5 ข้อที่ควรทำเพื่อที่จะหางานแรกหลังเรียนจบ
โพสท์โดย wristy
Guide นี้อาจจะเหมาะสำหรับนักศึกษาช่วงที่กำลังลังเลว่าจะเอายังไงกับชีวิตอยู่นะครับ แต่สำหรับคนที่เริ่มทำงานแล้วกำลังคิดจะเปลี่ยนงาน หรือกำลังเรียนต่อระดับปริญญาโทอยู่ ผมเชื่อว่าก็สามารถช่วยได้ครับ
ทำความเข้าใจตัวเองให้ดีก่อน
รู้สิ่งที่ตัวเองชอบ ไม่ชอบ จุดอ่อน จุดแข็ง สิ่งที่มี สิ่งที่ขาด ก่อน ถ้าเรายังไม่รู้ตัวเอง การที่จะนำเสนอตัวเองให้บริษัทเลือกเราไปทำงานจะเป็นเรื่องยากมาก หากรู้ถึงจุดแข็ง เราจะนำจุดแข็งนั้นไปช่วยทำงานให้องค์กรอย่างไร หากรู้ถึงจุดอ่อน เราจะปรับปรุงจุดอ่อนนั้นอย่างไร เราจะพัฒนาตัวเองอย่างไร เราควรจะต้องทำอะไร ถ้ายังไม่รู้ตัวเอง เรียน ๆ ไปตามที่มีให้เรียน หางานทำไปตามที่เขาทำกัน สิ่งที่คุณจะพบคือความทรมานแสนสาหัสที่ชีวิตไม่ได้เป็นอย่างฝันเวลาเริ่มงานแรก แล้วสุดท้ายก็ลาออกแบบงง ๆ ไม่ได้อะไรจากงานแรก
ตั้งเป้าบริษัทหรือประเภทงานที่อยากทำตั้งแต่ก่อนขึ้นปีสุดท้ายของการศึกษา
ปีสุดท้ายอย่าเรียนอย่างเดียว มันคือเวลาที่เราควรเตรียมพร้อมก่อนโดนถีบออกไปเจอโลกความเป็นจริง ควรใช้เวลาปีสุดท้ายของการศึกษาสร้างผลงานที่เกี่ยวข้องกับบริษัทหรืออุตสาหกรรมที่อยากเข้าไปทำ เช่น ถ้าอยากเข้าไปทำวิเคราะห์หลักทรัพย์ ก็ควรจะเข้าแข่งการวิเคราะห์หลักทรัพย์หรือเข้ารับการอบรมต่างๆที่เกี่ยวข้อง จะช่วยทำให้ประวัติเราโดดเด่นดูน่าสนใจในสายตาของบริษัทที่อยากจะรับเรา ถ้าอยากเข้าไปทำงานบริษัทออกแบบ ก็ควรไปหาทำงาน Part-time หรือ ประกวดงานแข่งขันที่เกี่ยวข้อง ถ้าอยากทำงาน Microsoft อาจจะไปเข้าร่วมหลักสูตรอบรมหรือการแข่งขันที่เกี่ยวข้องกับ Microsoft โดยตรงก็ทำให้ประวัติเราดูดีไม่น้อยทีเดียว เพราะเราเป็นคนมี “ประสบการณ์” และ “ผลงาน” ไม่ได้ไม่มีความรู้ที่เกี่ยวข้องกับบริษัทแต่อย่างใด หรือถ้าคนที่จะลาออกจากงานเก่าแล้วย้ายไปที่อื่น ต้องดูว่าความรู้ที่มีในมือเรา มันเหมาะกับบริษัทที่จะย้ายไปไหม หรือเราควรจะไปเรียนรู้อะไรก่อนไหม
มองหาองค์กรที่คิดว่าเหมาะกับตัวเอง อย่าเน้นเพียงแค่เงินเดือนและชื่อเสียง
