หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

10 ตำนานลึกลับของอารยธรรมอียิปต์

โพสท์โดย มารคัส

อารยธรรมอียิปต์โบราณ หรือ “ไอยคุปต์” คือหนึ่งในอารยธรรมที่มีความเก่าแก่มากที่สุดอารยธรรมหนึ่งของโลก เป็นอารยธรรมที่เรื่องราวต่าง ๆ เกิดขึ้นมากมาย แถมยังเป็นที่ตั้งของสิ่งปลูกสร้างอย่าง “พีระมิด” ซึ่งเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกและการพัฒนาทางการแพทย์อย่างการทำ “มัมมี่” อีกด้วย และนอกจากความยิ่งใหญ่อลังการที่อุดมไปด้วยประวัติอันล้ำค่าต่าง ๆ มากมายแล้วนั้น อารยธรรมอียิปต์โบราณ ยังมีตำนานลึกลับ ๆ ที่น่าสนใจที่บางคนอาจจะยังไม่เคยรับรู้มาก่อนเลยก็ได้

1. พระนางคลีโอพัตรา กับรูปโฉมที่แท้จริง
พระนางคลีโอพัตรา (Cleopatra VII) นับได้ว่าเป็นผู้ปกครองอียิปต์โบราณที่มีชื่อเสียงมากที่สุด ซึ่งในความรู้สึกนึกคิดของคนทั่วไป เธอคือพระราชินีผู้ทรงเสน่ห์ที่สุด มีรูปโฉมที่งดงาม เพียบพร้อมไปด้วยกลเม็ดเด็ดพรายในเชิงพิศวาส สามารถมัดใจชายได้อย่างอยู่หมัด แต่แท้ที่จริงแล้ว เสน่ห์ของพระนางคลีโอพัตราไม่ได้อยู่ที่เนื้อหนังมังสาหรือความงดงามแห่งใบหน้าและเรือนกายเลย แต่อยู่ที่สติปัญญาและความเฉลียวฉลาดรู้เท่าทันคนต่างหาก โดยมีหลักฐานชิ้นหนึ่งที่บ่งบอกถึงความจริงเรื่องนี้ ก็คือการค้นพบรูปปั้นส่วนพระเศียรขององค์ราชินีและเหรียญที่มีภาพพระพักตร์ของพระนาง ซึ่งเป็นการค้นพบของนักโบราณคดีรายหนึ่ง

2. ความเชื่อเกี่ยวกับความตาย
ชาวอียิปต์โบราณมีความเชื่อที่ว่า เมื่อคนตาย ดวงวิญญาณจากร่างไปเพียงชั่วคราว เพื่อเดินทางไปพบกับพระเจ้าในโลกหน้า แล้วจะกลับมาในวันหนึ่งข้างหน้า ทั้งนี้ เมื่อวิญญาณกลับมาแล้วก็ต้องมีร่างกายอยู่ และร่างที่จะอาศัยอยู่ได้ต้องเป็นร่างกายของตนเองเท่านั้น และด้วยความเชื่อนี้เองจึงทำให้เกิดวิธีการดูแลศพ หรือที่เรารู้จักกันอย่างดีกับการทำ "มัมมี่" (Mummy) เพื่อให้สภาพศพยังอยู่ในสภาพที่ดี ไม่เน่าเปื่อยนั่นเอง

 

3. การปรากฎตัวของเอเลี่ยน
ในทุกวันนี้กระแส "เอเลี่ยน" หรือมนุษย์ต่างดาว ก็ยังคงมีให้เห็นอยู่อย่างต่อเนื่อง แต่คุณรู้หรือไม่ว่า การปรากฎตัวของเอเลี่ยนมีให้เห็นมาแล้วตั้งแต่สมัยอียิปต์โบราณเลยทีเดียว สิ่งหนึ่งที่ยืนยันในเรื่องนี้ ก็มาจากภาพบนฝาผนังภายในสุสานในเมืองกิซ่า โดยหนึ่งในภาพบนฝาผนังนั้นมีการวาดภาพของเอเลี่ยนปะปนอยู่ด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ต้องใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจด้วย เพราะบางทีภาพ ๆ นี้ อาจจะเป็นเพียงแค่รูปของสิ่งของอื่น ๆ ที่มีลักษณะคล้ายกับเอเลี่ยนเท่านั้นเอง

4. ที่สุดแห่งการค้นพบ
อีกสิ่งหนึ่งที่น้อยคนนักจะนึกถึงและรู้จักเกี่ยวกับประวัติของอิยิปต์โบราณก็คือในเรื่องของการค้นพบที่ยิ่งใหญ่ เพราะนอกจากมหาพีระมิดต่าง ๆ แล้ว ข้อมูลอันล้ำค่าทางประวัติศาสตร์ที่ค้นพบกันนั้นก็คือ "เรือโซล่าร์" (Solar Boat) หรือเรือแห่งแสงอาทิตย์ที่เชื่อกันว่า จะเป็นพาหนะที่นำพาวิญญาณขององค์กษัตริย์ไปหาเทพเจ้าแห่งแสงอาทิตย์บนสวรรค์ได้ เรือโซล่าร์นี้สร้างขึ้นจากไม้มากกว่า 1,200 ชิ้น สันนิษฐานว่าสร้างตั้งแต่ 2500 ปีก่อนคริสตกาล และอาจจะเป็นเพียงเครื่องบูชาพระศพในสุสาน ไม่ได้นำไปใช้ล่องในแม่น้ำจริง ๆ แต่อย่างใด

