได้ทำงานสำเร็จแล้วในบางเรื่อง จะส่งผลให้คุณเกิดแรงผลักดันที่จะทำงานที่มีความซับซ้อนหรือต้องใช้เวลามากขึ้นในการทำ

8. ทำงานที่ละอย่าง : การทำงานหนักหลายอย่างถือว่าประเมินความสามารถตัวเองสูงเกินไป ผลการศึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญ คลิฟฟอร์ด นาสส์ แห่งมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดเผยว่า เราจะทำงานด้อยประสิทธิภาพลงเมื่อเราต้องเปลี่ยนความสนใจไปมาระหว่างงานที่ต้องทำกับสมาร์ทโฟน

9. ทำงานหนักของวันนั้นให้เสร็จตั้งแต่เนิ่นๆ เท่าที่คุณจะทำได้ : แล้วคุณก็จะเล่นหรือโอ้เอ้ไปได้ตลอดเท่าที่คุณต้องการ

10. ฝึกจัดการความคิดก่อนเริ่มทำงาน : จดบันทึกเรื่องที่น่าเศร้า เรื่องที่ชวนโมโห หรือเรื่องที่มีความสุขทั้งหมดลงไปในสมุด

11. พักงีบ : แค่เวลาเพียงไม่ถึง 30 นาทีที่คุณพักงีบจะทำให้คุณสดชื่น มีชีวิตชีวาขึ้นใหม่ โดยไม่ได้ส่งให้คุณเข้าสู่โหมดการนอนหลับลึก แต่หากนอนมากกว่านี้คุณอาจเสี่ยงต่อการเสียชีวิตเร็วขึ้น

12.วางแผนวันหยุดพักผ่อน : ต้องการเป็นหยุดพักอย่างแท้จริง แทนที่จะต้องคอยรับโทรศัพท์หรือตอบอีเมล์ธุรกิจต่างๆ คุณอาจจะต้อง

ถอดปลั๊กอุปกรณ์เทคโนโลยีต่าง ๆ ที่คุณเสพติดทั้งหมด แล้วพักผ่อนให้เต็มที่

13. เก็บสิ่งล่อใจออกไปให้พ้นสายตา : นั่นหมายความว่า ควรวางโทรศัพท์ของคุณตรงบริเวณอื่นที่ไม่ใช่พื้นที่สำหรับการทำงานและล็อก เอาท์ ออกจากบัญชีผู้ใช้งานโซเชียล มีเดียก่อนที่จะทำงานต่างๆ

14.ปฏิบัติงานในชั่วโมงแห่งการมีพลัง : ทำไปพร้อมกับบัดดี้ เริ่มต้นในช่วงต้นชั่งโมง ป่าวประกาศออกไปให้บัดดี้คุณทราบ ทำงานเพื่อจะสร้างผลงานและกลับไปยังโทรศัพท์เพื่อรายงานสิ่งที่คุณได้ทำลงไป

15.ทำงานเป็นทีม : ในการทำงานเป็นทีมคุณสามารถมอบหมายงานที่สำคัญให้กับผู้ที่คุณไว้วางใจเพื่อประหยัดเวลาของคุณในการมุ่งเน้นไปงานที่มีคุณเท่านั้นที่ทำได้ในทีม

16.เดินทางให้น้อยที่สุด : ทำงานจากที่บ้าน ความพยายามที่ใส่ลงไปในการทำงานการขับรถ เก็บของ เปิดกระเป๋า เช็คอินเข้าโรงแรม และอีกหลายอย่างล้วนดูดพลังงานของคุณ

17. ลดจำนวนตัวเลือกของคุณในแต่ละวันให้น้อยที่สุด : ครั้งหนึ่งประธานาธิบดีบารัค โอบามา เคยให้สัมภาษณ์แวนิตี้แฟร์ ว่า “ผมไม่ต้องการตัดสินใจเกี่ยวกับว่า ผมจะกินอะไรหรือจะใส่เสื้อผ้าอะไร เพราะผมมีเรื่องมากมายที่ต้องตัดสินใจ”

18.รักษากิจวัตรประจำวันในตอนเช้า แม้จะเป็นวันหยุด : ตื่นนอนตั้งแต่ตี 5 ในวันศุกร์ แล้วก็ตื่นเวลานี้เหมือนกันในวันเสาร์และอาทิตย์ จะทำให้การตื่นนอนในเช้าวันจันทร์เป็นเรื่องง่ายขึ้น

19. คิดว่าเวลาคือเงิน : คุณมีต้นทุนเป็นเงิน มีเงินเข้าและมีเงินออก และคุณก็มีเงินคงเหลือ ลองสร้าง”ต้นทุนเวลา” คุณต้องทำงานอีกเท่าไหร่ถึงจะทำให้ภาระงานของคุณคืบหน้าออกไปหรือทำเงิน และใช้เวลาไปเท่าไหร่ในการทำสิ่งต่างๆ ที่ไม่ทำให้งานของคุณขยับคืบหน้าไป

20. จงยึดเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางเหมือนกับเบนจามิน แฟรงคลิน : สร้างกิจวัตรประจำวันที่มุ่งเน้นไปที่ตัวคุณ คุณจะทำงานเสร็จ และไม่เต็มใจที่จะให้เวลาหลุดลอยแม้เศษเวลา (เหมือนเบน แฟรงคลิน) เพื่อให้คุณมีความยืดหยุ่นในการรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินและขัดจังหวะได้

21. สร้างสถานการณ์เร่งด่วนจำลองขึ้นมา : คนเราส่วนใหญ่จะกำหนดเส้นตายที่จะต้องทำงานให้เสร็จสิ้น เมื่อเวลากำหนดเส้นตายใกล้เข้ามาหรือเสร็จไม่ตรงตามกำหนด เราจะรู้สึกหมดหวังและทำผลงานที่ไม่มีคุณภาพออกมา ลองฝึกกำหนดเส้นตายให้กับตัวเองล่วงหน้าก่อนกำหนดเส้นตายจริงที่จำเป็นเพื่อเป็นการป้องกันการเร่งรีบในช่วงนาทีสุดท้ายก่อนถึงกำหนด