ลอยโคมเชียงใหม่ เมื่อคนแปลกหน้าจากหลายที่ทั่วโลกมาเจอกัน
เคยมั้ยที่รู้สึกรักผู้คนโดยไม่มีเงื่อนไข เคยมั้ยที่รู้สึกดีใจจนน้ำตาไหลที่ได้มีโอกาสทำอะไรซักอย่าง เคยมั้ยที่รู้สึกขอบคุณคนแปลกหน้าจนล้นใจ แม้จะร่วมใช้เวลาด้วยกันแค่สั้นๆในช่วงเวลาหนึ่งของชีวิต คำถามเหล่านี้คือความรู้สึกของผมที่มีต่อทริปนี้ครับ “เทศกาลลอยโคม ณ เชียงใหม่” หรืออีกอย่างหนึ่งก็คือเทศกาลลอยกระทงของไทยเรานั่นเอง แต่ที่เชียงใหม่จะมีเทศกาลลอยโคมด้วย ซึ่งแน่นอนว่าเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกครับ เพราะเป็นภาพบรรยากาศที่สวยงามมากจริงๆ เป็นเทศกาลที่สวยสุดๆสำหรับผมเลยก็ว่าได้ ที่ผ่านมาเคยเห็นแค่เทศกาลลอยกระทงทั่วไป ได้ลอยกับเค้าบ้างเป็นบางครั้ง ตามความสะดวก ณ เวลานั้นๆ แต่ครั้งนี้ต่างออกไปครับ ผมตั้งใจไปเที่ยวงานเทศกาลนี้โดยเฉพาะ ผมอยากเห็นด้วยตาของตัวเอง อยากสัมผัสบรรยากาศ อย่างจดจำภาพเหล่านั้นด้วยตัวเอง นั่นคือความตั้งใจของผม ก่อนหน้านี้ผมเคยแชร์ประสบการณ์การเที่ยวงานเทศกาลประจำปีของกาญจนบุรีไว้ด้วย แต่มันเป็นการผ่านไปโดยบังเอิญครับ คราวนี้มาดูกันดีกว่าว่าสิ่งที่ผมเจอจริงๆนั้นเป็นยังไงบ้าง จากทริปนี้ของผม
นี่คือทริปแรกที่ตั้งใจไปเที่ยวงานเทศกาล!
อย่างที่เกริ่นไว้ครับ ทริปนี้เป็นงานเทศกาลแรกของผมที่หมายมั่นปั้นมือว่าจะต้องไปเที่ยวซักครั้งในชีวิต ซึ่งก็คุ้มค่าสุดๆจริงๆครับ เป็นความประทับใจที่ไม่รู้ลืมจริงๆ ถึงผมจะพลาดจุดที่เค้ามีงานลอยโคมที่สวยที่สุดก็เถอะ ซึ่งก็คือที่แม่โจ้ครับ ที่ผมพลาดเพราะมันต้องมีการจองออนไลน์ล่วงหน้าก่อน ซึ่งใครที่ไม่อยากพลาดผมแนะนำให้หาข้อมูลแล้วจัดการจองออนไลน์ไว้ก่อนนะครับ พอไปเที่ยวจริงจะได้เจอกับโคมไฟเต็มท้องฟ้าเหมือนในวิดิโอ ในเว็บ ในสื่อต่างๆที่เราเห็นกัน จริงๆมีไม่กี่คนหรอกครับที่พลาด เพื่อนๆที่เที่ยวด้วยกันในทริปนี้เค้าหาข้อมูลมาอย่างดีมาก คนที่เค้าได้ไปที่แม่โจ้ก็ได้ภาพสวยๆมาอวดเพื่อนๆในกลุ่มกันไปตามระเบียบ ส่วนพวกที่ไม่ได้จองก็เที่ยวในเมืองเชียงใหม่แทนครับ แม่น้ำปิง สะพานเหล็กก็สวยไม่แพ้กันนะเออ โดยเฉพาะกับการได้เดินเที่ยวกับคนแปลกหน้าที่เพิ่งเจอกันไม่กี่ชั่วโมง(มันใช่เหรอ)
จริงๆตัวผมเองยังไม่เคยตั้งใจไปเที่ยวตามเทศกาลต่างๆ ถึงกับเจาะจงวันเวลาขนาดนี้เลยซักครั้งหรอกครับ มันเป็นความตั้งใจสุดๆแล้วหล่ะ สำหรับทริปงานลอยโคมครั้งนี้ เรียกได้ว่าเป็นงานที่ต้องไปซักครั้งในชีวิตจริงๆ ดูยิ่งใหญ่ดีมั้ยล่ะ ซึ่งจริงๆผมก็รู้สึกแบบนั้นนะ ถึงจะเหนื่อยไปหน่อยก็เถอะ เพราะผมดันเลือกเดินทางด้วยรถไฟที่ต้องใช้เวลาเดินทางทั้งคืนกว่าจะถึง