"จิ๊มิ๊" มีน้ำ-กลิ่นไม่พึงประสงค์เหรอ?!! ที่แท้มันมีสาเหตุแบบนี้ มาดูวิธีแก้ไขกัน
คุณผู้หญิงหลายๆคนคงจะไม่มั่นใจในตัวเอง กับปัญหาบางอย่างตรงจิ๊มิ๊ของตัวเอง อย่างหลั่งน้ำที่ไม่ใช่น้ำหล่อลื่นยามฟิเจอร์ริ่ง หรือมีกลิ่นโชยออกมา!!!!
ปัญหาเรื่องน้ำ...
มีการกล่าวอ้างหลายครั้งเกี่ยวกับการหลั่งน้ำกามของผู้หญิง (โปรดอย่าสับสนกับการหลั่งน้ำหล่อลื่นของผู้หญิง การหลั่งน้ำกามเราหมายถึง การกระฉูดน้ำออกมาแบบผู้ชายครับ) ทว่าเรื่องนี้มักมีการเข้าใจผิด ว่าเป็นการปัสสาวะของผู้หญิงในระหว่างการมีเพศสัมพันธ์ มีการพบหลักฐานเมื่อไม่นานมานี้ ว่าระดับของสารประกอบกรดต่อมลูกหมาก (Prostatic Acid) เกลือฟอสฟอรัส (Phosphate) ถูกพบว่า มีปริมาณสูงในคนไข้หญิงที่อ้างว่าสามารถหลั่งน้ำกามได้
สารประกอบดังกล่าวนี้ มีระดับสูงในน้ำกามของผู้ชายอยู่แล้ว และมีจุดกำเนิดอยู่ในต่อมลูกหมากซึ่งเป็นแหล่งผลิตอสุจิ
นักวิจัยกลุ่มหนึ่งใช้วิธีการตรวจสอบทางกายวิภาควิทยาต่อประเด็นของสาร ประกอบ ที่เหมือนน้ำอสุจิในการหลั่งของผู้หญิงดังกล่าวนี้แล้ว พวกเขาเชื่อว่า ถ้าผู้หญิงหลั่งของเหลวทีไม่ใช่ปัสสาวะละก็ มันต้องมาจากที่ใดที่หนึ่งซึ่งไม่ใช่กระเพาะปัสสาวะ
โดยคิดกันว่า แหล่งที่มาของมันที่น่าจะเป็นมากที่สุด ก็คือ ต่อมข้างท่อปัสสาวะ (Paraurethral Glands) หรือที่เรียกกันว่า ต่อมสกีน (Skene’s Glands) นั่นเอง
จากการทดสอบด้วยการผ่าศพพิสูจน์ต่อมสกีนนี้ มีการพบสารต่างๆ ที่เหมือนกับที่พบในต่อมลูกหมาก เดี๋ยวนี้ผู้เชี่ยวชาญบางคนเรียกต่อมนี้ว่า ต่อมลูกหมากของผู้หญิง
ดังนั้นจึงดูเหมือนมีแนวโน้มสูงว่าจริงๆ แล้ว ผู้หญิงก็สามารถหลั่งน้ำกามได้เหมือนกัน แต่สาเหตุที่ทำให้เกิดกรณีแบบนี้นั้นคงหายากพอๆ กับการค้นหา G-Spot นั่นแหละครับ
อย่างไรก็ตาม ถ้าผู้ชายคนไหนเจอคู่รักที่หลั่งน้ำกามได้แบบนี้ ก็จะไม่ต้องแปลกใจอีกต่อไปว่า ทำไมวันนี้เราจึงทำเปื้อนได้มากมายขนาดนั้น เพราะมันไม่ใช่ของคุณคนเดียว ถือว่าเป็นความสามารถพิเศษเฉพาะตัวของเธอก็แล้วกัน และไม่มีใครเลียนแบบได้ด้วย
ส่วนคุณผู้หญิงที่มีความสามารถนี้ ก็จะไม่ต้องกังวลอีกต่อไปว่าเราเป็นคนผิดปกติหรือไม่ จนอาจกลายเป็นปมด้อย ด้วยความเข้าใจผิดว่า คุณฉี่แตกขณะมีเพศสัมพันธ์ไปโน่นเลย
คุณเป็นผู้หญิงปกติครับ เพียงแต่เป็นความปกติที่หายากเท่านั้นเอง น่าภูมิใจจะตายไป
ปัญหาเรื่องกลิ่น
มีอะไรบ้างไหมที่ส่งผลต่อ “กลิ่น” ของผู้หญิง?
