มาสค์ไรเดอร์ไกมุ ฮีโร่ที่ไม่เหมาะกับเด็ก หรือเรากันแน่ที่ลืมความเป็นเด็ก

เมื่อเรื่องราวของฮีโร่คนหนึ่งได้จบลงไปก็ถึงเวลาที่เรื่องราวของฮีโร่คนใหม่จะถูกเล่าขานต่อไป เป็นดั่งคบเพลิงที่ส่งต่อกันมาอยู่ตลอดของตำนานที่คอยต่อกรกับเหล่าร้ายที่มีชื่อว่ามาสค์ไรเดอร์ และในปีนี้เองก็ถึงคิวของมาสค์ไรเดอร์ไกมุที่ได้เข้ามาฉายในประเทศไทยกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการนำเข้ามาฉายในครั้งนี้ก็ได้เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น ฮีโร่ไทม์ ไกมุ แอพพลิเคชั่นข้อมูลข่าวสาร เกม และอีกหลาย ๆ อย่างของมาสค์ไรเดอร์ไกมุ หรือเพลงเปิดในเวอร์ชันภาษาไทยที่ได้ พี่โต๋ ศักดิ์สิทธิ์ เวชสุภาพร มาช่วยแต่งและขับร้องบทเพลงนี่ร่วมกับวง Kamen RiderGirls ในชื่อเพลง Just you and me ที่ขับร้องออกมาได้อย่างไพเราะไม่น้อย

แต่ประเด็นที่เรียกได้ว่ากลายเป็น Talk of the town ไปช่วงหนึ่งเลยก็คงหนีไม่พ้น เพลงโปรโมทเพลงแรกที่ขับร้องโดย โหน่ง ชะชะช่า กับเพลงชื่อ “ไก๊ไก่ไกมุ” ที่แค่ปล่อยออกมาเพียงคืนเดียวก็สร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์ต่าง ๆ นา ๆ  ทั้งในด้านของความฮาของตัวเพลง และกระแสต่อต้าน ที่เพลงมีการขัดกับตัวเนื้อหาจริงของเรื่องเป็นอย่างมาก

ด้วยวิธีการโปรโมทนี้เองที่ทำให้ชาวโซเชียลออกมาถกกันว่า มาสค์ไรเดอร์ไกมุ เป็นซีรี่ย์ที่ไม่เหมาะกับเด็กกันต่าง ๆ นา ๆ  เรามาดูกันดีกว่า ว่ามาสค์ไรเดอร์ไกมุมีจุดไหนบ้างที่เขาว่าไม่เหมาะกับเด็ก แล้วมันมีแค่ไกมุจริง ๆ  รึเปล่าที่มีอะไรแบบนี้อยู่ในเรื่อง

เนื้อหาจากตอนนี้จะมีส่วนที่พูดถึงเนื้อเรื่องของมาสค์ไรเดอร์ไกมุค่อนข้างมาก สำหรับใครที่ยังไม่ได้ดูเรื่องนี้อาจจะพักไว้ที่เท่านี้ก่อน หรือถ้าพร้อมแล้วก็มาลุยกันต่อเลย

.

.

.

 

1. ไรเดอร์ต่อสู้กันเอง

ในเนื้อเรื่องตามคอนเซ็ปต์การแข่งขันเต้น จะมีการดวลกันระหว่างทีมเกิดขึ้น เกิดเป็นการปะทะกันของไรเดอร์ที่เป็นตัวแทนของแต่ละทีม และตอนหลังการต่อสู้ก็ยิ่งตึงเครียดขึ้นเรื่อย ๆ เสียด้วย ในส่วนนี้เอง ต้องบอกว่าไกมุไม่ได้เป็นภาคแรกที่เริ่มคอนเซ็ปต์ แต่เป็นมาสค์ไรเดอร์ริวคิ ที่เรียกได้ว่าสู้กันดุเดือด และดาร์คกันตั้งแต่ต้นยันจบเรื่องเลยทีเดียว

