NATO ไม่รอด! ถูกกองทัพรัสเซียถล่มศูนย์การตัดสินใจทางสงคราม

.....ด้วยกองกำลังผสม NATO ในยูเครน มีความสูญเสียกำลังพล และอาวุธเทพมากมายมหาศาล จนไม่อาจมีศักยภาพยกทัพบุกเข้าตีดินแดนรัสเซียได้
       จึงต้องการยั่วยุให้กองทัพรัสเซีย เคลื่อนพลบุกดินแดนยูเครน ซึ่งตามหลักสงครามฝ่ายบุกถ้าไม่พร้อมพอจะสูญเสียมากกว่าฝ่ายตั้งรับเสมอ ซึ่งรัสเซียไม่หลงกล ใช้การรุกช้าแต่ชัวร์มาตลอด

กองกำลังผสมยังยั่วยุ โดยส่งโดรนใช้เครื่องยนต์น้ำมันสันดาปภายใน ปีกกว้าง 4 เมตร ระยะบิน 400 - 1,000 กม. ราคาแต่ละตัวราว 7 ล้านบาท จำนวน 8 ตัว พยายามบินไปยังกรุงมอสโก รัสเซีย
       กองทัพรัสเซีย รอจังหวะให้โดรนถึงพื้นที่ทุ่งโล่ง มีที่อยู่อาศัยน้อย แล้วใช้อาวุธอิเล็กทรอนิกส์ทำให้เสียการควบคุมเบี่ยงเบนทิศทาง แล้วใช้ระบบป้องกันภัยทางอากาศขนาดเล็ก Pansir-S สอยตกทั้งหมดในเขตชนบท

ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย สั่งการเฉียบขาดให้กลาโหมให้โจมตีศูนย์กลางการตัดสินใจ NATO ในยูเครน และทำลายผู้บัญชาการระดับสูงทิ้ง กองทัพรัสเซียรับคำสั่งทำการโจมตีด้วยขีปนาวุธระยะไกลที่มีความแม่นยำสูง

         ทำลายศูนย์การตัดสินใจสำนักงานใหญ่ของกองบัญชาการข่าวกรองหลัก (GUR) ของกองทัพยูเครน ในเมืองหลวงกรุงเคียฟ ที่เป็นสถานที่วางแผนการโจมตีก่อการร้ายต่อดินรัสเซียภายใต้การควบคุมสั่งการจากผู้เชี่ยวชาญทหารหน่วยข่าวกรอง NATO

หัวหน้าสำนักงานใหญ่ แห่งนี้คือนายพล Kirill Budanov ที่เคยมีชื่อว่าจะเป็นรัฐมนตรีกลาโหมยูเครน แทนคนปัจจุบัน มีที่ตั้งเป็นอาณาจักรใหญ่อยู่บนเกาะ Rybalsky ในกรุงเคียฟ มีสะพานเข้าออกทางเดียวรักษาความปลอดภัยแน่นหนา
       การโจมตีด้วยขีปนาวุธ พุ่งทะลุเข้าไประเบิดในชั้นบนของอาคารที่เป็นห้องบัญชาการรบของบรรดาหน่วยข่าวกรอง NATO และยูเครน ช่วงกลางคืนรัสเซีย ยังปล่อยโดรนแว้นมาโจมตีซ้ำเก็บรายละเอียดอีกครั้ง

ระบบป้องกันภัยทางอากาศเทพของ NATO ยิงจรวดขึ้นสกัด แต่พลาดทุกลูก พวกมันตกลงมาทั่วเหมือนฝนเหล็กลงบนถนน รถยนต์ แม่น้ำ เกิดการระเบิดอย่างรุนแรง ทำลายพลเมืองยูเครน ด้วยกันเองหลายราย

         กองทัพรัสเซีย ยังโจมตีทำลายเรือยกพลขึ้นบกขนาดกลาง Yuri Olefirenko ซึ่งเป็นเรือขนาดใหญ่ลำสุดท้ายของกองทัพเรือยูเครน ที่จอดลอยลำที่ท่าเรือทางทหารในเมืองท่าโอเดสซา

