“หนุ่ม” ตกตึก 7 ชั้นไม่ตาย จากหล่อกลายเป็นขี้เหร่ ออมเก็บเงินได้ 3 แสนอยากทุบหน้า

“หนุ่ม” ตกตึก 7 ชั้น ไม่ตายแต่หน้าแหลกละเอียด จากหล่อกลายเป็นขี้เหร่ อดออมเก็บเงินได้ 3 แสนอยากทุบหน้า วอนช่วยเหลือ จะขอผ่อนจ่ายทีหลัง

“หนุ่ม” ตกดึก 7 ชั้น โชคดีไม่ตาย แต่เหมือนตกนรก ใบหน้าผิดรูปจากหนุ่มหน้าตาดีกลายเป็นหนุ่มขี้เหร่ หายใจไม่ออก กินข้าวสำลักทางจมูก อ้าปากลำบาก อยากตาย แม่สุดสงสาร สู้เก็บเงินเพื่อลูกฝันพาไปทุบหน้าที่เกาหลี

กลายเป็นฝันร้ายชั่วข้ามคืนเลยทีเดียวสำหรับ “ณัฏชา บุญส่งกุศลศีล” วัย 22 ปี พร้อมมารดาได้ออกมาเปิดใจถึงชีวิตที่ผกผลัน หลังจากที่ณัฎชาตกตึกชั้น 7 เมื่อตอนอายุ 19 ปี ทำให้ชีวิตเปลี่ยนไปตลอดกาล เพราะถึงแม้ณัฎชาจะรอดตายอย่างปาฎิหาริย์แต่ก็เหมือนตายทั้งเป็น เพราะผลจากอุบัติทำให้กระดูกหน้าแตกละเอียดเป็นทราย กรามแตกทำให้อ้าปากไม่ได้มาก เสียงเปลี่ยน จมูกหัก ส่งผลให้โครงหน้าผิดรูป ใบหน้าสั้นลง จากหน้ายาวกลายเป็นหน้าเหลี่ยมกรามใหญ่ เบ้าตาลึก จากหนุ่มรูปหล่อหน้าตาดีกลายเป็นหนุ่มขี้เหร่ โดยเฉพาะจมูกมีปัญหาหายใจไม่สะดวก เกิดภาวะหายใจไม่ออกต้องพ่นยาทุกวัน ซึ่งหมอห้ามใช้ต่อเนื่องเพราะเป็นอันตรายแต่ไม่สามารถทำได้เพราะหายใจไม่ได้ เป็นหวัดไม่ได้เพราะจะยิ่งทำให้หายใจไม่ได้มากยิ่งขึ้น ถ้าเป็นหวัดมีน้ำมูกสั่งทางจมูกไม่ได้ ต้องกลืนลงปากและเอาออกทางปาก แม้แต่ทานข้าวยังสำลักออกทางจมูก

ปัจจุบันถึงแม้ว่าจะผ่านไป 3 ปีแล้ว แต่อาการผิดปกติต่างๆ ก็ยังเป็นอยู่ การหายใจไม่สะดวกส่งผลให้เลือดสูบฉีดเลี้ยงร่างกายไม่พอ ตอนนี้เริ่มมีผลเสียกับร่างกายทำให้เริ่มป่วยบ่อยร่างกายอ่อนแอ และนอกจากหน้าตาที่เปลี่ยนไปแล้ว การใช้ชีวิตของณัฎชาก็เปลี่ยนไป ที่ผ่านมาณัฎชาไม่กล้าเจอหน้าใคร หมดความมั่นใจ ไม่เข้าสังคม หลบหน้าเพื่อนๆ ไม่อยากมองกระจกเพราะรู้สึกเหมือนไม่ใช่ตัวเอง ท้อแท้สิ้นหวัง

เรื่องนี้สร้างความทุกข์ใจให้กับแม่ของณัฎชา มองเห็นหน้าลูกทีไรก็สงสารได้แต่ปลอบใจ และให้สัญญากับลูกว่า ถ้ายังไม่ตายจะหาเงินมาให้ลูกทำศัลยกรรมไปทุบหน้าที่เกาหลี แก้ไขรูปหน้าและซ่อมแซมระบบหายใจที่มีปัญหาไม่ให้ทรมาน
ทำให้ทุกวันนี้แม่เก็บเงินทุกบาททุกสตางค์ที่ได้มาจากการขายเสื้อผ้าทางอินเตอร์เน็ตมาเป็นทุนเพื่อให้ลูกไปทำศัลยกรรมให่ได้
ปัจจุบัณัฏชาอายุ 22 ปี แม่สาสารถเก็บหอมรอมริบได้ 3 แสน แต่ก็ยังไม่มากพอที่จะไปทำศัลยกรรม อย่าว่าแต่เกาหลี แม้แต่ศัลยกรรมเมืองไทยก็ต้องใช้เงินเป็นล้าน

