คำทำนาย!! ครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนา เมื่อร้อยปีที่แล้วท่านกล่าวไว้อย่างนี้?
ครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนา เป็นผู้มีศีลาจารวัตรที่งดงามและเคร่งครัดครูบาศรีวิชัย
เป็นที่รู้จักและอยู่ในความทรงจำของชาวล้านนาคือการที่ท่านเป็นผู้นำในการสร้างทางขึ้นสู่วัดพระธาตุดอยสุเทพโดยพลังศรัทธาประชาชนเป็นจำนวนมาก ทั้งกำลังกายและกำลังทรัพย์ซึ่งใช้เวลาสร้างเพียง 5 เดือนเศษ โดยไม่ใช้งบประมาณของรัฐหรือส่วนราชการเลย
นอกจากนี้ ท่านยังทำนายบ้านเมืองในภายภาคหน้า ซึ่งก็คือปัจจุบันได้ตรงอย่างน่าขนลุก ความว่า ( ภาษากำเมือง )
“ต่อไปเบื้องหน้า? วัดจะหมอง มองจะห่าง หนตางจะเลี่ยน โฮงเฮียนจะดีคนบ่มีจะได้กิ๋นข้าว คนเฒ่าใส่เขี้ยวขาว แม่ฮ้างนางสาวจะนุ่งเตี่ยวป่าเฮ่วม่วนเหมือนปอย ภูดอยจะล้าน คนขี้คร้านจะได้กิ๋นดี คนบ่ดีหนีไปนอนสาดตูบกาดเต๋มบ้านเต๋มเมือง น้ำเหมืองเอาน้ำแม่ งัวควายบ่แพร่คนเฒ่าคนแก่บ่มีไผแอ่วหา ปู๋ปล๋าหนีน้ำ เอาน้ำตกกับถ้ำเป๋นตี้แอ่วตี้จุมคนจักชุมนุมกั๋นเป๋นกลุ่มเป๋นก้อน บ้านเมืองจะเดือดฮ้อน ละอ่อนสอนบ่ฟังกำคนใจ๋ดำมีทั่วประเทศ คนจักเหมือนผีเหมือนเผต ตึงแม่ญิงป้อจายผมมีบ่เกล้าข้าวมีบ่ต๋ำ หนตางดีบ่มีคนไต่ ฮอยคนเหมือนฮอยงู คนจักซานบนดินมาหนึ่งศอกน้ำบ่อออกอยู่บนเฮือน เครือเขาเลื่อนบนอากาศ คนฉลาดแป๋งควายเหล็กมาขายคนมีหูติ๊บต๋าติ๊บ ดำดินบินบนได้ จักมีในเบื้องหน้าแต้แหล่..ปี้น้องตังหลายเหย..ฯ”
โดยแปลเป็นภาษากลางได้ว่า
” ในอนาคตวัดวาอารามจะไม่ค่อยมีผู้คนเข้าไปทำบุญหรือถือศีลฟังธรรมครกมองตำข้าวก็จะไม่มีคนใช้ตำข้าวอีกถนนหนทางก็จะราบเรียบใช้เดินทางไปมาอย่างสะดวกสบาย โรงเรียนก็จะใหญ่โตคนยากจนก็จะมีข้าวกิน คนชราก็จะใส่ฟันปลอมเต็มปากแม่หม้ายนางสาวก็จะละทิ้งผ้าถุงหันไปสวมใส่กางเกงกันหมดป่าช้าก็จะครึกครื้นด้วยเสียงเพลง (เพลงแห่ศพ..บางแห่งมีวงดนตรีแสดงสด ๆ ขณะเผาศพหรือเปิดเพลงโปรดของผู้ตาย..)
