เที่ยว “งานศิลป์ของแม่” ณ ศูนย์ศิลปาชีพบางไทรฯ 12-14 ส.ค. 59 นี้
เที่ยวชม “งานศิลป์ของแม่”
ตื่นตากับพลุประกอบดนตรีเฉลิมพระเกียรติ 8,499 นัด กลางเจ้าพระยา
ณ ศูนย์ศิลปาชีพบางไทรฯ 12-14 ส.ค.นี้
หยุดยาววันแม่สุดสัปดาห์ 12-14 สิงหาคมนี้ ศูนย์ศิลปาชีพบางไทรฯ จ.พระนครศรีอยุธยาเชิญชวนชาวไทยและนักท่องเที่ยวแต่งผ้าไทยร่วมกิจกรรมเทิดพระเกียรติและเพลิดเพลินกับงานเฉลิมฉลองในกิจกรรม “งานศิลป์ของแม่” และตื่นตากับพลุประกอบดนตรีเฉลิมพระเกียรติ“พรรษา 84 บารมีพระแม่ไทย" จำนวน 7 ชุด 8,499 นัดกลางแม่น้ำเจ้าพระยา พร้อมกิจกรรมการแสดงวัฒนธรรม ชม-ช้อป-ชิม แบบจุใจ
ศูนย์ศิลปาชีพ บางไทร ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนจัดกิจกรรมถวายพระพรและเทิดพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าฯ ภายใต้ธีมการเฉลิมฉลอง “งานศิลป์ของแม่” เทิดพระเกียรติ พระบรมราชินีนาถ องค์อัคราภิรักษ์ศิลปิน ผู้ทรงสร้างสรรค์งานศิลปะอันเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาติสืบไว้ให้แก่แผ่นดิน
กิจกรรมที่ทางศูนย์ศิลปาชีพฯ จัดขึ้นในปีนี้ ถือว่ามีความพิเศษมากโดย เปิดให้ประชาชนทั่วไปได้เข้าร่วมกิจกรรมโดยไม่เสียค่าผ่านประตูตลอดทั้ง 3 วัน โดยกิจกรรมที่คนไทยไม่ควรพลาด ได้แก่
กิจกรรมร่วมลงนามพระถวายพระพร ณ พระตำหนักทรงงาน เพื่อแสดงกตเวทิตา และแสดงความจงรักภักดี เยี่ยมชมนิทรรศการพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ การจัดแสดงนิทรรศการซึ่งได้รวบรวมผลงานจากศูนย์ศิลปาชีพบางไทร ที่เป็นจุดเริ่มต้นของงานมรดกทางวัฒนธรรมที่มาจากหลายแหล่งที่ก่อให้เกิดงานศิลป์ทั่วทั้งประเทศไทยขึ้นอย่างกว้างขวางตราบจนปัจจุบัน นอกจากนี้ยังมีการออกร้านผลิตภัณฑ์ 35 ปี ศิลปาชีพบางไทร ให้เลือกชมและเลือกซื้อสินค้าประเภทงานฝีมือหัตถกรรมชั้นดี ผลิตโดยช่างฝีมือที่ชำนาญงานจากศูนย์ศิลปาชีพฯ ทั้งนี้ในช่วงเย็นวันที่ 12 ส.ค.ทางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จะมีการจัดกิจกรรมพิธีถวายเครื่องราชสักการะ จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล และถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติ ณ ศูนย์ศิลปาชีพ บางไทร ด้วย
ส่วนอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญที่เน้นว่าไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง คือการแสดงพลุประกอบดนเตรีเฉลิมพระเกียรติชุดพิเศษยิ่งใหญ่ “พรรษา 84 บารมีพระแม่ไทย" แสดงโดยทีมงานพลุระดับโลกจากประเทศ
ญี่ปุ่น โดยเป็นการแสดงพลุประกอบดนตรี ทั้งหมด 7 ชุด 8,499 นัด จัดแสดง 12 นาที ให้ได้ชมกันเต็มตาบริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา ในช่วงเวลาประมาณ สองทุ่มของทุกวัน