2. เรื่องนี้มีคนตาย

แน่นอนว่าคงไม่บ่อยนักที่เราจะได้เห็นตัวละครหลักตายในซีรี่ส์ Mask Rider แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีเลย ซึ่งไกมุเองก็เป็นหนึ่งในนั้น ที่คงพูดได้ว่าเป็นการตายที่น่าเศร้าใจในระดับนึงเลยทีเดียว เพราะไม่ตายเปล่า แต่กลายเป็นสัตว์ประหลาดจนถูกฆ่า ซึ่งการกลายเป็นสัตว์ประหลาดแล้วถูกฆ่า อาจจะไม่มีตัวอย่างก่อนหน้านี้ตรง ๆ แต่มีคล้ายกันอยู่บ้าง อย่างเช่นคุณชายสึรุกิ หรือ มาสค์ไรเดอร์ซาซอร์ด จากซีรี่ส์ มาสค์ไรเดอร์คาบูโตะ ที่รายนั้นมีการเผยทีหลังว่าเป็นเวิร์มตั้งแต่ต้นโดยไม่รู้ตัว และสุดท้ายก็เลือกที่จะจบชีวิตลงในที่สุด

หรือถ้าสภาพจบไม่สวยก็พอมีอยู่เหมือนกัน เช่น คุณซันกิจากมาสค์ไรเดอร์ฮิบิกิ เจ้าของตำนานตายโชว์ก้น ที่ติดตาเหล่าแฟน ๆ ทุกหมู่เหล่า

3. เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด

เรียกได้ว่า มาสค์ไรเดอร์ไกมุ เป็นซีรี่ส์ที่มีการหักหลังกันหลายตลบเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการวางแผนมาอย่างยาวนานเพื่อได้มาซึ่งอำนาจของตัวเอง หรือการหักหลังเพราะความอิจฉาริษยา ซึ่งจุดนี้ไม่ได้มีแค่ไกมุแน่นอนเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น คาเงยามะ ชุน หรือ มาสค์ไรเดอร์ซาบี รุ่นที่ 3 จากซีรี่ส์มาสค์ไรเดอร์คาบูโตะ ที่ใครได้ชมก็จะรู้วีรกรรมของพี่แกเรื่องขี้อิจฉา หักหลัง เลื่อยขาเก้าอี้ ต้องมีเขาเป็นคนหนึ่งที่ติดท็อปอย่างแน่นอน

ก่อนจะเป็นการสปอยจนเกินไปกว่านี้ จากที่ยกตัวอย่างมาจะเห็นว่าซีรี่ส์ไกมุนั้น มีเนื้อหาค่อนข้างมืดมน แต่ก็ไม่ใช่ว่าการดำเนินเนื้อหาแบบนี้จะเป็นเรื่องใหม่ หรือเพิ่งมีเป็นครั้งแรกไปเสียทีเดียว เพียงแต่ไกมุอาจจะเป็นซีรี่ส์ที่รวมเอาความมืดมนที่เคยมีมา รวมไว้ในซีรี่ส์เดียวกันเท่านั้นเอง

แต่ว่าเราลืมกันไปหรือเปล่าว่า… แม้ซีรี่ย์ไรเดอร์รุ่นก่อนจะมีเนื้อหาอึมครึมยังไง แต่ตัวเราเมื่อครั้งที่เป็นเด็กนั่งดูมาสค์ไรเดอร์กันอยู่หน้าทีวีก็ยังคงสนุกไปกับมันได้ สนุกในแบบเด็ก ๆ เนี่ยแหละ เราไม่ได้มาสนใจว่าเนื้อเรื่องจะมีความมืดมนเท่าไหร่ แต่ที่เราสนคือความเท่ ความเป็นฮีโร่ของไรเดอร์ นั้นแหละเป็นภาพที่ทำให้เด็กคนหนึ่งที่ได้ดูไรเดอร์ประทับใจไรเดอร์ และสุดท้ายพวกเขาก็สามารถที่จะซึมซับคุณธรรมความดีที่สอดแทรกอยู่ในความเป็นไรเดอร์เหล่านั้นได้ในที่สุด

