เปิดไทม์ไลน์ นักเตะบุรีรัมย์ยูไนเต็ดชาวอุซเบกิสถาน ติดเชื้อโควิด-19

อัคบาร์อิสมาตุลลาเยฟ กองกลางชาวอุซเบกิสถาน ของ บุรีรัมย์ยูไนเต็ด ถูกตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด -19

- ก่อนหน้านี้ 13 - 27 ส.ค. เขาได้กักตัวและตรวจเชื้อโควิด-19 ถึง 2 ครั้ง แต่ก็ไม่พบเชื้อ ทำให้เดินทางมาร่วมฝึกซ้อมกับ บุรีรัมย์ ได้

- 8 ก.ย. ทำการตรวจหาเชื้อโควิด-19 อีกครั้งก่อนไทยลีกกลับมาลงสนาม

- 10 ก.ย. เดินทางมาเข้าแคมป์ที่ อ. บางบ่อ จ.สมุทรปราการ เพื่อเล่นเกมไทยลีกกับ บีจี ในวันอาทิตย์นี้

- 11 ก.ย. ตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด-19

รอแถลงยืนยันอย่างเป็นทางการอีกครั้ง

ส่องดูประวัติ อัคบาร์ อิสมาตุลลาเยฟ (Akbar Ismatullaev )

~ เกิดเมื่อวันที่ 10 Jan’1991 ปัจจุบันอายุ 29 ปี
~ เกิดที่เมืองทาชเคนท์ ซึ่งเป็นเมืองหลวงของอุซเบกิสถาน
~ ความสูง 5 ฟุต 11 นิ้ว หรือ 180 ซม.
~ ตำแหน่งที่เค้าเล่น คือ เป็น Defensive Midfilder คือ กองกลางตัวรับที่ยืนอยู่หน้าเซนเตอร์ฮาล์ฟ ตำแหน่งอื่นๆ ที่เคยเล่น ก็มี เซนเตอร์ฮาล์ฟ และ แบ็คขวา

<< ระดับสโมสร >>
1️ Pakhtakor ( ปาสตากอร์ )
~ เริ่มเทิร์นโปรกับทีมยักษ์ใหญ่ ของประเทศอุซเบกิสถาน ตั้งแต่ปี 2009 ซึ่งตอนนั้นเค้าอายุ 18 ปี แต่เพิ่งได้มาลงเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ในปี 2010
~ เค้าเล่นอยู่กับปาสตากอร์ทั้งหมด 9 ปี 2009-2017 ลงเล่นไป 164 นัด ยิงได้แค่ประตูเดียว
~ คว้าแชมป์ Uzbek League 3 ครั้ง ในปี 2012, 2014 และ 2015
~ คว้าแชมป์ Uzbek Cup 1 ครั้ง ปี 2011
2️ Metallurg Bekabad (เมตาลุส เบคาบัด)
~ ย้ายร่วมทีม “เมตาลุส เบคาบัด ในปี 2018 ด้วยค่าตัว 300,000 ยูโร
~ ลงเล่น 48 นัด ยังทำประตูไม่ได้
~ ที่นี่ No ถ้วยรางวัล
3️ Buriram United
~ ย้ายมาร่วมทีมโดยไม่ได้เปิดเผยค่าตัว

เกียรติประวัติ
<< ระดับทีมชาติ อุซเบกิสถาน >>
~ โปรไฟล์ไม่ค่อยหวือหวาเท่าไร เพราะลงเล่นไปแค่ 5 เกมส์เท่านั้น โดยทั้ง 5 เกมส์ เป็นเกมส์นัดอุ่นเครื่องทั้งหมด และเค้าทำประตูไม่ได้เลย
~ ติดทีมชาติครั้งแรก นัดบุกไปเยือนทีมชาติคูเวต วันที่ 17 มกราคม ปี 2012 ตอนนั้นเค้าอายุ 21 ปี วันนั้นเค้าได้ลงเล่นจนจบเกมส์ แต่เล่นในตำแหน่งแบ็คขวา ผลคือ แพ้ทีมอาหรับ 0-1
~ การติดทีมชาติของเค้าใน 4 นัดแรก เกิดขึ้นในปี 2012 ก่อนที่เมื่อต้นปี 2020 จะถูกเรียกติดอีกครั้งในนัดบุกไปอุ่นเครื่องกับเบราลุส และก็แพ้ 0-1 เช่นกัน โดย”อัคบาร์” ได้ลงแค่ 59 นาที

ข้อมูลจาก : Mr.ลูกหนัง AEC

นับว่าเป็นสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วง หากว่าคนในทีมจะติดเชื้อไปด้วย ต้องรอดูข่าวฟังผลกันต่อไปค่ะ