เรื่องราวความเป็นมาของ "องค์เทพพระพฤหัสบดี" ครูของเทวดาทั้งปวง
รูปหล่อโลหะลงรักปิดทอง นั่งประทับบนแท่นรูปกวาง พระหัตถ์ขวาถือดอกบัว พระหัตถ์ซ้ายถือพระขรรค์ นาม “องค์เทพพระพฤหัสบดี” ประดิษฐานอยู่ภายในศาลาจัตุรมุข หน้าหอประชุมคุรุสภา กระทรวงศึกษาธิการ ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์และศูนย์รวมจิตใจของครูบาอาจารย์ ด้วยศรัทธาว่า พระพฤหัสบดี คือเทพผู้ทรงความรู้ และครูของเทวดาทั้งปวง
เทพแห่งนักปราชญ์ปางนี้ ออกแบบโดยพระยาอนุมานราชธน ปราชญ์ด้านการศึกษาเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมศิลปากร จากความเชื่อว่าพระพฤหัสบดีเป็นครูของเหล่าเทวดา จึงยึดถือปฏิบัติกันสืบมาว่า ใครใคร่จะร่ำเรียนวิชาการใดๆ จะต้องเริ่มเรียนในวันพฤหัสบดีเป็นวันแรกเพราะเป็น วันครู
ศรัทธาที่มีต่อพระพฤหัสบดี ไม่ได้มีในแวดวงวิชาชีพครู และเป็นเทพประจำวันเกิดของคนเกิดวันพฤหัสบดีเท่านั้น แต่ยังเป็นเทพคุ้มครองดวงชะตาของผู้ที่เกิดในราศีธนูและราศีมีนอีกด้วย
ในโหราศาสตร์ไทยนั้น เชื่อว่าดาวพฤหัสฯคือ ดาวใหญ่ผู้เป็นใหญ่แห่งดาวนพเคราะห์ทั้งปวง มีเทพครองดาวคือ เทพพระพฤหัสบดี ถูกแทนด้วยสัญลักษณ์ ๕ (เลขห้าไทย) ถือเป็นดาวที่มีความสำคัญต่อดวงชะตา ด้วยเป็นดั่งเทพเจ้าแห่งความสุข ความสำเร็จ สติปัญญา ยศถาบรรดาศักดิ์ ไม่ว่าจะสถิตลัคนาราศีใด จะคุณแก่เจ้าดวงชะตาเสมอ
ในปีนี้ ดาวพฤหัสบดี จะเป็นดาวสุดท้ายที่โคจรโยกย้าย จากราศีสิงห์มาที่ราศีกันย์ในช่วงต้นเดือนสิงหาคม ในทางโหราศาสตร์เชื่อว่า จะส่งผลดีกับคนที่มีลัคนาสถิตย์อยู่ใน ราศีมีน ราศีมังกร ราศีกันย์ ว่ากันว่าจะหมดทุกข์หมดภัย ขณะที่ ราศีที่ได้รับผลในทางลบนั่นคือ ราศีเมษ 2 ราศีกุมภ์ และราศีตุลย์
คำแนะนำในการแก้ไขดวงชะตา จากโหรานั่นคือ ให้ใช้ชีวิตด้วยความไม่ประมาทหมั่นสร้างบุญกุศล และบริหารจัดการชีวิตด้วยความรอบคอบ ก็จะส่งเสริมให้ดวงชะตาดีขึ้น หรือบรรเทาเคราะห์ให้เบาบาง และหากต้องการบูชาพระพฤหัสบดีตามตำราระบุว่า ให้ใช้ของไหว้ เป็นสีในวรรณเหลืองหรือทอง จำนวน 5 หรือ 19อย่าง แต่หากไม่สามารถบูชาได้ มีคำแนะนำว่าให้ทำบุญไหว้พระปางสมาธิ ซึ่งถือเป็นพระประจำวันพฤหัสฯ ไม่ว่าจะเป็น หลวงพ่อโสธร พระพุทธสิหิงค์ ขอพรให้คุ้มครองชีวิต ในวาระแห่งการเปลี่ยนศักราชราศี
http://www.newsconnect.co.th/truth-proof/detail.php?episode=84