5. อักษรภาพอียิปต์โบราณ
อักษรภาพอียิปต์โบราณหรือที่เรียกกันว่า "ฮีโรกริฟฟิค" (Hieroglyphs) ถือเป็นอีกสิ่งหนึ่งในความอัศจรรย์ที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ ความชำนาญทางศิลปหัตถกรรม งานช่าง และการทำหนังสือของชาวอียิปต์โบราณถือเป็นสิ่งที่น่าทึ่งมาก ๆ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อของพวกเขาที่มีอำนาจและอิทธิพลต่อพิธีกรรมและการดำรงชีวิตอย่างสูง สำหรับอักษรภาพอียิปต์โบราณนี้ เป็นภาพอักษรที่มักจะสลักเรื่องราวเกี่ยวกับองค์ฟาโรห์ ราชวงศ์ การเมืองการปกครอง และเรื่องราวทางศาสนา ซึ่งจะมีปรากฎให้เห็นอยู่ตามวิหารและสิ่งก่อสร้างทั้งหลาย โดยแต่ละภาพก็จะมีการสื่อความหมายที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งนี่เองจึงทำให้การค้นพบในครั้งแรก ๆ นั้น ก็สร้างความมึนงงให้เหล่านักสำรวจอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว

 

6. การตกแต่งภายในพีระมิด
นอกจากโครงสร้าง วัสดุ และวิธีการสร้างพีระมิด จะมีความอลังการงานสร้างอย่างยิ่งใหญ่มาก ๆ แล้ว ภายในของปิระมิดเองยังมีการตกแต่งอยู่อย่างสวยงามตามสมัยอีกด้วย สิ่งหนึ่งที่พบได้ภายในพีระมิดนั้นก็คือ เหล่าบรรดาอักษรภาพฮีโรกริฟฟิค อายุอานามกว่า 4,000 ปี ซึ่งช่วยให้พีระมิดที่ค้นพบกันนั้น กลายเป็นสถาปัตยกรรมอันล้ำค่าและมีอายุเก่าแก่มากที่สุดแห่งหนึ่งของโลกใบนี้

7. องค์ฟาโรห์กับการฝังทาสรับใช้
หลังจากการสิ้นพระชนม์ขององค์ฟาโรห์แล้ว เหล่าบรรดาข้าทาสบริวารของพระองค์ไม่ได้ถูกฆ่าหรือโดนฝังทั้งเป็นในสุสานขององค์ฟาโรห์อย่างที่เคยทราบ ๆ กันแต่อย่างใด เพราะมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ชิ้นหนึ่ง ได้กล่าวไว้ว่า องค์กษัตริย์ฟาโรห์องค์สุดท้ายทรงเล็งเห็นว่า ข้าทาสของพระองค์ยังสามารถทำประโยชน์อื่น ๆ ได้มากกว่าการถูกฆ่าหรือฝังไปอย่างเปล่าประโยชน์ และเพื่อไม่ให้เป็นการขัดต่อประเพณีที่มีการสืบต่อกันมาช้านาน พระองค์จึงทรงรับสั่งให้นำ "ชับติ" (Shabti) หรือรูปแกะสลักที่ทำจากหลากหลายวัสดุ ทั้ง ขี้ผึ้ง ไม้ ดินเหนียว หิน แก้ว ดินเผา และสัมฤทธิ์ โดยทำหน้าที่เหมือนคนรับใช้ลงไปฝังในสุสานแทนชีวิตของคนเป็น ๆ

8. เหล่าทาสคือผู้สร้างพีระมิด
เป็นที่ถกเถียงกันอยู่พอสมควร กับประเด็นที่ว่าด้วยความยิ่งใหญ่ของพีระมิดประกอบกับความที่เทคโนโลยีและหลักการทางวิศวกรรมต่าง ๆ ในสมัยนั้นยังไม่น่าจะเจริญเท่าที่ควร ใครคือผู้สร้างพีระมิดกันแน่ และใช้วิธีการใดในการขนย้ายก้อนหินที่มีน้ำหนักมาก ๆ ขึ้นที่สูงกันได้ ทั้งนี้ จากหลักฐานของนักประวัติศาสตร์ชาวกรีก ได้ระบุเอาไว้ในช่วงศตวรรษที่ 5 ก่อนคริสตกาลที่ว่า เหล่าบรรดาช่างฝีมืออียิปต์มากมายนับหมื่นนับแสนคน คือผู้ที่สร้างพีระมิดอันยิ่งใหญ่ตระการตา ไม่ใช่ทาสอย่างที่ในภาพยนตร์ออลลีวู้ดตีความหรือสร้างฉากให้เห็นกันก่อนหน้านี้แต่อย่างใด

