เรือรบผิวน้ำที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่มนุษย์ชาติเคยคิดจะสร้าง !!
เรือประจัญบานผิวน้ำที่ขนาดใหญ่ที่สุดในโลกที่มีการสร้างมาทุกๆคนคงรู้ดีว่าคือ เรือ ยามาโตะ ที่มีขนาดด้วยระวางขับน้ำ 72,800 ตันและปืนใหญ่ขนาดปากลำกล้อง 460 มิลลิเมตร (18 นิ้ว)
แต่ทว่า กองทัพจักรพรรดินาวีญี่ปุ่น มีแผนที่จะสร้างเรือประจัญบานที่มีขนาดใหญ่ยิ่งกว่าเรือประจัญบานยามาโตะ ซึ่งทรงพลังน่าเกรงยิ่งกว่าและถ้าสร้างเสร็จมันจะนำฝันร้ายมาสู่กองเรือและเมืองรอบชายฝั่งของฝ่ายสัมพันธมิตรอย่างแน่นอน ซึ่งแบบแปลนที่เห็นนี้ถูกปกปิดเป็นความลับมาตลอดสงครามโลกครั้งที่ 2 จนถึงเมื่อไม่กี่ปีมานี้พึ่งถูกเปิดเผยต่อสาธารณะชนในญี่ปุ่นเท่านั้น ในปีค.ศ.2005 วันครบรอบ 60 ปี ของการสิ้นสุดสงครามโลก แต่แทบไม่ได้รับความสนใจจากสาธารณะชน เพราะมันเหมือนเป็นการตอกลิ่มย่ำเข้าไปในจิตใจของชาวญี่ปุ่นที่เจ็บปวดจากผลของสงครามโลกครั้งที่ 2 ในครั้งนั้นและสาเหตุที่ทำให้มันแทบไม่เป็นที่รู้จักเลยก็เพราะเมื่อหลังจากที่แผนแบบนี้ถูกออกแบบแล้วเสร็จในปี ค.ศ.1941 เพื่อสานต่อจากเรือประจัญบานรุ่น A-150 นั้น ต่อมาในปีค.ศ.1944 ซึ่งเป็นปีเดียวกับที่โครงการได้รับความเห็นชอบจากองค์สมเด็จพระเจ้าจักรพรรดิ์นั้นแต่เกิดเหตุการไม่คาดฝันขึ้นที่มีผลกระทบอย่างสูงต่อโครงการนี้ก็คือ ความพ่ายแพ้ของกองทัพเรือจักรพรรดินาวีที่สมรภูมิแห่งมิดเวย์ 2-7 มิถุนายน 2485 ซึ่งกองทัพเรือญี่ปุ่นสูญเสียเรือบรรทุกเครื่องบินถึง5 ลำ อันมีผลให้โครงการต่อ เรือประจัญบานA-150i ถูกระงับในทันที หลังความพ่ายแพ้แก่กองทัพเรือสหรัฐฯ ในครั้งนั้นซึ่งก็รวมถึงแผนการต่อเรือประจัญบานชั้น ยามาโตะ ลำที่ 3, 4 และ 5 ด้วย โครงการเรือประจันบาน A-150 เริ่มต้นแค่เพียงการวางฐานรองรับกระดูกงูขนาดมหึมาเท่านั้นไม่ถึง1%ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย เพราะอาจมีผลต่อโฉมหน้าของสงครามเป็นอย่างมากหากแม้นว่า A-150i ถูกสร้างแล้วเสร็จ
A-150 i (super yamato)