เรื่องกลิ่นตัวของผู้หญิงเป็นปัญหาใหญ่สำหรับพวกเธอพอสมควร ไม่งั้นยาดับกลิ่นคงไม่ขายดิบขายดีอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้
โดยเฉพาะเรื่องกลิ่น “ข้างล่างนั่น” ผู้หญิงจะกังวลและให้ความใส่ใจเป็นพิเศษ
เพื่อนหญิงของภรรยาของเพื่อนคนหนึ่ง เคยบอกเธอว่าการกินสับปะรดจะทำให้จิ๋มหอม
“จริงหรอ อำอ๊ะป่าว” ภรรยาเพื่อนไม่อยากเชื่อ
“จริงมั้ง ไม่รู้สิ ฉันก็ได้ยินจากเพื่อนที่เป็นผู้หญิงกลางคืนอีกทีนึง” เธอก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน และไม่มีหลักฐานมากไปกว่านั้น
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ในเรื่องอันละเอียดอ่อนนี้ คนเราเชื่อกันอยู่แล้วว่า “คุณเป็นเช่นที่คุณกิน”
ดังนั้นสิ่งที่คุณใส่เข้าปากไปน่ะ คุณผู้หญิง มันสามารถส่งผลกระทบต่อกลิ่นและรสของ “น้องตุ้ย” ของคุณได้
อาหารที่กล่าวกันบ่อยว่ามีศักยภาพต่อสาเหตุแห่งปัญหา “ข้างล่าง” นั้น ก็ได้แก่ หน่อไม้ฝรั่ง (Asparagus) กระเทียม แกงเผ็ด และแน่นอน สะตอ ซึ่งเป็นอาหารโปรดของใครหลายคน โดยเฉพาะคนใต้
ทั้งนี้ก็เพราะอาหารที่มีกลิ่นฉุนเฉียวนั้นอุดมไปด้วยแร่กำมะถัน และกลิ่นของมันจะถูกขับออกมาจากต่อมเหงื่อ ซึ่งแพร่กระจายอยู่ใต้ผิวหนังทั่วร่างกาย ยิ่งในซอกหลืบซ่อนเร้น ก็จะยิ่งสะสมและส่งกลิ่นได้มากกว่าผิวหนังที่เปิดโล่งส่วนอื่น
แต่ก็เป็นกลิ่นชั่วคราวครับ ถ้าไม่อยากหลีกเลี่ยงอาหารรสจัด เพราะชอบมันก็ไม่เป็นไร อาบน้ำ ทำความสะอาดร่างกายทุกซอกทุกมุมด้วยน้ำยาเฉพาะทางของมันก็ช่วยลดกลิ่นอันไม่ พึงประสงค์ได้มาก
แต่พูดก็พูดเถอะ กลิ่นตัวตามธรรมชาติที่พอเหมาะของผู้หญิงนั้น มันเป็นเสน่ห์อันร้ายกาจต่อเพศชายเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นการกำจัดกลิ่นอย่างเกินพอดี อาจเป็นการทำลายเสน่ห์เสริมของคุณอย่างรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็เป็นได้
สำหรับผู้หญิงที่มีกลิ่นแรงจนถึงขนาด see bear อย่างถาวรนั้น ท่านว่าเป็นคนที่โชคไม่ค่อยดีนัก แก้ไขด้วยการเลือกกินอาหารก็แล้ว ชำระล้างร่างกายจนผิวอ่อนๆ แทบจะถลอกปอกเปิกก็แล้ว ใช้แป้งหรือน้ำหอมดับกลิ่นก็ยิ่งชวนอ้วกเข้าไปใหญ่
ทำยังไงๆ ก็ยัง see bear อยู่นั่นแหละ อย่างนี้น่าสงสารมากครับ
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนี้ มักจะแนะนำให้ผ่าตัดต่อมเหงื่อบริเวณที่ส่งกลิ่นรุนแรงดังกล่าว เพื่อขจัดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์อย่างยั่งยืน
เชื่อหมอเถอะครับ อย่าปล่อยให้มันเป็นปมด้อยอันน่ารังเกียจอีกต่อไปเลย