10 ความจริงของชาวอียิปต์โบราณที่เราไม่เคยรู้มาก่อน
อียิปต์ คือดินแดนแห่งประวัติศาสตร์อันรุ่งเรือง ที่เรามักจดจำภาพของชาวอียิปต์โบราณที่มี ฟาโรห์ พีระมิด สุสานที่เต็มไปด้วยทรัพย์สมบัติ และการบูชาเทพเจ้า แต่นอกจากความหรูหราอลังการเหล่านี้ ยังมีความจริงเกี่ยวกับอียิปต์โบราณมากมาย ที่เราไม่เคยรู้
1. สาเหตุที่คนอียิปต์ส่วนใหญ่โกนหัว
จากบันทึกโบราณทั้งในอียิปต์เอง หรือแม้แต่ภาพที่ถูกวาดขึ้นจากคนในประเทศอื่น เราจะเห็นว่าชาวอียิปต์ส่วนใหญ่มักจะโกนหัว ซึ่งเราอาจคิดว่านั่นเป็นเรื่องของแฟชั่น
แต่จริงๆ แล้วนักประวัติศาสตร์พบว่า มีเหาจำนวนมากมายมหาศาลอยู่ทุกหนทุกแห่ง ทั้งชายและหญิงชาวอียิปต์จึงเลือกที่จะโกนหัว ส่วนผู้หญิงจะสวมวิกเอาไว้แทน บางคนก็เลือกที่จะโกนขนทั่วทั้งตัวเพื่อขจัดปัญหานี้ไปเลย
2. วิธีที่หนุ่มอียิปต์เรียกร้องความสนใจสาวๆ
ในบันทึกของเฮโรโดตัส นักประวัติศาสตร์ชาวกรีกในสมัย 500 ปีก่อนคริสตกาล ได้ติดตามดูหนุ่มๆ ชาวอียิปต์ที่รวมตัวกันพายเรือไปเข้าร่วมในพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ในเมืองบูบาสติส
แต่ความขลังของพิธีกรรมไม่ได้หยุดให้หนุ่มๆ แซวสาวได้ โดยวิธีการเรียกร้องความสนใจของพวกเขาคือการ “ร้องครวญครางสุดเสียง และฉีกกระชากเสื้อผ้าตัวเองออก” เวลาที่เรือแล่นผ่านเมืองนั่นเอง
3. ฟาโรห์ตุตันคาเมน ถูกฝังโดยมีองคชาติตั้งตรง
เมื่อ โฮเวิร์ด คาร์เตอร์ นักโบราณคดีพบสุสานต้องห้ามของฟาโรห์ตุตันคาเมน เขาได้เห็นถึงความมั่งคั่งของทรัพย์สมบัติและมัมมี่ในแบบที่ไม่มีนักประวัติศาสตร์คนไหนเคยพบมาก่อน รายละเอียดหลายอย่างถูกเขียนบรรยายให้โลกรู้
ยกเว้นแต่เรื่องขององคชาติของฟาโรห์ ที่ถูกฝังในลักษณะตั้งตรง 90 องศา ไม่มีใครรู้เหตุผลที่แท้จริง มีทฤษฎีมากมายที่พยายามอธิบายเรื่องนี้ รวมไปถึงการที่มีคนคิดว่าองคชาติดังกล่าวไม่ใช่ขององค์ฟาโรห์อีกด้วย
4. การคุมกำเนิดที่น่าขยะแขยง
ชาวอียิปต์มีความเชื่อในเรื่องของการคุมกำเนิดอยู่ 2-3 วิธีที่แตกต่างกันไป ผู้หญิงบางคนเชื่อว่าการกินน้ำผึ้งจะช่วยได้ แต่ผู้หญิงที่กล้าหาญกว่านั้นจะนำใบไม้กับมูลจระเข้มาผสมด้วย ส่วนผู้ชายจะใช้การนำน้ำหัวหอมมาถูกบริเวณหนังหุ้มปลายองคชาติแทน
5. ผู้หญิงสวยจะถูกทิ้งให้เน่าเปื่อย เพื่อหยุดการข่มขืนศพ
เมื่อผู้ชายอียิปต์ตาย ศพจะถูกนำไปดองทันที แต่ผู้หญิงจะแตกต่างกันไปโดยเฉพาะผู้หญิงสวย ศพของพวกเธอจะไม่ถูกส่งไปให้กับคนงานดองศพ จนกระทั่งศพของพวกเธอเริ่มเน่าเปื่อยเมื่อผ่านไป 3-4 วัน นั่นเป็นเพราะชาวอียิปต์ไม่ไว้ใจคนงานดองศพพวกนี้ ที่มักมีคดีข่มขืนศพของหญิงสาวอยู่เสมอ
6. ฟาโรห์เป็นโรคอ้วนอย่างน่ากลัว