ข้อมูลแบบแปลนดีไซด์ของ เรือประจัญบานรุ่น A-150i ของญี่ปุ่นที่ซึ่งเป็นรุ่นเสริมที่จะนำมาสร้างแทนรุ่นA-150 แบบแรก ติดอาวุธด้วยป้อมปืนหลักขนาด 20 นิ้ว (508 มิลลิเมตร) 4 แท่นๆละ 2 กระบอก ซึ่งจะเพิ่มจำนวนของป้อมปืนใหญ่หลักจากเดิม 3 เป็น 4 ป้อมของคลาสนี้ ในลำที่ 3 และ 4 โดยจะลดความเร็วสูงสุดลงจาก 30 น๊อตให้เหลือ 27 น๊อต เท่ากับ เรือประจัญบานยามาโต และนี้คือแบบแปลน ที่เขียนขึ้นเมื่อปี 1941 และถูกเก็บรักษาไว้ ที่ พิพิธภัณฑ์กองทัพเรือ กองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลของญี่ปุ่น
แผนสำหรับการสร้างเรือรบชั้น "ซูเปอร์ ยามาโตะ" ถูกเรียกว่า "Hull Number 798" และ "Hull Number 799" แต่โครงการถูกปฏิเสธไปในปี พ.ศ. 2485
Muteki Nippon Class
มูเทกิ นิปปอน : เรือประจัญบานยักษ์ ระวางขับน้ำปกติ 298,000 ตัน และระวางขับน้ำสูงสุด 355,000 ตัน (โอ้วแม่เจ้าหนัก 3 แสนกว่าตัน ) จึงทำให้มันเป็นอสูรกายแห่งท้องทะเลโดยแท้จริงที่จะนำความปราชัยสู่กองเรือฝ่ายสัมพันธมิตรและด้วยเกราะไททาเนียม หุ้มส่วนกราบเรือ หนาถึง 1,000 มม.(40นิ้ว) จึงทำให้ปืนใหญ่ของเรือข้าศึกไม่เป็นที่ระคายเคืองผิวแม้แต่น้อย พลังขับเคลื่อนอันมหาศาลจากเครื่องยนต์รุ่นใหม่ที่ผลิตขึ้นเป็นการเฉพาะ ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าเครื่องยนต์ของเรือประจัญบานยามาโต ถึง 3 เท่า จำนวน 6 เครื่อง/ใบพัดสามารถทำความเร็วได้มากกว่า 40 น็อต (เร็วเวอร์ๆในระดับเรือประจัญบาน)
กองเรือบรรทุกเครื่องบินเคลื่อนที่เร็วอย่าง USS ESSEX (CV-9) ของนาวีสหรัฐฯ คงหนีพ้นการไล่ล่าของเรือยักษ์ลำนี้ได้ยาก ซึ่งด้วยความเร็วขนาดนี้ มีผลทำให้สามารถหลบหลีกลูกระเบิดและตอร์ปิโดจากเครื่องบินข้าศึกได้อย่างคล่องแคล่วง่ายดาย
อาวุธสำคัญ
- ป้อมปืนใหญ่หลักแฝด 3 จำนวน 5 ป้อม ขนาด 15x510 ซม.(20.1นิ้ว)/ลำกล้องปืนขนาด 45 คาลิเบอร์
- ป้อมปืนใหญ่รองแฝด 2 จำนวน 34 ป้อม ขนาด 34x127 ซม. (5 นิ้ว)/ลำกล้องปืนขนาด 65 คาลิเบอร์
- ป้อมปืนต่อสู้อากาศยานแฝด 4 จำนวน 50 ป้อม ขนาด 25 มม. และ 40 มม.