ก็เลยตัดสินใจออกมาเปิดเผยเรื่องราวของลูกชายหวังจะได้รับความช่วยเหลือทำการผ่าตัดให้ โดยจะจ่ายเงินที่เก็บมา 3 แสนให้ และจะขายทองเพิ่ม และขอผ่อนจ่ายส่วนต่าง เพื่อให้ลูกมีชีวิตที่ดีกลับมา และมีแรงใจในการดำเนินชีวิตต่อไป “เหตุเกิดตอนน้องอาร์มอายุ 19 น้องไปงานวันเกิดเพื่อน ที่จัดที่คอนโดแถวราชพฤกษ์ ไปยืนคุยเล่นกับเพื่อนตรงหน้าต่างและหยอกล้อกัน ไม่ทราบยังไง พลัดตกหน้าต่างลงไปจากชั้น 7 ตกไปโดนกิ่งไม้ก่อนแล้วค่อยร่วงลงพื้น” คุณแม่ของณัฎชาเปิดใจถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ด้านณัฎชาเองก็เล่าถึงเหตุการณ์ในวันนั้นว่า…“ผมพลัดตกลงไป ตอนนั้นรู้สึกวูบไปแป๊ปเดียว ระหว่างที่ตัวกำลังลอยลงมาที่พื้นนั้นก็คิดว่าตายแน่ๆ ครับ คิดถึงหน้าพ่อแม่มาหมดเลยครับ คิดว่าไงก็ตายแน่ๆ ตอนถึงพื้นแล้วมันเจ็บทรมานมากๆ ผมรู้สึกตัวตลอดและก็นั่งจับแขนไว้ครับเพราะมันหัก แต่ยังไม่รู้ว่าหน้าจะเป็นมากขนาดนี้ครับ ตอนนั้นแค่เจ็บๆ รู้สึกตัวตลอดจนถึงโรงพยาบาลก็สลบไป เห็นคนอื่นบอกว่าหมอต้องปั้มหัวใจให้เลยครับ”

แม่รับไม่ได้คิดว่าลูกชายต้องตายแน่ๆ

“ตอนที่เพื่อนโทรมาบอกพี่ชายเขา พี่ชายก็ตะโกนบอกแม่ๆ น้องตกตีกนะ 7 ชั้นแบบตอนนั้นอ่อนเลยค่ะ คิดว่าไม่น่ารอด ยังไงก็ไม่รอด ไปถึงเห็นสภาพน้องเขา บอกกับตัวเองเลยไม่ไหวแล้วตอนที่ไปถึงโรงพยาบาล น้องเลือดออกไม่หยุด ออกทางปากพุ่งๆ ตลอดหมอเขาจะดูดเลือดออกตลอด หน้าเขานี่จะเต็มไปด้วยเลือด ตัวเขาก็เต็มไปด้วยเลือด เขาไม่รู้สึกแล้วค่ะตอนที่เลือดพุ่ง ก็ไปคอยปลุกเรียกๆ เขาตลอดคอยบอกเขาว่าสู้ๆ นะ ต้องไม่เป็นไร”

กระดูกหน้าแตกละเอียดเป็นทราย

“คุณหมอเก่งมาก หมอ-พยาบาลเกือบ 20 คนมารุมน้องอาร์มคนเดียวเลยรอดชีวิตมา อยู่โรงพยาบาลในตอนแรกเกือบเดือน และต้องเข้าๆ ออกๆ อีกเกือบ 2 เดือน หมอบอกว่ายังไงก็ต้องเสียโฉม เพราะกระดูกหน้าเขาละเอียดเป็นทรายเลยค่ะ กดลงไปนิ่มกระดูกละเอียดเป็นทรายเลย และคุณหมอบอกตอนนี้ยังทำอะไรไม่ได้นอกจากว่ารอให้กระดูกมันประสานกันเองก่อนแล้วค่อยมาว่ากัน ต้องดูรูปหน้าตอนมันหายก่อนแต่หมอบอกยังไงก็เสียโฉม ซึ่งกะโหลกสมองไม่เป็นไร เพราะเขาโดนแค่ช่วงนี้ซ้ายแขนเขาก็หักตอนนี้ใส่เหล็กอยู่ โดยเฉพาะมือนี่หักสามท่อนกระดูกละเอียดเลย มือนี่ละเอียดเลย หยิบจับอะไรไม่ค่อยได้ หยิบได้บ้างแต่ยกของหนักไม่ได้ แต่ก็ยังถือว่าดีขึ้นมากแล้วค่ะ เพราะตอนแรกหมอบอกว่า ถ้าโชคดีมือจะไม่รีบแต่ต้องหมั่นทำกายภาพ ซึ่งก็ให้น้องหมั่นทำตลอด มือก็เลยไม่ลีบ”