ชีวิตคนเราไม่เหมือนกัน นิสัยไม่เหมือนกัน เติบโตมาไม่เหมือนกัน ความพร้อมที่จะเจออะไรต่างๆในงานแรกก็ไม่เหมือนกัน อย่าตั้งเป้าที่จะทำงานที่บริษัทที่ “เขาว่าดี” แต่ตั้งเป้าบริษัทที่เรา “คิดว่าดี” การขอคำปรึกษาจากผู้อาวุโส หรือเพื่อน เป็นสิ่งที่ควรทำ แต่อย่าให้มันมาครอบงำความคิดเรา เพราะคำว่าดีของเขา อาจจะไม่เหมาะกับ Lifestyle เราก็เป็นได้ เช่น หากเราเป็นคนเกลียดระบบ Seniority สูง ๆ บริษัทแนวเอเชีย อาจจะไม่ใช่คำตอบของคุณ หรือเป็นพวกไม่อยากเครียดหรือโดน Push ตลอดเวลา บริษัทข้ามชาติ ก็อาจจะไม่ใช่คำตอบของคุณ แต่ที่สำคัญควรเลือกบริษัทที่เราสามารถมองว่าจะไปต่อยังไงในระยะยาวในอนาคตไว้ด้วยก็ดี
สมัครให้เยอะ แต่หวังให้น้อย และเป็นตัวของตัวเอง
อย่าฝันว่าฉันจะเข้าบริษัทยักษ์ใหญ่ หน้าที่ดี เงินเดือนสูง อย่างเดียว ถ้าเราหวังไว้สูงมากเวลาเจอ Feedback ตรงๆจากทาง HR แล้วเราอาจจะรู้สึกท้อได้ (โดยเฉพาะเด็ก Gen Y) ดังนั้นสมัครไว้หลาย ๆ ที่ ที่เราอยากทำ ทำให้ดีที่สุด แต่อย่าหวังว่าทุกที่จะต้อนรับคุณ เวลาสัมภาษณ์ เวลาเจอคำถามเราจะสามารถตอบได้อย่างที่เราคิด และมั่นใจ ต่อให้เรา HR ไม่ชอบคำตอบเรา แต่ถ้ากลั่นกรองมาจากความคิดเราเองดีแล้ว ก็คิดเสียว่าองค์กรหรืองานนั้น ๆ ไม่เหมาะกับเรา แต่แน่นอน ต้องตอบแบบฉลาดด้วย ไม่ใช่แค่ตรง ๆ อย่างเดียว บางทีคุณไม่ได้ผิด แต่คุณแค่ไม่เหมาะกับตำแหน่งนั้นจริงๆ (ไม่ได้เป็นแค่ข้อแก้ตัวของ HR แต่อย่างใด) องค์กรไม่ได้จำเป็นต้องเลือกคนที่เก่งที่สุด แต่เลือกคนที่เหมาะกับเขาที่สุดต่างหาก
ถ้าไม่รีบให้เวลาตัวเองตัดสินใจเลือกที่ ๆ เราถูกใจที่สุด การเข้าไปทดลองแล้วลาออกบ่อย ๆ ไม่ใช่เรื่องดี
ข้อนี้เป็นสิ่งที่ผมลองสังเกตคนจบใหม่ ๆ หลายคน เหมือนไม่อยากให้ตัวเองว่าง สมัครงานไปเยอะ ๆ ที่ไหนรับ เงินเดือนดี ก็เข้าไปทำก่อน ไม่พอใจก็ค่อยลาออก หรือรีบ ๆ เข้าทำงาน เพราะเพื่อน ๆ ได้งานหมดแล้ว ตัวเองยังตกงานอยู่ กลัวจะเสียหน้าเพื่อน หรือโดนใครคนอื่นกดดันมา จะพี่น้องพ่อแม่ ญาติๆ ก็ตาม ใช้เวลาให้กับตัวเองตัดสินใจบริษัทที่เราจะเข้าไปทำ ไม่ใช่แค่บริษัทสามารถคัดเลือกเราได้ เราสามารถคัดเลือกบริษัทก็ได้เช่นกันการถามคนที่ทำงานอยู่ในนั้น เคยลาออกจากที่นั่น เป็นการถามที่ควรถามไว้บ้าง เพื่อเราจะเอามาใช้ตัดสินใจในการเลือกงานของเรา