ค่าของคนอยู่ที่ผลของ "เงิน"
ค่าของคนอยู่ที่ผลของ "เงิน"
เปลี่ยนการทำงานเป็นการ "ทำเงิน"
ก้าวไปสู่การทำเงินไม่ใช่การ "ทำงาน"
อารัมภบท "ก่อนเขียน"
จากสำนวนที่ว่า "ค่าของคนอยู่ที่ผลของงาน" หลายคนคงจะปลาบปลื้มยินดีไปกับเนื้อความที่ว่านี้ เพราะเป็นสำนวนที่บรรพบุรุษไทย ให้การยอมรับ ปรับใช้ ยึดเป็นแม่แบบให้กับเด็กและเยาวชนไทย จนได้ดิบได้ดีกันไปถ้วนหน้า ซึ่งค่าของคนอยู่ที่ผลของงานนั้น ได้มุ่งเน้นให้คนส่วนใหญ่โฟกัสไปที่คำว่า "งาน" หมายถึงพฤติกรรมที่ทำให้คนดูมีคุณค่า มีราคา สมน้ำสมเนื้อคู่ควรกับคำว่า "คน"
ดังนั้นจะเห็นได้ว่าคนส่วนใหญ่ ทั้งในอดีตจนถึงปัจจุบัน ต่างก็ให้ความสำคัญกับการทำงาน เพราะถ้าเกิดว่าไม่ทำงาน หรือมีงานแต่ไม่ยอมทำ ก็เกรงว่าจะถูกชาวประชา ชาปแช่ง หมิ่นประณามเอาได้ ว่าเป็น "คน" ที่ดีแต่เปลือก ส่วนข้างในนั้นเป็นตัวอะไร? ก็ไม่รู้!!!
ด้วยเหตุนี้...ผู้คนส่วนใหญ่จึงเหมือนถูกสะกดจิตให้ง่วนอยู่กับการทำงาน เพื่อรักษาเสถียรภาพของความเป็นมนุษย์ และอาจจะรวมถึงการรักษาใบหน้าเข้าไปด้วย
โดยลืมคิดไปว่า...ความจริงของชีวิตนั้น มันไม่ได้สวยงามอย่างที่คิด แม้บางคนจะก้มหน้าก้มตาทำงานไปทั้งชีวิต แต่หาได้มีเงินเก็บ หรือเก็บเกี่ยวเอาความสุขระหว่างการทำงานได้อย่างครบถ้วน หลายครั้งที่งานทำให้คนมีปัญหา ทำให้คนหมดศรัทธาในตนเอง ทำให้เกิดความสับสนมึนงนกับการใช้ชีวิต เพราะไม่สามารถจะแจกจ่ายวันเวลาไปยังบุคคลอันเป็นที่รักได้ จนต้องทะเลาะเบาะแว้งกับคนในครอบครัว ด้วยเหตุที่ว่า "ฉันต้องทำงาน!!!" ทำให้ความสุขความสำเร็จ อันเป็นเป้าหมายของชีวิตมนุษย์ ต้องสูญหายไปพร้อมกับการทำงาน จนไม่สามารถจะหันกลับมาเยียวยาให้ดีเช่นเดิมได้
"งาน" ทำให้คุณค่าของความเป็นคนค่อยๆหายไป และทำให้ผู้เขียนเริ่มจะสับสนขึ้นมาแล้วว่า "ค่าของคนอยู่ที่ผลของงาน" จริงหรือเปล่า? หรืออยู่ที่อะไรกันแน่ เราลองมาช่วยกันวิเคราะห์เจาะลึกกันดู
คนสารพัดขี้
ติดตามอ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่
https://thestupidarticles.blogspot.com/
https://www.facebook.com/khonsarapadkee