หายใจไม่ออกต้องพ่นยาตลอด กินอาหารลำบากเพราะฟันกรามแตกละเอียด กินข้าวก็สำลักออกทางจมูก

“ตอนที่ประสบอุบัติเหตุเขาจะหายใจเองไม่ได้ เพราะใบหน้าเขาแตกละเอียดหมดรวมถึงจมูกก็เลยทำให้หายไม่ได้ ต้องเจาะใส่เครื่องช่วยหายใจเป็นเดือน และต้องฝึกหายใจเองจนทำได้เขาเลยถอดให้ เพราะถ้าไม่สู้เขาก็ไม่ถอดให้ และพอจะต้องปิดคอเขาเลยฝึกให้หายใจทางจมูก ซึ่งมันก็มีปัญหาคือหายใจไม่ค่อยออก ปัจจุบันนี้ก็ยังหายใจไม่ค่อยออกต้องคอยกินยาขยายหลอดลม กินอาหารก็ไม่ค่อยได้ เพราะไม่มีฟัน กรามมันแตกละเอียด อ้าปากกว้างไม่ ได้ แม้แต่เสียงเขาก็เปลี่ยน เมื่อก่อนเขาจะเป็นคนที่เสียงชัดพูดชัด เดี๋ยวนี้จะพูดฟังไม่รู้เรื่อง”

ณัฎชา : “เวลาทานข้าวก็ลำบากครับ เพราะมันไม่มีฟันของที่ชอบก็ทานไม่ได้ ผมชอบกินมะม่วง ตอนนี้ก็ทานไม่ได้ มันเคี้ยวไม่ได้ ไม่มีฟัน อะไรที่แข็งๆจะทานไม่ได้ และเวลาทานก็มักจะสำลักออกทางจมูกเลย และต้องระมัดระวังไม่ให้ตัวเองเป็นหวัด เพราะเวลาเป็นหวัดจะมีน้ำมูกจะสั่งไม่ได้ต้องให้มันลงคอแล้วค่อยบ้วนออกเป็นเสลด”

แม่ : “เคยอยากจะพาเขาไปจัดฟัน แต่พอไปสอบถามเรื่องค่าใช้จ่ายมันก็เป็นแสนๆ ไม่มีเงินเลยไปลงชื่อที่ โรงพยาบาลจุฬาไว้ เขาบอกต้องรอคิวอีก 4 ปี ไม่รู้จะถึงเราหรือเปล่า ถ้ามีเงินเราก็ไปจัดเองได้เลย”

ปัจจุบันใบหน้าไร้ความรู้สึก จากหนุ่มหล่อกลายเป็นขี้เหร่

ณัฎชา : “หน้าผมตอนนี้ไม่รู้สึกครับ เหมือนเซลส์มันตายแล้วครับ หยิกอะไรก็ไม่รู้สึก”

แม่ : “หน้าเขาเปลียนไปเยอะเลยค่ะ ตาน้องจะเขนิดนึง ไม่เหมือนตากปกติ และจะมองแสงไม่ค่อยได้ เห็นหน้าเขาทีไรน้ำตาไหลทุกที เมื่อก่อนเขาหล่อมากไปไหนนี้แบบคนชมว่าหล่อ เมื่อก่อนเขาจะหล่อกว่าพี่ชายคนโตของเขา แต่เดี๋ยวนี้เขาบอกพี่หล่อกว่าละ และจะชอบน้อยใจตัวเอง มันเปลี่ยนไปเยอะมาก หน้าเขาเบี้ยวเลย หน้าหดสั้นลง เมื่อก่อนหน้ายาวเรียว”

ณัฎชา :  “เสียใจมาก มันเหมือนไม่ใช่ตัวเอง บอกกับตัวเองว่าสงสารแม่ เพราะแม่เสียใจกว่าผมอีก (น้ำตาคลอ) กว่าจะทำใจได้ก็เป็นปี ไม่อยากเจอใคร ไม่อยากออกจากบ้าน”

แม่ :         “แม่เลยบอกกับเขาว่า แม่สัญญากับตัวเองเลยว่า ถ้าแม่ไม่ตายก่อนจะเก็บเงินไปทำศัลยกรรมให้น้องอาร์ม (น้ำตาไหลสะอื้น) ให้กลับมาหล่อเหมือนเดิม แม่จะคอยบอกให้เขาสู้ๆ ก็ต้องสู้นะเพราะเรายังไม่ถึงฆาตก็ต้องสู้ไป และแม่สัญญาแม่ต้องทำให้ได้”