การเข้าไปทดลองก่อน แล้วลาออก ในเวลาแค่ 1-3 เดือนนั้น ถ้าไม่มีเหตุจำเป็นจริง ๆ แม้ว่าคุณไม่บอก แต่ถ้า HR สืบเจอ เค้าไม่อยากเอาคุณแน่ ๆ คำถามในหัวเขา (หรืออาจจะถามทดสอบคุณเลย) คือ “แล้วจะรู้ได้ไงว่าคุณออกจากที่เก่า มาหาเราแล้วคุณจะไม่ออกภายในไม่กี่เดือนอีก” สุดท้ายเราก็เสียเวลากับการไม่ได้เรียนรู้หรือเก็บประสบการณ์อะไรจริงจังเลย มัวแต่วนเวียนหางานที่ตัวเองชอบเท่านั้น
สรุป
สุดท้ายนี้การวางแผนและรู้จักตัวเองก่อน ผมว่าสำคัญที่สุดในการที่จะเรื่มเข้าสู่วัยทำงานครับ บทความนี้ผมอาจจะจริงจังและเครียดไปหน่อย แต่สำหรับ FJSK แล้ว ผมจะมีเรื่องอะไรน่าสนใจมาแชร์กันอีกเรื่อย ๆ ครับ
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
16 VOTES (4/5 จาก 4 คน)
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
"ไบเดน" อนุมัติยูเครนใช้ขีปนาวุธมะกัน ถล่มรัสเซียอุ้ม พรรษวุฒิ ลูกชายคนสุดท้อง ของ สมบัติ เมทะนี เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง"ดราม่า Miss Universe 2024: โอปอล สุชาตา รองอันดับ 3 ได้เงินรางวัลแค่ 35,000 บาท!เศร้าสะเทือนวงการบันเทิงไทย: การจากไปของ ‘อุ้ม พรรษวุฒิ เมทะนี’ ลูกชายพระเอกตลอดกาล"หล่อเกินมนุษย์! นายแบบโพสต์รูป 'คุณพ่อ' เบ้าหน้าดี 10 ปีไม่เปลี่ยน ไวรัล 11 ล้านวิว"แม่ทีมดิไอค่อนปากแซ่บ ขู่ฟ้องกลับใครไม่ถอนฟ้อง พร้อมเย้ย กว่าตำรวจจะทำอะไร 2 ปีนู้นนกว่าจะได้เงินคำแถลงจากแม่ของลูก ก่อนกฤษอนงค์ ปิดเพจเรียกตัวคนขับรถเทสล่า มาสอบสวนแล้ว อ้างโมโหไวเกิ๊น! "ปิงปอง" คัฟเวอร์ "โอปอล สุชาตา"..บอกเก่งมาก ภูมิใจสุดๆอร่อยง่าย ๆ"ฝรั่งแช่บ๊วย"มะกันเสนอ ให้คนไม่พอใจผลการเลือกตั้ง ล่องเรือกลางทะเลนาน 4 ปีเต็ม"ฮาไม่ไหว! ปู่สุดหล่อสมัยหนุ่ม ไวรัลหลังหลานย้อมผมผิดสี หวิดโดนไล่จากบ้าน"Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
คำแถลงจากแม่ของลูก ก่อนกฤษอนงค์ ปิดเพจอร่อยง่าย ๆ"ฝรั่งแช่บ๊วย"มะกันเสนอ ให้คนไม่พอใจผลการเลือกตั้ง ล่องเรือกลางทะเลนาน 4 ปีเต็มเศร้าสะเทือนวงการบันเทิงไทย: การจากไปของ ‘อุ้ม พรรษวุฒิ เมทะนี’ ลูกชายพระเอกตลอดกาลสาวโพสต์ กินเสร็จเก็บจานไว้ใต้เตียง 2-3 วัน! แม่แฟนไม่พอใจ ชาวเน็ตถล่มยับ