เรื่องราวของพิษที่คุณอาจจะยังไม่รู้
เรื่องราวของพิษที่หลายๆ คนอาจจะยังไม่รู้ ถ้าอย่างนั้นเรามาดูว่าบทความนี้เราจะมาบอกเล่าเรื่องของ “พิษ” ว่าอย่างไรกันบ้าง
กบลูกศรพิษไม่ใช่สัตว์มีพิษ (โดยธรรมชาติ)
ชื่อก็บอกว่า กบลูกศรพิษ แต่มันจะไม่มีพิษได้อย่างไรกัน ? ใช่มันมีพิษ… แต่เราต้องให้มันกินอาหารก่อนนะ !!! โดยพิษที่ชื่อ batrachotoxins (ใช้เคลือบลูกดอกเพื่อการล่า มีฤทธิ์ทำลายระบบประสาท) จะพบได้บนผิวหนังของกบลูกศรพิษ (Poison Dart Frog) ซึ่งเป็นพิษชนิดเดียวกับที่สังเคราะห์จากแมลงที่เป็นอาหารของมัน มีการตรวจสอบกบลูกศรพิษที่ถูกเลี้ยงในสภาวะที่มีการควบคุมแล้วจะไม่ปรากฏพิษบริเวณผิวหนัง โดยพิษ batrachotoxins ก็ถูกค้นพบในนกปาปัวนิวกินีเช่นกัน ซึ่งพิษที่ได้ก็มาจากการกินแมลงที่ชื่อ Melyrid beetles หรือ Choresine นั่นเอง
Melyrid beetles (Choresine) ที่มา http://www.pnas.org
คำว่ามีพิษ - Venomous และ Poisonous ไม่เหมือนกัน
ในภาษาอังกฤษ Venomous และ Poisonous ต่างก็แปลว่า มีพิษ เป็นคำคุณศัพท์ (ADJ: Adjective) ทั้งคู่แต่ใช้งานต่างกัน โดยคำคุณศัพท์สองคำนี้พูดถึงวิธีการส่งสารพิษ สัตว์มีพิษแบบ Venomous จะส่งสารพิษด้วยตัวมันเองเช่น การต่อย ข่วน หรือกัด แต่สัตว์มีพิษแบบ Poisonous จะเป็นพิษแบบที่ไม่ได้ฉีดใส่สัตว์อื่น เช่น มีผิวหนังเป็นพิษ หรือสัตว์ที่มีต่อมพิษซ่อนอยู่ เป็นต้น
ไซยาไนด์ (Cyanide) - ยาพิษที่อาจอยู่ในอาหารของคุณ
Mullookkaaran (Wikimedia Commons)
พืชเศรษฐกิจที่เป็นอาหารหลักของมนุษย์ ได้แก่ ข้าวเปลือก ข้าวสาลี อ้อย เมล็ดถั่วเหลือง มันสำปะหลัง และข้าวโพด จะมีสารประกอบที่หลากหลาย ซึ่งสุดท้ายจะถูกกระบวนการเผาผลาญอาหารของเราทำให้กลายเป็นไซยาไนด์ นอกจากนั้นไซยาไนด์ยังอยู่ใน ถั่วลิม่า อัลมอนด์ ข้าวบาร์เลย์ และเมล็ด หรือเม็ดผลไม้อีกหลายชนิดด้วย
การได้รับนิโคตินก็เป็นสิ่งดีต่อตัวเราได้เช่นกัน
นิโคตินไม่ได้อยู่เฉพาะในใบยาสูบเท่านั้น โดยสารพิษที่ให้ประโยชน์นี้สามารถพบได้ในพืชผักหลายชนิด ได้แก่ มะเขือเทศ พริกไทย มะเขือยาว และกะหล่ำดอก การทานอาหารที่มีสารนิโคตินในปริมาณน้อยจะช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นโรคพาร์กินสันได้
แอปเปิลอาบยาพิษที่ทำให้สโนไวท์สลบ
มีพิษบางชนิดที่ทำให้มนุษย์สลบได้เป็นอาทิตย์ โดยถ้าเราอาบแอปเปิลด้วยพิษชื่อ pufferfish toxins ก็จะทำให้สโนไวท์เป็นอัมพาต และสลบได้ 4 – 20 ชั่วโมงเลยทีเดียว และอาจจะใช้เวลาเป็นอาทิตย์ถ้าใช้ในปริมาณมาก (แต่อย่าให้ถึงตาย)
เราสามารถสร้างภูมิคุ้มกันพิษได้บางชนิดเท่านั้น
พิษจากงู และพืชบางชนิดอาจทำให้เราถึงตายได้ แต่ถ้าได้ในปริมาณน้อยๆ ก็สามารถสร้างภูมิคุ้มกันให้กับเราได้เช่นกัน โดยคนดูแลงูชื่อ Bill Haast จะฉีดพิษงูใส่ตัวของเขาเองอยู่ประจำเพื่อเพิ่มความแข็งแรงของภูมิคุ้มกัน แต่พิษอื่นๆ เช่นสารหนู หรือปรอท ถ้าร่างกายได้รับ และสะสมไว้มากๆ จะทำให้ถึงตายได้
Macbeth’s Witches’ Brew (หม้อต้มของแม่มดแห่ง Macbeth) อุดมไปด้วยพิษจริงๆ
Macbeth หนึ่งในนิยายที่เขียนโดย Shakespeare ได้กล่าวถึงส่วนผสมในหม้อต้มของแม่มด ได้แก่ ดวงตาตัวนิวท์ ลิ้นสุนัข และฟันของหมาป่า ซึ่งชื่อส่วนผสมพวกนี้คือชื่อเล่นที่ใช้เรียกพืชมีพิษ โดยชื่อ ฟันหมาป่า (Tooth of Wolf) เป็นชื่อเล่นของพืชที่ได้ฉายาว่า “ราชินีแห่งพิษ” นั่นคือต้น Monkshood ส่วนลิ้นสุนัข (Tongue of Dog) คือพืชที่ชื่อ houndstongue ที่มีสารก่อมะเร็งอยู่ด้วย โดยส่วนผสมพวกนี้จะถูกต้มรวมกับพืชมีพิษชนิดต่างๆ ทำให้ได้ยาพิษที่กระตุ้นความต้องการทางเพศ มีพิษต่อระบบประสาท ทำให้ชาหรือสลบ และทำให้จิตหลอน เป็นต้น การทานยาจากหม้อต้มนี้อาจทำให้ตายได้ และการดมไอระเหยก็จะทำให้รู้สึกงงงวยได้เช่นกัน ไม่แน่ใจว่าแม่มดที่ต้มยาอยู่นั้น จริงๆ แล้วพวกเธอทำไปด้วยความมีสติจริงรึเปล่า
อาวุธเคมี เก่าแก่กว่าที่เราคิด
มนุษย์ใช้พิษเพื่อทำเป็นอาวุธมานานกว่า 3,000 ปี โดยทหารโรมันผลิตอาวุธเคมีด้วยการใส่งูพิษ หรือแมงป่องลงไปในหม้อดินเผา และโยนหม้อดินเผาให้แตกใส่ฐานทัพของข้าศึก
ที่มา popsci
โพสท์โดย: I sea u