“ถึงตอนนี้เวลาจะผ่านไป 3 ปีแล้วแต่เห็นหน้าลูกแล้วก็ยังร้องไห้ตลอด บางคนจะบอกว่าเป็นแค่รูปลักษณ์ภายนอ รอดตายก็ดีนักหนาแล้ว แต่เราก็เป็นห่วงเรื่องระบบหายใจกับการกินมากกว่าค่ะ เพราะทุครั้งที่แม่บอกว่าอาร์มตั้งใจทำงานะจะได้มีเงินเก็บไว้กินเวลาที่แม่ตายไป เขาจะบอกว่าแม่ไม่ตายก่อนหรอก อาร์มจะตายก่อน (สะอื้นน้ำตาไหล)…เหมือนช่วงนี้อาการที่อยู่ข้างในจะเริ่มออกมา เดี๋ยวปวดหัว เจ็บหน้าอก คงเป็นผลจากการที่เขาหายใจไม่ออก ระบบในร่างกายก็เลยเริ่มรวน”

ฝันอยากจะพาลูกไปทุบหน้าที่เกาหลี สู้เก็บเงินและใช้จ่ายอย่างประหยัดจนมีเงิน 3 แสน

“ตอนนี้ปัญหาที่น่าเป็นห่วงคือ อาร์จะนอนตื่นมาหายใจไม่ออก ต้องพ่นยาขยายหลอดลม ซึ่งจริงๆ หมอไม่ให้ใช้ยาพ่นติดต่อกันเกิน 5 วัน แต่เขาไม่ไหว ไม่รู้จะทำยังไง เลยต้องพ่น เราเห็นสภาพลูกแล้วรับไม่ได้ เราเป็นแม่ก็อยากจะดูแลเขาให้เต็มที่ ตั้งแต่เกิดขึ้นก็เก็บเงินมาตลอดอยากจะพาเขาไปผ่าตัด ได้แต่โทรไปสอบถามเรื่องค่าใช้จ่ายไม่กล้าไปจริงจังซักทีเพราะมันแพงมากขอเก็บเงินก่อน เคยพูดกับเขาตลอด ถ้าแม่ถูกรางวัลที่ 1 ก็ดีจะพาไปเกาหลี ทำหน้าใหม่เลย เพราะทุกครั้งเห็นหน้าน้องน้ำตาจะไหล”

“เขาก็คงเครียดเหมือนกันเพราะเคยบอกแม่ว่า ถ้าแม่ไม่ไหว อาร์มไม่ทำหน้าแล้วอยู่แบบนี้ก็ได้ ก็เลยบอกเขาไปว่า  ถ้าแม่หาไม่ได้ แม่มีประกันชีวิต ถ้าแม่ตาย อาร์มเอาเงินนี้ไปทำหน้านะ อาร์มได้ 4 แสน อาร์มไปทำหน้าเลย ไม่อยากให้เขามีปมด้อย อยากให้มีชีวิตปกติไปไหนมาไหนมีความมั่นใจ เพราะกลุ่มเพื่อนเขามีแต่หน้าตาดีๆ เวลาถ่ายรูปแล้วตอนนี้เขาเหมือเป็นคนขี้เหร่ ทั้งที่เมื่อก่อนไม่ใช่ ตอนนี้เขาเลยไม่ชอบถ่ายรูป ไม่อยากไปเจอหน้าใคร”

ตอนนี้อดออมเก็บเงินได้ 3 แสนบาทแล้ว แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายในการทำศัลยกรรม วอนขอความช่วยเหลือและจะขอผ่อนจ่ายส่วนต่างในภายหลัง

“ตอนนี้ก็เก็บเงินได้ 3 แสนแล้ว ไม่กินไม่ใช่เลย เงินหามาได้เท่าไหร่ก็อยากจะเก็บไว้ให้เขา แต่เราก็กลัวว่าเราจะตายก่อน ก่อนตายอยากจะทำความฝันให้เป็นจริง อยากจะเห็นลูกมีความสุขใช้ชีวิตได้แบบปกติเหมือนเมื่อก่อน ก็เลยอยากจะขอความช่วยเหลือในการผ่าตัด และเราจะขอผ่อนจ่ายส่วนต่างที่นอกเหนือจาก 3 แสนในภายหลัง ก็ไม่รู้ว่าจะมีคุณหมอท่านใดหรือหน่วยงานใดจะเมตตาเข้ามาช่วยเหลือบ้าง เราไม่เอาของเขาฟรีนะ ยังไงก็ต้องผ่อนชำระให้ แต่ตอนนี้อยากจะให้ช่วยลูกให้เป็นปกติ หายใจได้สะดวกไม่ต้องทรมานแบบนี้”