มีข้อมูลรองรับแล้วว่า “มีเงินเท่าไหร่ควรเอาไปทุ่มให้กับการท่องเที่ยวให้หมด”
ปัจจุบันไม่ใช่ว่าใครมีครบทุกอย่างในชีวิตแล้วจะเป็นผู้ชนะอีกต่อไป เพราะผู้ที่เปี่ยมล้นด้วยประสบการณ์ต่างหากที่มีความสุขมากกว่า ว่าแต่เราไม่ควรเก็บเงินเพื่อซื้อโทรศัพท์รุ่นใหม่ โทรทัศน์เครื่องใหม่ หรือรถคันใหม่อีกแล้วงั้นเหรอ? มีข้อมูลยืนยันว่าสิ่งที่ทำให้ความสุขของคนเรายั่งยืนมากที่สุดคือประสบการณ์ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยว การประกอบกิจกรรมกลางแจ้ง การเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ หรือแม้แต่การเยี่ยมชมนิทรรศการต่างๆ เราคิดว่าการซื้อโทรทัศน์เครื่องใหม่จะทำให้มีความสุขได้นานกว่าเนื่องจากโทรทัศน์มีอายุการใช้งานนานกว่าการล่องเรือไปเบอร์มิวด้านั่นเอง แต่ความจริงแล้วไม่ใช่แบบนั้น! หนึ่งในศัตรูที่ขัดขวางความสุขของเราคือการปรับตัว เราซื้อของเพื่อปรนเปรอความสุขของตัวเองแต่ความสุขเหล่านั้นก็อยู่ได้แค่เพียงชั่วคราวเท่านั้น สิ่งแปลกใหม่ทำให้เรารู้สึกตื่นเต้นในช่วงแรก แต่เมื่อเวลาผ่านไปและเราสามารถปรับตัวได้แล้วมันก็จะค่อยๆกลมกลืนเข้ากับสภาพแวดล้อมของเรา ขณะที่การท่องเที่ยวและประสบการณ์ต่างๆที่เรามีจะกลายเป็นส่วนหนึ่งในตัวตนของเรา
ลองคิดดูว่าสิ่งใดมีผลต่อตัวคุณมากกว่ากันระหว่างเกมวิดีโอที่คุณเล่นสมัยยังเด็กกับการท่องเที่ยวที่ประเทศกรีซกับครอบครัว? รู้ไหมว่าการท่องเที่ยวที่มีเรื่องราวอันน่าจดจำจะทำให้คุณกับพี่น้องหัวเราะได้ในยามที่นึกถึง ประสบการณ์ของคนเรานั้นมีคุณค่ามากมายยิ่งกว่าข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ แม้ว่าคุณจะมีความสุขจากการครอบครองสิ่งของเหล่านั้นแต่ไม่ช้าก็เร็วคุณก็ต้องแยกจากพวกมันอยู่ดี ในทางกลับกันประสบการณ์ชีวิตของคุณก็จะติดตัวคุณไปตลอดกาล
มนุษย์เป็นสัตว์สังคมสูงและความสัมพันธ์ในสังคมก็มีผลต่อระดับความสุขของเราอย่างมหาศาล สาเหตุหนึ่งที่ทำให้การซื้อประสบการณ์ชีวิตมีแนวโน้มว่าจะทำให้เรามีความสุขยั่งยืนกว่าคือเราจะมีความพร้อมและรู้จักเข้าสังคมกับผู้อื่นได้อย่างลึกซึ้งและกว้างขวางมากขึ้น ประสบการณ์จะสอนให้เรารู้จักว่าตัวเองเป็นใคร เชื่อมต่อเรากับบุคคลอื่น และทำให้เรามีความสุขอย่างยิ่งยวด ดังนั้นคุณจะมามัวรออะไรอยู่? หยิบกระเป๋าเงิน จองตั๋ว และมุ่งหน้าสู่สถานที่ในฝันของคุณ หรือลงทะเบียนเรียนทำอาหาร ไปเยี่ยมชมนิทรรศการใหม่ๆในพิพิธภัณฑ์ใกล้บ้าน เพียงเท่านี้ระดับความสุขของคุณก็น่าจะพุ่งล้นปรี่แล้ว
Blogger : YourTango
Source : huffingtonpost.com