นั่งหลังขดหลังแข็งกันไปตามระเบียบ แต่ก็สนุกดีครับ ได้เจอเพื่อนร่วมทาง ได้พูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์กัน นี่แหละครับเสน่ห์ของการเดินทางด้วยรถไฟที่ผมติดใจ แต่เลือกเฉพาะแค่บางทริปนะครับ ถ้าสังขารไม่ไหวผมก็เลือกอย่างอื่นที่สบายกว่าแทน ผมก็ไม่ได้ถึกอ่ะไรขนาดนั้น ออ เผื่อใครอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเดินทางไปเชียงใหม่ผมก็เขียนไว้บนเว็บแล้วนะครับ คลิกตามได้เลย
ทริปนี้เกิดขึ้นได้ยังไง?
ทริปนี้ต้องขอบคุณเว็บไซต์ couchsurfing.com ที่ใช้เป็นสื่อกลางและสาวไทยคนนึงครับ ที่ช่วยเป็นคนกลางจัดการติดต่อพวกเราเหล่าคนแปลกหน้าเข้าด้วยกัน ใช่ครับ couchsurfing.com คือเว็บหาที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวและคนทั่วไปนั่นแหละ เว็บเดียวกัน พวกเราใช้งานในส่วนของ Event เพื่อสร้างหัวข้อและก็เข้าร่วมงาน โดยตั้งหัวข้อเกี่ยวกับการเที่ยวงานลอยโคมที่เชียงใหม่ แล้วคนที่ใช้งานเว็บไซต์ก็เข้าร่วม Event ที่ถูกสร้างขึ้น เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์มากมายเลยสำหรับการท่องเที่ยว ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวทั่วโลกใช้กันครับ ซึ่งตัวผมเองก็ใช้ด้วยเหมือนกัน ผมจะเน้นเข้าร่วมเฉพาะ Event มากกว่า ยังไม่เคยหาที่นอน หรือขอพักค้างคืนบ้านใครเลย ถ้ามีโอกาสคงได้ลองกะเค้ามั่ง เอาเป็นว่าทริปนี้ต้องขอบคุณเว็บไซต์นี้จริงๆครับ เป็นสื่อกลางที่ยอดเยี่ยมมากจริงๆ และอีกอย่างที่ขาดไม่ได้เลยคือคนที่ช่วยเป็น Organizer ให้พวกเราเหล่าคนแปลกหน้าทั้งหลาย ยอมรับเลยว่าน้องเค้าสุดยอดมาก ไม่งั้นคงวุ่นวายน่าดู ไม่ต่างจากจับปูใส่กระด้งหรอก ซึ่งจริงๆมันก็วุ่นวายแหละครับ ก็คน 40 กว่าคนมารวมกลุ่มเที่ยวด้วยกัน ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่ละคนก็มาจากต่างที่ ต่างภาษา ต่างวัฒนธรรม ไม่วุ่นวายก็คงแปลกสุดๆไปเลยหล่ะ แต่พวกเราก็สนุกไปกับทริปนี้สุดๆครับ งานลอยโคมทริปนี้ไม่มีกร่อย แถมกลายเป็นความทรงจำที่สุดยอดไปเลย ออ เกือบลืมไป พวกเราใช้ WhatsApp ในการติดต่อเป็นหลักนะครับ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมผมรู้ว่าในกลุ่มพวกเราที่เที่ยวด้วยกันมีกัน 40 กว่าคน อย่าถามนะว่าจำได้ทั้งหมดมั้ย จำชื่อกันได้ไม่หมดหรอกครับ แต่จำหน้ากันได้(สำหรับคนที่ได้คุยกัน เพราะหลายๆคนก็แยกย้ายไปเที่ยวตามความต้องการของเค้า ซึ่งเป็นข้อดีอย่างหนึ่งของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ใครอยากไปไหนก็ไป ใครอยากแจมก็แจม)
แต่ละคนเจอกันได้ยังไง? มาจากที่ไหนกันบ้าง?