ภูเขาก็ปราศจากต้นไม้ คนเกียจคร้านก็มีอยู่มีกินอย่างดีคนชั่วช้าก็ล้มตายไป มีร้านค้าขายอยู่ทั่วทุกมุมเมืองน้ำคลองซอยเล็กก็อาศัยน้ำจากแม่น้ำใหญ่ วัวควายก็ค่อย ๆ สูญพันธุ์ไปคนแก่คนเฒ่าก็ถูกทอดทิ้งให้อยู่ตามลำพัง ปูปลาก็ลดหายไปจากลำน้ำผู้คนต่างชอบท่่องเที่ยวไปตามถ้ำและน้ำตก ผู้คนมีร่วมชุมนุมประท้วงกันอย่างมากมายบ้านเมืองจะเกิดความระส่ำระสายวุ่นวาย เด็ก ๆลูกหลานก็จะดื้อรั้นไม่ค่อยเชื่อฟังผู้ใหญ่ผู้คนไร้คุณธรรมน้ำใจก็จะมีอยู่ทั่วทุกมุมเมือง
ผู้คนก็จะเป็นเสมือนพวกภูตผีและพวกเปรตที่มีแต่ความละโมบโลภมากทั้งชายหญิงต่างไว้ผมยาวประบ่า ข้าวที่มีอยู่ก็ไม่ใช้ครกตำถนนหนทางดีแต่คนก็ไม่ใช้เท้าเดินกัน ร่องรอยของผู้คนก็คล้ายรอยงู(ล้อรถยนต์)ผู้คนก็จะเหาะเหินล่องลอยอยู่เหนือพื้นดินในบ้านเรือนก็มีก็อกประปามีน้ำกินน้ำใช้อย่างสะดวกสายไฟฟ้าสายโทรศัพท์มีโยงอยู่ทั่วไปในชุมชน คนที่มีความรู้ก็ผลิตรถแทรกเตอร์มาใช้ทำไร่ไถนาผู้คนต่างก็มีหูทิพย์ตาทิพย์ (โทรศัพท์-โทรทัศน์-อินเตอร์เน็ต)ผู้คนมีพาหนะทั้งรถไฟฟ้าใต้ดิน-บนดิน-ลอยฟ้า หรือเครื่องบินสิ่งเหล่านี้จะบังเกิดขึ้นในอนาคตอย่างแน่นอนนะ พี่น้องทั้งหลาย?”
หมาย เหตุ : ในบางประโยคนั้น เป็นปริศนาธรรมที่ลึกซึ้งที่จะต้องตีปริศนาและขบคิด ค้นหาความหมายที่ถูกต้องครับถ้าท่านใดเป็นผู้รู้มาช่วยแปลด้วยจะเป็นพระคุณอย่างยิ่งครับ
ประวัติของครูบาศรีวิชัย
นาย อินท์เฟือน อาศัยอยู่ในหมู่บ้านกันดารมีชนกลุ่มน้อยอาศัยอยู่มากโดยเฉพาะชาวกะเหรี่ยงในช่วงนั้นบ้านปางยังไม่มีวัดประจำหมู่บ้าน จนกระทั่งเมื่อนายอินท์เฟือนมีอายุได้ 17 ปี ได้มีพระภิกษุรูปหนึ่งชื่อ ?ครูบาขัตติยะ? หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “ครูบาแฅ่งแฅะ” (หมายถึง ขาพิการ เดินขากะเผลก)เดินธุดงค์จากบ้านป่าซางผ่านมาถึงหมู่บ้านนั้นชาวบ้านจึงนิมนต์ให้ท่านอยู่ประจำที่บ้านปางแล้วก็ช่วยกันสร้างกุฏิชั่วคราวให้ท่านจำพรรษา
เด็กชายอินท์เฟือน จึงได้ฝากตัวเป็นศิษย์ และเมื่ออายุได้ 18 ปี ก็ได้บรรพชาเป็นสามเณรที่อารามแห่งนี้โดยมีครูบาขัตติยะเป็นพระอุปัชฌาย์ 3ปีต่อมา(พ.ศ. 2442) ได้เข้าอุปสมบทในอุโบสถวัดบ้านโฮ่งหลวงอำเภอบ้านโฮ่ง จังหวัดลำพูน โดยมีครูบาสมณะ วัดบ้านโฮ่งหลวง เป็นพระอุปัชฌาย์ได้รับนามฉายาในการอุปสมบทว่า “สิริวิชโยภิกฺขุ” มีนามบัญญัติว่า พระศรีวิชัย หลังอุปสมบท