9. ชาวอิสราเอลคือทาสของอียิปต์ในยุคนั้น
สิ่งที่เรา ๆ ท่าน ๆ ได้เคยเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติของอียิปต์นั้น หลัก ๆ ก็คือเรื่องของการสร้างพิระมิด องค์กษัตริย์ฟาโรห์ และอื่น ๆ อีกสารพัด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น หลายต่อหลายคนคงจะนึกกันไปว่า ทาสรับใช้คงจะเป็นชาวอียิปต์กันแน่ ๆ แต่แท้ที่จริงแล้ว เหล่าทาสรับใช้ต่างเป็นชาว "ฮิบรู" (Hebrew) หรือชาวอิสราเอลในปัจจุบันนั่นเอง ซึ่งจากคำกล่าวในคัมภีร์ไบเบิลนั้น ได้ระบุไว้ว่า ชาวฮิบรูได้ตกเป็นทาสของอียิปต์นับตั้งแต่ที่องค์กษัตริย์ทำการยึดดินแดนและอาณาจักรต่าง ๆ เข้ารวมกันเป็นอารยธรรมอียิปต์ ซึ่งนั้นทำให้ชาวฮิบรูต้องมีสถานะเป็นทาส และเป็นเบี้ยล่างให้กับอียิปต์ไปโดยปริยาย

10. คำสาปแช่งขององค์ฟาโรห์
เป็นที่เล่าลือกันว่า ผู้ใดก็ตามที่มาเปิดหลุมฟังพระศพขององค์ฟาโรห์ตุตันคามุน (Pharaoh Tutankhamun) จะต้องคำสาปที่นักบวชไอยคุปต์บรรจงสลักไว้ภายในสุสาน ซึ่งจะส่งผลให้เกิดอาถรรพ์การเสียชีวิตอย่างน่าพิศวงขึ้น เหมือนอย่างเช่นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ "ลอร์ด คาร์นาร์วอน" (Lord Carnarvon) กับคณะสำรวจของ "โฮเวิร์ด คาร์เตอร์" (Howard Carter) ที่เขาได้ว่าจ้างให้ทำการสำรวจค้นหาสุสานฟาโรห์ตุตันคามุน ซึ่งผลสุดท้ายแล้ว ทั้งหมดเสียชีวิตไปโดยที่แพทย์ไม่สามารถวินิจฉัยอาการได้เลย


ขอบคุณที่มา: http://deeps.tnews.co.th/contents/193600/
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
มารคัส's profile


โพสท์โดย: มารคัส
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
28 VOTES (4/5 จาก 7 คน)
VOTED: Betatia, Tabebuia, Dont sweat it, โสมม, แมวฮั่ว แมวขี้น้อยใจ
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
เงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟส 3 มาแน่! คนทั่วไปรับผ่านดิจิทัลวอลเล็ต กระตุ้นเศรษฐกิจปี 2568เคล็ดลับ บำรุงผิวหน้าหนาว แก้ปัญหา “ผิวแตก” ดูแลผิวให้ชุ่มชื้นตลอดวันโบสถ์เซนต์แมรี่แห่งไซออน, เอธิโอเปียชั่วขณะสุดท้ายของชีวิต หากถูกประหารด้วยกิโยติน เราจะรู้สึกอย่างไร?เพจดังเปิดภาพพระสงฆ์ ควงแขนผู้ชาย ชาว เน็ตวิจารณ์ยับ
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
เฮ! เงินไร่ละพันยังมาต่อเนื่อง! ชาวนารับเงินช่วยเหลือ ธ.ก.ส. กันอยู่หรือเปล่า? มาอัปเดตกันหน่อย!รีบมา! คืนนี้วันสุดท้ายแล้ว "ตำรวจตกน้ำ" ไวรัลสุดเสียวกาชาด 2567 หล่อ เปียก ฮา พุ่งกระจาย!
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ดูดวง เรื่องลึกลับ
ดวงรายวันประจำวันจันทร์ที่ 23 ธันวาคม 2567 สไตล์ครูเชฟรหัสชีวิต: วันแห่งความสมดุลและการเริ่มต้นใหม่ที่มั่นคงจอมขมังเวทย์ไทย หัวใส จับกระแส โกโกวา ใส่จิต เป็นกุมารี ออกให้เช่าบูชา4 ราศี รวยไม่หยุด เตรียมรับดาวใหญ่ที่มาพร้อมกับเงินก้อนใหญ่ปี 2568เตโอตีวากาน (Teotihuacan) กับตำนาน วันสิ้นโลก เมืองโบราณที่ไม่รู้ใครสร้าง
ตั้งกระทู้ใหม่