ภาพวาดส่วนใหญ่ของฟาโรห์ล้วนแสดงให้เห็นว่า พวกเขาผอม มีกล้ามเนื้อ แต่นั่นไม่ใช่ความจริงแต่อย่างใด เพราะบรรดาฟาโรห์มักสั่งให้ศิลปินของพวกเขา สร้างภาพให้ตัวเองดูดี แต่หลักฐานจริงๆ ที่เราพบกลับไม่ได้เป็นแบบนั้นเลย เพราะบรรดาราชวงศ์ของอียิปต์ต่างเป็นโรคอ้วนทั้งสิ้น
บรรดานักบวชจะเป็นผู้ที่เตรียมมื้ออาหาร 3 มื้อต่อวัน ซึ่งประกอบไปด้วย ไวน์ เนื้อ และเค้ก ด้วยเหตุนี้เอง มัมมี่ที่ถูกพบจะมีลักษณะของไขมันอุดตันในเส้นเลือด ท้องบวม และมีก้อนไขมันหนา
7. ชาวอียิปต์ต้องกินยาถ่าย 3 ครั้งต่อเดือน
ถึงแม้ชนชั้นสูงของอียิปต์จะประสบปัญหาโรคอ้วน แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าพวกเขาไม่ต้องการผอม หุ่นดีมีกล้ามเนื้อ เพราะนั่นยังคงเป็นมาตรฐานความงามของชาวอียิปต์
ดังนั้นวิธีแก้ของพวกเขาหลังจากที่กินไปเยอะๆ นั่นก็คือ การกินยาถ่ายที่ทำจากน้ำมันละหุ่ง ประมาณ 3 ครั้งต่อเดือน และในช่วงที่พวกเขาท้องเสีย ลองนึกภาพในสมัยอดีตที่ชาวอียิปต์ยังไม่มีระบบน้ำประปาดูสิ
8. แพทย์เฉพาะทาง (ทวารหนัก)
การแพทย์ถือเป็นส่วนสำคัญในวัฒนธรรมอียิปต์ ซึ่งชาวอียิปต์มักจะมีแพทย์เฉพาะทางในทุกๆ ส่วนของร่างกาย นั่นรวมไปถึงแพทย์เฉพาะทางทวารหนัก ซึ่งงานส่วนใหญ่ของพวกเขาคือการสวนอุจจาระนั่นเอง
พวกเขาจะรู้วิธีการปรุงยาจัดยาและดูแลทวารให้กับผู้ที่ไม่มีเวลาใส่ใจในรูทวารของพวกเขา ซึ่งการสวนอุจจาระถือเป็นความภาคภูมิใจของชาวอียิปต์สมัยนั้น เพราะมีตำนานความเชื่อว่ามันถูกพัฒนามาจากเทพธอธ เทพแห่งความรอบรู้ที่ฉลาดที่สุด
9. วิธีการทดสอบภาวะเจริญพันธุ์
ชาวอียิปต์มีวิธีการทดสอบว่าช่วงเวลาไหนที่หญิงสาวพร้อมที่จะตั้งครรภ์ได้ โดยแพทย์จะทำการชะโลมน้ำมันให้ทั่วร่างกาย และให้เธอนอนจนกระทั่งถึงเช้า ซึ่งถ้าเธอยังดูสดชื่นและยังดูดีอยู่ นั่นหมายถึงเธออยู่ในภาวะเจริญพันธุ์
แต่สิ่งที่แปลกกว่านั้นก็อ บางครั้งแพทย์จะใส่ใบกระเทียมหรือหอมใหญ่เข้าไปในช่องคลอด และมาดมลมหายใจของเธอตอนเช้า ซึ่งชาวอียิปต์โบราณเชื่อว่า ช่องในร่างกายทั้งหมดของผู้หญิงเชื่อมต่อกัน ถ้าพวกเขาได้กลิ่นกระเทียมหรือหอมจากปากหญิงสาวชัดเจน นั่นคือพวกเธอพร้อมที่จะมีลูกได้
10. ชาวอียิปต์โบราณเชื่อว่าผู้ชายมีประจำเดือน
ปัญหาที่ร้ายแรงของชาวอียิปต์โบราณคือต้องผจญกับโรคระบาดต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะโรคพยาธิใบไม้ในเลือดที่เป็นกันเกือบทุกคน และด้วยสาเหตุของโรคนี้เองที่ทำให้จะทำให้ผู้คนรู้สึกไม่สบายและมีอาการฉี่และอึเป็นเลือด โดยที่พวกเขาไม่คิดมาก่อนว่ามันเป็นโรค แต่คิดว่าเลือดที่ออกมาเป็นประจำเดือนของผู้ชาย แถมยังเชื่ออีกว่า ผู้ชายที่มีประจำเดือนนี้ เป็นผู้ชายที่อยู่ในภาวะเจริญพันธุ์อีกด้วย