เมื่อ อุปสมบทแล้ว พระศรีวิชัย สิริวิชโยภิกขุได้กลับมาจำพรรษาที่อารามบ้านปาง 1พรรษาจากนั้นได้ไปศึกษากัมมัฏฐานและวิชาอาคมกับครูบาอุปละ วัดดอยแต อำเภอแม่ทาจังหวัดลำพูน ต่อมาได้ไปฝากตัวเป็นศิษย์ของครูบาวัดดอยคำและอีกท่านหนึ่งที่ถือว่าเป็นครูของครูบาศรีวิชัยคือ ครูบาสมณะ วัดบ้านโฮ่งหลวงซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์ของท่าน
ครู บาศรีวิชัย ได้รับการศึกษาจากครูบาอุปละ วัดดอยแต เป็นเวลา 1 พรรษาก็กลับมาอยู่ที่อารามบ้านปางจนถึง พ.ศ. 2444 อายุได้ 24 ปี พรรษาที่ 4 ครูบาขัตติยะได้จาริกออกจากบ้านปางไป (บางท่านว่ามรณภาพ)ครูบาศรีวิชัย จึงรักษาการแทนในตำแหน่งเจ้าอาวาส และเมื่อครบพรรษาที่ 5 ได้เป็นเจ้าอาวาสวัดบ้านปางจากนั้นก็ได้ย้ายวัดไปยังสถานที่ที่เห็นว่าเหมาะสมคือบริเวณเนินเขาซึ่งเป็นที่ตั้งวัดบ้านปางในปัจจุบันเพราะเป็นที่วิเวกและสามารถปฏิบัติธรรมได้เป็นอย่างดีโดยได้ให้ชื่อวัดใหม่แห่งนี้ว่า วัดจอมสรีทรายมูลบุญเรืองแต่ชาวบ้านทั่วไปยังนิยมเรียกว่า วัดบ้านปาง ตามชื่อของหมู่บ้าน
ครู บาศรีวิชัย เป็นผู้มีศีลาจารวัตรที่งดงามและเคร่งครัดท่านงดการเสพหมาก เมี่ยง บุหรี่ โดยสิ้นเชิง ท่านงดฉันเนื้อสัตว์ตั้งแต่เมื่ออายุได้ 26 ปี และฉันอาหารเพียงมื้อเดียวซึ่งมักเป็นผักต้มใส่เกลือกับพริกไทย บางครั้งก็ไม่ฉันข้าวทั้ง 5 เดือน ผักที่ท่านจะไม่ฉันเลยคือ ผักบุ้ง ผักปลอด ผักเปลวผักหมากขี้กา ผักจิก และผักเฮือด-ผักฮี้ (ใบไม้เลียบอ่อน) โดยท่านให้เหตุผลว่าถ้าพระภิกษุสามเณรรูปใดงดได้ การบำเพ็ญกัมมัฏฐานจะเจริญก้าวหน้าผิวพรรณจะเปล่งปลั่ง ธาตุทั้ง 4 จะเป็นปกติถ้าชาวบ้านงดเว้นแล้วจะทำให้การถือคาถาอาคมดี
คำสอนครูบาศรีวิชัย
ครู บาศรีวิชัยมีความปรารถนาที่จะบรรลุธรรมะอันสูงสุดดังปรากฏจากคำอธิษฐานบารมีที่ท่านอธิษฐานไว้ว่า “?ตั้งปรารถนาขอหื้อได้ถึงธรรมะยึดเหนี่ยวเอาพระนิพพานสิ่งเดียว?” และมักจะปรากฏความปรารถนาดังกล่าวในตอนท้ายของคัมภีร์ใบลานที่ท่านสร้างไว้ทุกเรื่อง
สิ่ง ที่ทำให้ครู บาศรีวิชัยเป็นที่รู้จักและอยู่ในความทรงจำของชาวล้านนาคือการที่ท่านเป็นผู้นำในการสร้างทางขึ้นสู่วัดพระธาตุดอยสุเทพโดยพลังศรัทธาประชาชนเป็นจำนวนมาก ทั้งกำลังกายและกำลังทรัพย์ซึ่งใช้เวลาสร้างเพียง 5 เดือนเศษ โดยไม่ใช้งบประมาณของรัฐการสร้างถนนขึ้นดอยสุเทพ