ทริปนี้หลากหลายมากครับ สำหรับงานลอยโคมที่เชียงใหม่นี้ โอเคว่าหลายๆคนรู้จักเทศกาลลอยกระทงครับ แต่ในทริปนี้พวกเราแทบจะไม่มีใครพูดถึงเลย เพราะพวกเรารู้จักเทศกาลลอยโคมมากกว่า และพวกเราส่วนใหญ่มาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ(รึเปล่านะ) บางทีผมเองก็ละอายใจนะ ที่สาวโบลิเวียรู้ว่าต้องจองตั๋วออนไลน์สำหรับเข้างานที่แม่โจ้ แต่ตัวผมเป็นคนไทยแท้ๆแต่กลับไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับงานเลย แค่ไปถึงก็ช้ากว่าเพื่อนแล้ว ยังไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรกับเค้าอีก จริงๆก็สำนึกอยู่แหละ แค่ไม่แสดงออกเฉยๆ เก็บไว้ในใจก็พอ เอาเป็นว่ามาเล่าเกี่ยวกับเหล่าคนแปลกหน้าที่มาตะลอนเที่ยวงานลอยโคมด้วยกันดีกว่า
คนที่เที่ยวด้วยกันก็มาจากหลากหลายสถานที่ หลากหลายช่วงเวลานะครับ(หมายถึงบางคนอาจจะอยู่มาอาทิตย์นึง บางคนสองสามวัน บางคนเพิ่งมาถึง อะไรแบบนั้น) เรียกว่ามีทั้งคนที่อยู่เชียงใหม่มาซักพัก เพิ่งมาถึง และกำลังเดินทางมาถึง มีหลายกลุ่มเลยครับ เรียกว่าทยอยกันมาน่าจะตรงกว่า คนแรกที่ผมจำได้คือราเชลครับ สาวฟิลิปปินส์ที่ทำงานอยู่ในกรุงเทพ สาวเฟี้ยวที่ตะลุยเที่ยวไปทั่ว ส่วนคนที่จำแม่นเลยคือ Organizer สุดแกร่งของเรา คุณปราณี อันนี้จำแม่น สาวออฟฟีสทั่วไปที่ชอบท่องเที่ยวเหมือนกัน อันนี้เจอกันที่เชียงใหม่ครับ มีกลุ่มสามสาวจากฝรั่งเศส อันนี้ผมจำชื่อไม่ได้ แครี่ สาวแกร่งจากเยอรมนี กับนิค หนุ่มแคนาดา อันนี้จำได้เพราะเราเที่ยวต่อด้วยกันหลังจากจบงานเทศกาลลอยโคมครับ วีโต้ อีกหนึ่งหนุ่มนักท่องเที่ยวจากฝรั่งเศส เบิร์ทกับเบรช คู่รักจากเบลเยี่ยมที่ตะลอนเที่ยวรอบโลก(Birthe & Brecht ชื่ออ่านยากมาก เค้าบอกหลายรอบล่ะแต่ผมก็ออกเสียงไม่ถูกซักที) แวน หนุ่มสวิสสุดเป็นมิตรคนนึง เฮฮามากๆ พ่อหนุ่มคนนี้ อีกคนคือแพททริค แล้วก็ซาช่า หนุ่มดัช สาวโบลิเวียชื่อนาตาลี กับฮวนคารอส หนุ่มจากเปรู อันนี้จำแม่น