ในแต่ละเป็น มีคู่รักที่ลงเอยกันด้วยการแต่งงานกี่คู่นะ

น่าอิจฉาจัง !!

และคู่รักดาราคู่นี้ก็เหมือนกัน

น่ารักสุด ๆ

11 ปี ‘ณเดชน์-ญาญ่า’ จากวันนั้นถึงวันนี้

“ณเดชน์” กับ “ญาญ่า อุรัสยา” มาออกรายการ On That Day ทางช่อง The Standard Pop

เล่าเรื่องราวความสัมพันธ์ตั้งแต่วันแรกที่เจอกันจนถึงปัจจุบัน

ทั้งคู่เจอกันครั้งแรกเมื่อปี 2553 ตอนนั้นช่อง 3 จะสร้างซีรีส์ “4 หัวใจแห่งขุนเขา”

เพื่อฉลองครบรอบ 40 ปี โดยซีรีส์นี้มี 4 เรื่อง คือ ธาราหิมาลัย, ดวงใจอัคนี, ปฐพีเล่ห์รัก และวายุภัคมนตรา

เลยจัดแคสติ้งดาราทั้งหน้าใหม่หน้าเก่า

เช่น บอย ปกรณ์, หมาก ปริญ, มาร์กี้, คิมเบอร์ลี, มิ้นต์ ชาลิดา รวมทั้งณเดชน์กับญาญ่า

วันแคสติ้งพอณเดชน์มาถึงก็ตรงไปนั่งกับหนุ่ม ๆ พอมองไปอีกฝั่งก็เห็นกลุ่มสาว ๆ ที่มีญาญ่ารวมอยู่ด้วย

ในการแคสต์จะให้ดาราจับคู่แสดงแล้วเปลี่ยนคู่ไปเรื่อย ๆ เพื่อดูเคมีและความหลากหลาย

แต่ญาญ่าได้เล่นคู่กับณเดชน์คนเดียว ไม่ได้สลับไปเล่นกับคนอื่นเลย

วันนั้นณเดชน์มองญาญ่าแล้วก็คิดว่าน้องคนนี้ยังเด็กจัง (ตอนนั้นณเดชน์อายุ 18 ย่าง 19 ญาญ่าอายุ 17)

ส่วนญาญ่ารู้สึกว่าเล่นกับคนนี้แล้วจังหวะเข้ากันมาก ๆ

ไม่มีใครคิดอะไรนอกเหนือไปกว่านั้น เพราะต่างก็ตื่นเต้นกับการแคสต์งาน

หลังจากนั้นทั้งคู่แคสต์ผ่านและได้เล่นคู่กันในเรื่อง “ดวงใจอัคนี”

ญาญ่าเล่าว่าตอนอยู่ในกองณเดชน์เงียบมาก ถามคำตอบคำ

แล้วหนุ่ม ๆ ในกอง คือ อั้ม อธิชาติ, บอย และหมาก

ยังมารุมแซวญาญ่าอีกว่ามีคนแอบชอบ (หมายถึงณเดชน์)

ตอนนั้นญาญ่ารู้สึกไม่ชอบบรรยากาศแบบนั้นและไม่เข้าใจว่ามันคืออะไรจนถึงกับร้องไห้

ส่วนณเดชน์บอกว่าเขาน่าจะทำตัวไม่ถูกเลยเงียบ

แต่ก็มีแอบไปปรึกษาเพื่อน ๆ ในกองบ้าง เป็นสาเหตุให้ญาญ่าโดนพี่ ๆ แซว

(ตรงนี้แอดเสริมเองค่ะ… ตอนนั้น “แหม่ม ธิติมา” ผู้จัดละคร ‘ดวงใจอัคนี’

เล่าว่า เวลาในกองไม่มีญาญ่า ณเดชน์จะออกลิงออกค่างเต็มที่

แต่พอญาญ่ามาจะเกร็งและทำฟอร์ม แล้วคนในกองเชียร์คู่นี้หนักมาก

เวลาโดนแซวณเดชน์จะไปไม่เป็นเลย)

หลังละครออนแอร์ก็เกิดปรากฏการณ์คู่จิ้น ‘ณเดชน์-ญาญ่า’ ขึ้นทั่วประเทศ

ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วมากเหมือนการเปลี่ยนแปลงชั่วข้ามคืน