การ สร้างถนนขึ้นดอย สุเทพ จังหวัดเชียงใหม่ซึ่งครูบาศรีวิชัยได้รับคำเรียกร้องจากศรัทธาประชาชนให้ช่วยดำริและจัดการเรื่องนี้ จึงเริ่มลงมือสร้างเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2477เวลา 10.00 นาฬิกา ณ เชิงดอยสุเทพด้านห้วยแก้ว โดยมี พลตรี เจ้าแก้วนวรัฐ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่เป็นผู้ขุดจอบเป็นปฐมฤกษ์ การสร้างถนนสายนี้ใช้แรงงานเป็นจำนวนมากวันหนึ่งๆจะมีผู้คนช่วยทำงานประมาณวันละไม่ต่ำกว่า 5,000 คน ถ้าคิดมูลค่าแรงงานเป็นเงินก็คงมากมายมหาศาลทีเดียวการสร้างทางสายนี้ใช้เวลา 5 เดือน กับ 22 วัน จึงแล้วเสร็จ และเปิดให้รถขึ้นลงได้ เมื่อวันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2478
ปัจจุบันท่านครูบาศรีวิชัยยังคงเป็นที่เคารพสักการะของชาวไทยภาค เหนือโดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวเขาเผ่าต่างๆ โดยจะเห็นได้จากการที่ชาวเขากลุ่มใหญ่ในปัจจุบันก็ยังคงไม่กินเนื้อสัตว์ตามคำสอนของท่านครูบาศรีวิชัยที่สืบทอดกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ อีกทั้งท่านยังเป็นพระสงฆ์องค์แรกๆที่ทำให้ชาวเขาเลิกนับถือผีสางอีกด้วย
รู้จัก M777 ปืนใหญ่สนามตัวโหด เบา คล่อง ยิงแม่นระดับนำวิถี ตัวเปลี่ยนเกมสงครามยุคใหม่
"ทัพฟ้าไทย" ยืดอกรับ ส่งฝูงบินถล่มคลังแสงพระตะบอง ลั่น "เราไม่ได้เริ่มก่อน" แต่ต้องทำเพื่อปกป้องประชาชน
วิเคราะห์สถิติหวยปีใหม่ 2 มกราคม: เจาะลึกเลขเด่นรับโชควันศุกร์ 2569
APC M113 รถเกราะ 60 ปี ลุยสมรภูมิช่องอานม้า เสริม "เกราะไม้" กันจรวดสุดแกร่ง
จรวดจีนฟัดจรวดจีน เปิดคลังอาวุธลับสมรภูมิสระแก้ว เมื่อไทย-เขมรต่างงัดไม้เด็ด "สายเลือดมังกร" มาดวลกัน
เผยสถิติเลขออกบ่อย ย้อนหลัง 20 ปี..งวดวันที่ 2 มกราคม 69
📜 ภาพเก่าประวัติศาสตร์ “พระตะบอง” จากแผ่นดินสยาม สู่ความทรงจำ
พชร์ อานนท์ การันตี "หอแต๋วแตก" ภาคล่าสุด เส้นเรื่องแน่น มุกสดใหม่ทันเหตุการณ์
"เหมย หมึกเป็นซาซิมิ" แฉผัวตัวดีแอบกินกิ๊กเด็กในร้าน
"DJ Sakura Soh" กับบทบาทใหม่ในวงการ JAV
เขมร ยอมมาโต๊ะเจรจาที่จันทบุรี หลังไทยดัดหลัง "ไม่ย้ายประเทศ"
10 ธรรมเนียมคริสต์มาสที่ซ่อนความหมายมากกว่าความสวยงาม
วัฒนธรรมแท่งหินรูปกวาง (Deer Stones Culture) ในมองโกเลีย
สมาคมศิษย์เก่าเกาหลีแห่งกัมพูชา เรียกร้องรัฐบาลเกาหลีใต้ สืบสวนคำกล่าวอ้างว่ากองทัพอากาศไทยใช้เครื่องบินขับไล่T-50TH ที่ผลิตโดยเกาหลีใต้
"เหมย หมึกเป็นซาซิมิ" แฉผัวตัวดีแอบกินกิ๊กเด็กในร้าน
ทึ่งทั่วโลก : "สนามบินยิบรอลตาร์" หนึ่งในสนามบินที่อันตรายและน่าตื่นเต้นที่สุดในโลก ประสบการณ์การบินที่ไม่เหมือนใคร คนขับมาลงได้นี่ต้องเก่งมากๆเลยนะเนี่ย
ป้าโกรธแค้นชายแดนเดือด! ฟันต้นมะม่วงแก้วขมิ้นทิ้งซะเลย เพราะ "มันเขมรเว้ย!" เคสสุดโต่งที่ทำให้เน็ตฮาแตก
📜 ภาพเก่าประวัติศาสตร์ “พระตะบอง” จากแผ่นดินสยาม สู่ความทรงจำ