เคยมีคนพูดกับผู้เขียนไว้ว่าจริงแล้ว ความตั้งใจดั้งเดิมของผู้สร้างไม่ได้ต้องการให้ไรเดอร์เป็นหนังสำหรับเด็ก มันอาจจะไม่ใช่หนังสำหรับเด็กจริง ๆ ก็ได้เพราะสิ่งที่ ตัดสินใจเรื่องนั้นก็คือผู้ที่ได้ดูแล้วตัดสินมันด้วยมุมมองของพวกเขา  แต่ว่ามาสค์ไรเดอร์ไกมุนั้นในที่สุดแล้ว ก็เป็นไรเดอร์ ที่ได้ฉายในช่วงฮีโรไทม์ที่เป็นเวลาของรายการสำหรับเด็ก เช่นเดียวกับไรเดอร์รุ่นก่อน  นั้นก็คงเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้เชื่อได้ว่าทีมผู้สร้างนั้นมั่นใจว่ามาสค์ไรเดอร์เรื่องนี้จะสามารถส่งมอบความสนุกให้กับเด็ก ๆ ได้เช่นเดียวกับที่ไรเดอร์รุ่นพี่ ได้ทำมาโดยตลอดแต่ว่าภายในความที่มันเป็นหนังสำหรับเด็กนั้นมันกลับมีความเป็นหนังของผู้ใหญ๋ที่ซ่อนไว้ได้อย่างสร้างสรรค์ จนกลายเป็น หนังที่สามารถดูได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ และสามารถสนุกได้ด้วยมุมมองที่ต่างกัน ผมว่านั้นมันคือความสำเร็จหนึ่งในการสร้างภาพยนตร์เลยจริง ๆ ในการที่ทำให้ผู้ชมสามารถสนุกไปกับเรื่องราวของภาพยนตร์ได้ แม้ว่าจะมีมุมมองการรับรู้ที่ต่างกันก็ตาม

หากลองมองย้อนกลับไปในวันนั้นวันที่เรายังเป็นเด็กตัวเล็กนั่งดูมาสค์ไรเดอร์ เราก็มีมุมมองในแบบของเด็ก ที่จับตาไปที่ความเท่และการปราบสัตว์ประหลาดของเหล่าฮีโร่ แม้ว่าในตอนนั้นเราอาจจะไม่สามารถเข้าใจเนื้อเรื่องทั้งหมดที่ผู้เขียนบทต้องการจะสื่อออกมาได้ แต่เราก็ยังสนุกไปกันมัน กลับกันเมื่อเราโตขึ้นเรามีประสบการณ์มีความคิดความอ่านมากขึ้น เราก็สามารถที่เข้าใจถึงเนื้อเรื่องและบทบาทของตัวละครได้มากขึ้น เข้าใจถึงสิ่งที่ผู้เขียน ซ่อนไว้ในเนื้อหาเหล่านั้น ซึ่งมันก็เป็นความสนุกในอีกรูปแบบหนึ่ง หลายคนอาจจะหลงลืมความเป็นเด็กและจับจุดที่มุมมองเหล่านี้มากไปจน สุดท้ายก็ลืมความสนุกที่เคยมีมาโดยตลอดไป หากเราลองดูมาสค์ไรเดอร์ทั้งในแบบเด็กและแบบผู้ใหญ่ไปพร้อม ๆ กันเราอาจจะสนุกไปกับมาสค์ไรเดอร์ได้มากกว่าเดิมก็ได้

สุดท้ายนี้ผู้เขียนเองก็อยากให้ผู้อ่านได้ลองคิดดูว่า ตัวเราที่เคยบอกว่าไม่อยากให้ผู้ใหญ่มาตัดสินที่ชอบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการ์ตูน เกม หรืองานอดิเรก ต่าง ๆ นา ๆ และทำไมตัวเราคนเดียวกันนั้นถึงออกมาตัดสินว่ามาสค์ไรเดอร์ไกมุ ไม่เหมาะกับเด็กกันล่ะ แบบนั้นมันก็เหมือนกับว่าเรากลายเป็นผู้ใหญ่ที่คอยตัดสินอะไรแทนเด็ก ๆ แบบที่พวกเราไม่ชอบกันไม่ใช่เหรอ สุดท้ายแล้วอาจจะไม่ใช่มาสค์ไรเดอร์หรอกที่เปลี่ยนไป แต่อาจเป็นตัวของเราเองที่หลังลืมความเป็นเด็ก ลืมความสนุกในแบบที่เคยรับรู้เมื่อตอนเด็ก ๆ ไปก็ได้