เรือลำนี้ยูเครนมีข้อตกลงกับทางรัสเซียว่าจะใช้เป็นเรือคุ้มกันเรือขนส่งธัญพืชออกสู่ทะเลน่านน้ำทะเลดำ แต่ยูเครนแอบติดตั้งเครื่องยิง Grad MLRS ไว้บนเรือ และนำไปยิงจากบริเวณปากแม่น้ำ Dnieper ใส่แคว้นเคอร์ซอน
       กองทัพรัสเซีย ตรวจพบว่าเรือลำนี้เข้าจอดที่ท่าเรือใกล้โอเดสซา เพื่อรับกระสุนขึ้นเรือ จึงถล่มเรือทิ้งซะเลย ผลคือทำให้เกิดไฟไหม้ที่ดาดฟ้าเรือ
และลุกลามไปยังที่เก็บคลังกระสุนในเรือเกิดการระเบิดขนาดใหญ่ ทหารหลายสิบนายเป็นอาหารปลา และเรือจมลง จบสิ้นเรือทางทหารลำสุดท้ายของยูเครน

นอกจากนี้ คลังเก็บขีปนาวุธต่อต้านเรือดำน้ำ , ขีปนาวุธ AGM 88 Harm , ระบบอาวุธต่อต้านเรือ Harpoon UGM-84 , ระบบจรวด HIMARS , รถหุ้มเกราะ 14 คัน , รถปิคอัพหุ้มเกราะ 34 คัน ที่เก็บไว้ในคลังอาวุธบริเวณท่าเรือได้ถูกถล่มทำลาย
       การสูญเสียของกองกองกำลังผสมจุดนี้มีมูลค่ามากกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์ (34,610 ล้านบาท) นอกจากนี้ยังโจมตีถล่มศูนย์ควบคุมสำหรับการปฏิบัติการทางทะเลพิเศษซึ่งมีทหารกองกำลังผสมรวมกัน 98 นาย

เป็นปุ๋ย 36 นาย ในจำนวนนี้เป็นทหารหน่วยข่าวกรอง Mi-6 อังกฤษรวม 22 ราย , ทหาร BND เยอรมัน 8 ราย , กลาโหมสหรัฐ 4 ราย และทหารอากาศฝรั่งเศส 2 ราย ส่วนผู้บาดเจ็บวิกฤติถูกอพยพอย่างเร่งด่วนไปยังโรงพยาบาลในยุโรป

        วิเคราะห์ว่า..ทหารระดับสูงหน่วยข่าวกรองของ NATO ที่อยู่ในอาคารสำนักงานใหญ่ของกองบัญชาการข่าวกรองหลัก (GUR) ของกองทัพยูเครน น่าจะกลับบ้านเก่าในถุงซิปดำหลายนาย

         ระบบอุปกรณ์สื่อสารขั้นสูงถูกทำลาย จะทำให้ระบบสั่งการก่อการร้ายต้องชะงักงันไปสักระยะ ประจวบกับผู้บัญชาการทหารสูงสุดยูเครน บาดเจ็บสาหัสนอนเป็นผัก จะยิ่งทำให้ศูนย์กลางตัดสินใจมีความอลเวง

         สิ่งที่ฝ่ายกองกำลังผสมจะทำได้จะไม่สามารถบุกในแนวหน้าภาคใต้ได้ เพราะกองทัพรัสเซียแกร่งเกินไป แต่จะทำได้เพียงลอบก่อการร้ายโจมตี ที่พักศูนย์ผู้อพยพชาวยูเครน ที่ทำเป็นแนวกันชนชายแดนแคว้นเบลโกรอดรัสเซียได้บ้างเท่านั้น

          ล่าสุดกองทัพรัสเซีย ยิงขีปนาวุธมาจากเรือในทะเล โจมตีเป้าหมายทางทหารในแคว้นคาร์คิฟ ติดแคว้นเบลโกรอด เกิดการระเบิดดังสนั่นหลายครั้งอย่างรุนแรง
        การแหย่รัสเซียแต่ละครั้งได้ไม่คุ้มเสีย เพราะจะเจอขีปนาวุธยักษ์ส่งมาเอาคืนเผาผลาญทำลายทุกสิ่งแน่นอน 🚀🤭😂

World Update
1/มิ.ย./2566