อากาศยานประจำเรือ : เครื่องบินทิ้งระเบิด,เครื่องบินสอดแนม,เครื่องบินต่อต้านเรือดำน้ำ ทั้งหมดเป็นแบบติดโฟลต(float-ทุ่นลอย) มากกว่า 20 ลำ บนแท่นปล่อยเครื่องบิน 2 แท่นท้ายเรือ มีศูนย์ควบคุมการบินที่หอคอยวิทยุ
เรือบรรทุกเครื่องบิน คริยุ (IJN Kiryu)
แผนแบบเรือลำที่ 2 ใน Muteki Nippon Class เป็นลำน้องของ เรือประจัญบาน มูเทกิ นิปปอน ถ้าสร้างออกมาแล้วเสร็จในสมัยนั้น ประเทศญี่ปุ่นคงได้ครองแชมป์ถึง 2 ประเภทเลย นั้นก็คือ เรือประจัญบานใหญ่ที่สุดในโลก กับ เรือบรรทุกเครื่องบินใหญ่ที่สุดในโลก
เรือบรรทุกเครื่องบิน คริยุ (IJN Kiryu) ถูกออกแบบขึ้นจากโครงเรือประจัญบาน มูเทกิ นิปปอน ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ชนิดเดียวกับมูเทกิ นิปปอนจำนวน 6เครื่องยนต์ คาดว่าอาจจะทำความเร็วได้มากกว่ามูเทกิเรือต้นแบบที่มีความเร็วมากกว่า 40 น๊อต และรวมถึงหุ้มเกราะป้องกันหนาถึง 1000 มม. (40นิ้ว) ที่เรือบรรทุกเครื่องบิน ไม่เคยมีการสร้างมาก่อนพร้อมอาวุธป้องกันตัว
-ป้อมปืนใหญ่แบบแฝด 2 จำนวน 14 ป้อม ขนาด 28x127 ซม.(5 นิ้ว)/ลำกล้องปืนขนาด 65 คาลิเบอร์
- ป้อมปืนต่อสู้อากาศยานแบบแฝด 4 จำนวน 46 ป้อม ขนาด 25 มม. และ 40 มม.
- อากาศยานประจำเรือ:เครื่องบินประจันบาน,เครื่องบินทิ้งระเบิด,เครื่องบินสอดแนม,เครื่องบินต่อต้านเรือดำน้ำ
และที่สำคัญ สามารถบรรทุกเครื่องบินทิ้งระเบิดขนาดหนัก Mitsubishi G4M Betty และ Mitsubishi Ki-21 Sally
ซึ่งมีขนาดใกล้เคียงกับ B-24 Liberator ของสหรัฐฯ จึงทำให้มันเสมือนเป็นฐานทัพอากาศลอยน้ำเคลื่อนที่
Mitsubishi G4M Betty
การวิจัยและพัฒนาขยายพื้นที่เรือรบขนาดยักษ์ คริยุ นี้ทำให้มีชั้นเก็บเครื่องบินรบมากถึง 4-6 ชั้น จำนวนเครื่องบินรบที่ฐานทัพอากาศลอยน้ำลำนี้นำเข้าสู่สมรภูมิทางทะเล มีมากกว่า 200-300 ลำ ซึ่งสหรัฐฯอาจจะต้องใช้เรือบรรทุกเครื่องบินชั้น เอ็กเส็ก จำนวน 4-6 ลำ ในการต่อกรด้วยจำนวนเครื่องบินรบที่ทัดเทียม โดยทีอย่างน้อยสหรัฐฯจะไม่ตก
เป็นรอง
ภาพเปรียบเทียบขนาดเรือบรรทุกเครื่องบินยักษ์ Kiryu (บน) กับเรือ Shinano (ล่าง) ที่ได้สร้างเสร็จ และเข้าสู่สมรภูมิ
หากว่าไม่เกิดเหตุการณ์ความพ่ายแพ้ที่ ยุทธภูมิมิดเวย์ ของ กองทัพเรือจักรพรรดินาวีญี่ปุ่น แผนการสร้างเรือรบทั้งสองลำนี้ เรือบรรทุกเครื่องบินคริยุ(Kiryu) และ เรือประจัญบานมูเทกินิปปอน(Muteki Nippon)คงดำเนินการต่อไปและแล้วเสร็จในปี ค.ศ.1947 ซึ่งอาจจะพลิกโฉมหน้า ของสงครามทางทะเลระหว่าง ญี่ปุ่น และ สหรัฐอเมริกา ในอีกรูปแบบก็ได้ กองทัพเรืออาทิตย์อุทัย สั่งยกเลิกแผนการสร้างเรือรบขนาดยักษ์ทั้งสองลำนี้ ในปี ค.ศ.1944
เมื่อนำ เรือประจัญบานมูเทกินิปปอน มาเทียบขนาดกับ เรือประจัญบานยามาโต แล้วจึงเป็นที่มาของฉายา "อสูรกายแห่งท้องทะเล"