เพราะเจอกันยาวๆที่เชียงใหม่และกรุงเทพอีก ส่วนหลายๆคนผมก็จำชื่อได้บ้าง จำหน้าได้บ้างแต่ลืมชื่อ ปนๆกันไปเยอะเลย อันนี้ต้องขออภัยพวกเค้าที่ยังคงเป็นเพื่อนกันในโซเชียลอย่าง Facebook แต่ดันลืมชื่อกันซะงั้น เวลาจะทักใครแต่ผมจำชื่อไม่ได้ผมก็จะ Hey bro! แล้วก็คุยกัน บลา บลา บลา เนียนๆเข้าไว้ เป็นไงล่ะทักษะการเอาตัวรอดของผม ไม่ดีนะครับ อย่าเลียนแบบจะดีกว่า เดี๋ยวเพื่อนที่อุส่าร่วมทริปลุยๆด้วยกันเค้าจะเสียใจเอา แล้วท่านผู้อ่านมีใครเคยมีประสบการณ์แบบผมรึเปล่าเอ่ย ถ้ามีก็เล่าให้ผมฟังในกล่องคอมเม้นต์ด้านล่างได้นะครับ รออ่านอยู่ หวังลึกๆว่าคงไม่ได้มีผมคนเดียวที่ทำแบบนั้น
งานเทศกาลจบแต่ทริปยังไม่จบ?
สองคืนครับ สำหรับงานเทศกาลลอยโคมที่เชียงใหม่ในทริปที่พวกผมไปเที่ยวกัน ได้เดินเที่ยวแถวสะพานเหล็ก ได้ลองลอยโคมกันจนสะใจ นั่งพักตามบาร์แถวนั้น ดูเค้าต่อยมวยโชว์ ซัดแสงโสมกันคนละอึกสองอึก โยกกันที่ร้านเหล้าประจำถิ่นอย่าง ZOE พวกเราเต็มที่กับการท่องเที่ยวเสมอครับ เอาให้คุ้ม เช้าวันใหม่หลายๆคนก็แยกย้ายกันไป ส่วนใหญ่มุ่งสู่กรุงเทพครับ แต่จำนวนไม่น้อยก็มุ่งหน้าไปทางปายต่อ ปลายทางของพวกเรานั้นหลากหลายกันจริงๆ กลุ่มที่ไปปายเค้าจะมุ่งหน้าไปออกเวียดนามครับ ทริปยาวๆของพวกเค้าหล่ะ ผมนี่อิจฉาหนักมาก อยากไปแต่ตังไม่พร้อม หัวเราะทั้งน้ำตา กลุ่มที่มุ่งหน้าลงกรุงเทพก่อนเค้าก็มีจุดหมายที่ภูเก็ตต่อครับ จากนั้นก็ลงใต้ยาวๆจนถึงแดนกีวี่ เรียกได้ว่าตะลุยโลกของแท้จริงๆ ปล่อยเค้าไปครับ ส่วนตัวผมเอาไว้ตังพร้อมก่อนค่อยว่ากัน เที่ยวตามประสานกกระจิบตัวน้อยๆ ปักหลักต่อครับ เชียงใหม่
อย่างที่เกริ่นไว้ก่อนหน้าครับ ในกลุ่มพวกเราก็ยังมีหลายคนที่ปักหลักต่อที่เชียงใหม่ วันถัดมาก็เลยนัดกันลุยเชียงใหม่ต่อครับ ซึ่งพวกผมก็เหลือกันไม่กี่คนเอง เพราะหลายๆคนบอกอยากพักเอาแรง วันนั้นผมก็เลยลุยกัน 3 คน นิคกับแครี่ สาวเยอรมันขาลุย พวกเราเช่าฟีโน่ 2 คันครับ เป้าหมายไม่ได้นัดกันมาก่อนเลย โจทย์ยากสุดในสามโลก “ที่ไหนก็ได้” ไม่ใช่แค่คนไทยหรอกครับที่เจอโจทย์นี้ ฝรั่งก็เจอ คือไม่รู้จะไปไหนแต่อยากไปเที่ยวเฉยๆ ไหนๆก็มาแล้ว ซึ่งก็ไม่เป็นปัญหาครับ คนท้องถิ่นเค้าแน่นำดีมาก พวกเราเลยได้ข้อสรุปว่าจะไปแกรนด์แคนย่อนกัน ซึ่งผมก็ไม่รู้หรอกครับว่ามันเป็นยังไง ไม่เคยรู้จักมาก่อน จนไปถึงโน่นหล่ะผมถึงรู้ว่ามันคือสระน้ำขนาดใหญ่มาก ว่ายกันให้ฉ่ำปอดกันเลยทีเดียว ปัญหาไม่ใช่ปลายทางครับ ปัญหาจริงๆคือ “ระหว่างทาง” เพราะผมหลงทางง่ายมาก เป็นพวกไม่มีเซนส์เรื่องนี้เอาซะเลย ขับวนในเมืองจนเหนื่อย กว่าจะหาทางไปแกรนด์แคนย่อนเจอ หางดงครับ เป้าหมายที่พวกเราจะไปกัน ระหว่างทางมีกันแวะพักนั่งคุยกันก่อนด้วยนะเออ(เหนื่อยจนโมโห) แน่นอนครับสุดท้ายแล้วเราไปถึงปลายทางจนได้ ซึ่งเป็นอะไรที่สุดยอดมาก ผมแก้ผ้าวิ่งลงน้ำเลย โดดน้ำเย็นๆแล้วความเหนื่อยล้าหายเป็นปลิดทิ้ง ส่วนเพื่อนที่มาด้วยกันก็ไม่ต่างครับ ลงเล่นน้ำก่อนเลย จะต่างก็แค่แครี่ที่เค้าเดินเก็บภาพก่อนค่อยตามลงไป กล้องคุณเธอพร้อมมาก สาวแกร่งประจำกลุ่มของพวกเรา สวย ดุ และลุย อันนี้แหละครับ สาวเยอรมันของแท้
แกรนด์แคนย่อนยังไม่จบครับ ที่นี่ผมยังได้เพื่อนใหม่อีกหลายคน เรื่องมันมีอยู่ว่าผมเดินไปสั่งเบียร์ขวดนึงแล้วยืนดูเค้าทำไก่อบโอ่งแล้วดันเกิดอยากกินขึ้นมา แต่ปัญหาคือมันตัวใหญ่มาก ผมคิดว่ายังไงก็กินไม่หมดแน่นอน ถึงจะแค่ครึ่งตัวก็เหอะ ผมก็เลยหันไปถามฝาหรั่งข้างๆ(ที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน)ว่า เฮ้ย ไก่มันน่ากินว่ะ แต่ตรูกินคนเดียวไม่หมดแน่นอน กินด้วยกันมั้ย ยูไม่ต้องจ่ายหรอก นั่งกินเป็นเพื่อนกันเฉยๆ ไม่อยากทิ้ง ฮีก็บอกโอเค ไม่มีปัญหา หารกันๆ อยากกินอยู่เหมือนกัน แล้วพวกเราก็ได้ไก่กลับไปนั่งกินที่โต๊ะ(ของไอ้คนที่เพิ่งเจอ) นั่งคุยกันไปตามประสา รู้คล่าวๆว่ามาจากฝรั่งเศส ทำงานอยู่กรุงเทพ มาเชียงใหม่กับเพื่อนๆที่ทำงานด้วยกัน ซักพักเพื่อนๆเค้า 3 คนก็กลับมาจากเล่นน้ำหนุ่มฝรั่งเศส เกาหลี แล้วก็ญี่ปุ่นคนนึง(โกกิซัง