มีงานคู่หลั่งไหลเข้ามามากมาย ทำให้ต้องไปอีเวนต์ด้วยกันและต้องเจอกันเกือบทุกวัน

ทำให้สนิทสนมกันยิ่งขึ้น

ช่วงนั้นทั้งคู่เหนื่อยมากจนบางครั้งก็รู้สึกท้อ

แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้ญาญ่ารู้สึกว่าอยากไปทำงานก็คือไปแล้วได้เจอณเดชน์ ณเดชน์ก็เช่นกัน

เวลาขึ้นรถตู้จะรู้สึกว่าต้องนั่งข้างญาญ่าให้ได้ แค่ได้นั่งใกล้กันก็มีความสุข

แชร์หูฟังฟังเพลงด้วยกัน อยากบอกอะไรญาญ่าก็เลือกเพลย์ลิสต์ที่แทนความรู้สึก

ปีต่อมาทั้งคู่มีละครเล่นคู่กันเป็นเรื่องที่ 2 คือ “เกมร้ายเกมรัก” (2554)

นั่นเป็นตอนที่ความรู้สึกของพวกเขาชัดเจนขึ้น

บรรยากาศในการถ่ายทำเลยเต็มไปด้วยการหยอกล้อเล่นกัน

ดูแลกัน คอยไถ่ถามความรู้สึก

เนื่องจากเรื่องนี้บทยาก ทั้งคู่จึงช่วยซัพพอร์ตกันและกัน

สำหรับนักแสดงบางคนเมื่อเจอบทยากจะเลือกถอยออกมาเพื่อให้อีกคนได้อยู่กับตัวเอง

แต่ณเดชน์กับญาญ่าเลือกที่จะจับมือทำงานไปด้วยกัน ช่วยรับส่งและบิลด์อารมณ์ให้กัน

แล้วละครเรื่องนี้ก็ประสบความสำเร็จมาก ๆ ตอนนั้นใคร ๆ ก็พูดถึง “นางฟ้า” กับ “สายชล”

หลังจากนั้นทั้งสองคนมีละครคู่กันอีกเรื่องคือ “ธรณีนี่นี้ใครครอง” (2555)

ทั้งคู่ปล่อยให้ความสัมพันธ์พัฒนาไปอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่เคยขอเป็นแฟนกัน

ผ่านไปหลายปีจึงมานั่งถามกันเองว่า “นี่เราจะนับว่าเราคบกันตั้งแต่ตอนไหนดี”

และสรุปตรงกันว่า “นับตั้งแต่ตอนที่เล่นเรื่องนี้ก็แล้วกัน”

(หลายคนคงจำได้ว่าในปี 2559 เราเห็นณเดชน์ใส่เสื้อยืดสีขาวที่ญาญ่า

ปักข้อความให้ด้านหลังตรงริมชายเสื้อว่า Urassaya’s Since 2011 ประมาณว่าเป็นของอุรัสยาตั้งแต่ปี 2554 นะ)

ญาญ่าบอกว่าหัวใจของความสัมพันธ์คือการสื่อสารพูดคุย (communication)

ราว ๆ 4-5 ปีที่แล้วการสื่อสารของทั้งคู่ไม่ค่อยดีและหาจุดตรงกลางไม่ได้

เพราะญาญ่าเป็นฝ่ายพูดอยู่คนเดียว ส่วนณเดชน์มีอะไรจะไม่พูด

ญาญ่าต้องคอยกระตุ้นให้พูดออกมา

แต่การสื่อสารของทั้งคู่ดีขึ้นในทุก ๆ ปีที่เติบโตไปด้วยกัน

ณเดชน์เองก็พยายามปรับเปลี่ยน ญาญ่าบอกว่าพอการสื่อสารดีชีวิตรักก็เปลี่ยนเลย

ทุกอย่างดีมาก ตอนนี้พวกเขาคุยกันได้ทุกเรื่องและมีความประนีประนอมในการพูดคุย

ญาญ่าบอกว่าตอนนี้ณเดชน์เหมือนโดนปลดล็อก

กลายเป็นคนที่พูดไม่หยุด ส่วนณเดชน์ก็บอกว่าเขาอยากมีใครสักคนที่บ่นทุกเรื่องให้ฟังได้

และญาญ่าคือคนนั้น แต่ญาญ่าไม่ได้เออออตามเขาทุกเรื่อง

เธอจะคอยเสนอแนะว่าทำไมไม่ลองคิดอย่างนี้หรือทำอย่างนั้นล่ะ