ซึ่งเค้าเป็นคนถ่ายรูปที่ผมโดดน้ำจากจุดสูงๆให้เพราะฮีถ่ายภาพเป็นงานอดิเรก) คุยกันไปตามประสา เฮฮากันไปเรื่อยเปื่อย ซักพักเพื่อนๆผมก็กลับมา ก็แนะนำกันไปตามประสานักท่องเที่ยวแหละครับ เข้ากันได้ไวมาก อย่างไม่น่าเชื่อ ขนาดแครี่ที่ผมคิดว่าเค้าดูดุๆ ถือตัวตามสไตล์คนเยอรมัน เอาเข้าจริงเค้าเข้ากับคนอื่นๆได้ดีมาก ถึงจะเป็นคนแปลกหน้าที่เพิ่งเจอกันก็เถอะ ก็เลยทำให้ทริปนี้ของพวกเราสนุกขึ้นไปอีก
ความประทับใจสำหรับทริปนี้?
มาบอกเล่าความประทับใจกันหน่อยดีกว่า สำหรับการตะลุยเชียงใหม่เพื่องานลอยโคมของผมทริปนี้ หลายอย่างเลยครับ เล่าได้ไม่รู้จบเลยจริงๆ แต่เอาเป็นเรื่องหลักๆละกัน จะพยายามไม่ให้ตกหล่น สรุปก็ประทับใจทุกเรื่องครับ จบ(วิ่งหลบตรีนแปป)
โอเค เอาใหม่ๆ จริงจังๆ สิ่งที่ประทับใจอย่างแรกเลยคือความเป็นมิตรของเพื่อนๆทุกคนที่มาร่วมทริปด้วยกันครับ ทุกคนเปิดกว้างมาก อย่างที่กล่าวไว้ตั้งแต่ต้นว่าทุกคนมาจากหลากหลายที่ทั่วโลก พวกเราแตกต่างหลายๆเรื่อง โดยเฉพาะวัฒนธรรมและประสบการณ์การใช้ชีวิต แต่ทริปนี้ทุกคนใจดีสุดๆไปเลย มีความเป็นมิตรสูงมาก พวกเราแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ช่วยเหลือกัน แบ่งปันข้อมูลกัน วางแผนเที่ยวด้วยกัน มีอิสระกันเต็มที่ เป็นประสบการณ์ที่สุดยอดมากครับสำหรับผม ทุกคนมีความต้องการของตัวเอง มีที่เที่ยวที่อยากไป ใครสนใจอยากไปไหนก็แจม เป็นสไตล์การท่องเที่ยวที่ตรงกับผมที่สุดแล้ว อันนี้เป็นความประทับใจหลักๆครับ ส่วนสิ่งที่ประทับใจอีกอย่างคือคนที่ช่วยเป็น Organizer ให้พวกเรา อันนี้สุดยอดมากครับ เป็นคนที่เสียสละจริงๆ ชื่นชมจากใจจริงๆ ส่วนสำหรับเพื่อนๆคนอื่นๆนั้นแน่นอนครับว่ามีความประทับในแต่ละคนอยู่แล้ว หลายๆคนน่ารักมาก ทำให้ทริปท่องเที่ยวของพวกเราเป็นอะไรที่สุดยอด รู้สึกรักผู้คนพวกนี้จริงๆเลยให้ตายสิ่
เอาเป็นว่าทริปนี้ผมขอจบไว้เพียงเท่านี้แล้วกัน ไว้ทริปหน้าจะมาเล่าใหม่ เจอกันครับ ขอบคุณที่หลงเข้ามาอ่าน