โดยวินิจ เลิศรัตนชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฟรชแอร์ เฟสติวัล จำกัดหนึ่งในองค์กรหลักที่ร่วมจัดกิจกรรมในครั้งนี้ ออกมาเชิญชวนให้มาเที่ยวชมกันให้ได้ โดยเป็นพลุสุดอลังการที่มีสีสันและลวดลายใหม่ ที่สวยที่สุดและใหญ่ที่สุดที่เคยจุดในเมืองไทย โอบล้อมท้องฟ้าและท้องน้ำในรัศมี 300 เมตร พร้อมเพลงพระราชนิพนธ์เพื่อเฉลิมพระเกียรติเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา
นอกจากการแสดงพลุแล้วยังมีกิจกรรมวัฒนธรรมและการแสดงจัดเต็มจุใจตลอดทั้ง 3 วัน พบกับความบันเทิง สนุกสนานเพลิดเพลิน กับการแสดงที่หลากหลาย ทั้งในรูปแบบของการนำเสนอศิลปวัฒนธรรมไทยแบบย้อนยุคและสมัยใหม่ให้ผู้เข้าร่วมงานได้รับชม
โดยทางผู้จัดเชิญชวนให้ผู้เยี่ยมชมงานร่วมกิจกรรมประเพณีวัฒนธรรมในหมู่บ้านไทย 4 ภาคด้วย กิจกรรมก็มีทั้งพิธีผูกเสี่ยวของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประเพณีเก่าแก่และดีงามสืบทอดกันมายาวนานกว่า 100 ปีของชาวอีสาน พิธีผูกเสี่ยว คือ การใช้เส้นฝ้ายผูกข้อมือของคู่เสี่ยวแต่ละคน พร้อมทั้งให้โอวาท และอวยพรให้ทั้งคู่เป็นเพื่อนรักต่อกัน ซึ่งบางคู่อาจถึงขั้นมีการดื่มน้ำสาบาน เพื่อให้ทั้งสองคนมีความช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกัน รักกัน และสามัคคีกัน หรือใช้เป็นพิธีการในการต้อนรับเสมือนการรับขวัญแขกผู้มาเยือน
พิธีบวชนาคของภาคกลาง ถือเป็นพิธีกรรมที่มีความสำคัญและศักดิ์สิทธิ์มากสำหรับชาวไทยพุทธ จากความเชื่อที่ว่าเมื่อผู้ชายอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์แล้วควรอุปสมบทเป็นพระภิกษุในพุทธศาสนาเพื่อที่จะได้ ถูกอบรมให้เป็นให้เป็นคนที่มีจิตใจดีงาม และรู้จักบาปบุญคุณโทษ หรือเป็นการบวชเพื่อทดแทนบุญคุณบุพพการี โดยหนึ่งวันก่อนถึงวันบวชนั้นจะมีพิธีทำขวัญนาค ซึ่งจะมีการจำลองให้ได้ชมกันในงาน
พิธีขึ้นบ้านใหม่แบบภาคใต้ เป็นการสร้างสิริมงคลให้กับตัวบ้าน ให้เจ้าของบ้านและผู้อาศัยในบ้าน โดย หลังจากที่ได้ฤกษ์งามยามดีในการเข้าบ้านวันแรกแล้วหัวหน้าครอบครัวจะอัญเชิญพระพุทธรูปประจำบ้าน ไปประดิษฐานไว้ที่บูชา หรืออาจจะทำการนิมนต์พระ มาประพรมน้ำพระพุทธมนต์ ประกอบพิธีทางศาสนาพร้อมรับประทานอาหารร่วมกันโดยมีการจัดเตรียมประกอบอาหารตามแบบฉบับภาคใต้ที่อร่อยและรสชาติเผ็ดร้อน
พิธีแต่งงานแบบล้านนา อันมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยเริ่มต้นตั้งแต่การจัดเตรียมขันหมากไปจนถึง และพิธีการที่เป็นจุดเด่นตามแบบล้านนา คือ พิธีสืบชะตา เพื่อให้คู่บ่าวสาวมีชะตาที่ยืนยาว และมีความสุขในชีวิตคู่ และ “พิธีฮ้องขวัญ” หรือ “พิธีเรียกขวัญ” ผูกข้อมือ
นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงนาฏศิลป์แขนงต่างๆ เช่นการแสดงโขน และการแสดงพื้นบ้านที่ทุกวันนี้หาชมได้ยาก เช่น การแสดงลิเก ซึ่ง ถือว่าเป็นศิลปะการแสดงพื้นบ้านที่อยู่กับคนไทยมาช้านานตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาและได้ถูกพัฒนาและผสมผสานศิลปะต่าง ๆเรื่อยมาเพื่อให้เข้ากับยุคสมัยและท้องถิ่นต่างๆจนถึงปัจจุบัน เป็นการจัดแสดงโดย “ลิเก HD” (คณะลิเกคมคาย ลูกพ่อขุน) เป็นคณะลิเกคนรุ่นใหม่ที่รักและหลงใหลในศิลปะแขนงนี้ โดยศึกษาหาความรู้จากครูบาอาจารย์คนรุ่นเก่าที่เชียวชาญ
อีกการแสดงพิเศษที่หาชมได้ยาก เป็นการแสดงละครลิงจากคณะ “ศิษย์พระกาฬละครลิง" หรือ “ประกิตโชว์” โดยเป็นละครลิงเพียงคณะเดียวและคณะสุดท้ายในประเทศไทยที่สร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้กับผู้ชม ถือเป็นศิลปะพื้นบ้านที่มี่ชื่อเสียงโด่งดังมากในอดีตโดยนำลิงที่ได้รับการฝึกแล้วมาจัดแสดงพร้อมแต่งหน้า แต่งตัว เพื่อทำให้การแสดงให้แขกได้รับชม ส่วนมากจะจัดแสดงในช่วงงานเทศกาลต่างๆ โดยเฉพาะงานบุญสำคัญตามงานวัดต่างๆ
สำหรับกิจกรรมการแสดงดนตรีบนเวที จัดทั้ง 3 วัน อาทิ การแสดงดนตรีจากวงดุริยางค์ 3 เหล่าทัพ การแสดงจากศิลปินชื่อดังของประเทศไทย มีทั้ง บี้ สุกฤษฎิ์, ตั๊กแตน ชลลดา, และ แกงส้ม ธนทัต มาสลับกันแสดงให้รับชมในแต่ละวัน
นอกจากกิจกรรมวัฒนธรรมและบันเทิงแล้ว ผู้ร่วมงานยังจะได้เพลิดเพลินกับการเลือกซื้อสินค้าและเลือกชิมอาหารอร่อยถูกปาก ภายในงานจะได้พบกับร้านค้าต่างๆ กว่า 400 ร้านค้า ที่นำสินค้าที่มีคุณภาพ ราคาไม่แพงมาจัดให้ได้เลือกซื้อและเลือกอร่อย กัน 4 โซน
ทั้งการจัดตลาดน้ำบางไทร จำลองวิถีชีวิตของชาวไทยในอดีต ในรูปแบบของตลาดน้ำ หรือตลาดที่มีการค้าขายสินค้าอุปโภค บริโภคที่จำเป็นในการดำรงชีวิต โดยพ่อค้าแม่ค้าต่างๆ จะพายเรือมาเพื่อนำสินค้ามาขายตามแม่น้ำลำคลองในเขตชุมชน
งานวัดตลาดโบราณกรุงเก่า โดยมีการจำลองรูปแบบงานวัด พร้อมทั้งตลาดโบราณขึ้นมา พร้อมการตกแต่งสถานที่ด้วยเครื่องเล่นที่เหมือนเป็นสัญลักษณ์ของงานวัด คือ “ชิงช้าสวรรค์” นอกจากนี้ยังมีม้าหมุน ซุ้มเกมส์ต่างๆ พร้อมทั้งมหรสพที่เป็นศิลปะพื้นบ้านมาแสดง
พร้อมด้วยการจำหน่ายสินค้าธงฟ้าราคาประหยัดจากกระทรวงพาณิชย์ โดยนำสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพที่มีคุณภาพผ่านมาตรฐาน ในราคาประหยัด ซึ่งมีราคาถูกกว่าท้องตลาด 20-40% มาจัดจำหน่ายในงาน และยังมีสินค้าโอทอปและอาหารอร่อยจากโอทอปชวนชิม โดยนำสินค้าและอาหารคาวหวานประเภทต่างๆ ที่มีเอกลักษณ์ โดดเด่น และมีคุณภาพจากทั่วประเทศมาจำหน่ายให้ได้เลือกซื้อจับจ่ายและเลือกชิมกันอย่างเพลิดเพลิน
นอกจากกิจกรรมต่างๆ แล้ว ภายในศูนย์ศิลปาชีพบางไทรฯ ยังมีสถานที่ต่างๆ ให้ได้เยี่ยมชมและผ่อนคลาย มีทั้งสวนนก และวังปลา พร้อมเชิญชวนร่วมสักการะ 3 สิ่งศักดิ์สิทธิ์ อันได้แก่ พระโพธิสัตว์กวนอิมพันพระหัตถ์ ทหารหาญสมเด็จพระนเรศวร พระพิฆเนศวร ภายในศูนย์ศิลปาชีพบางไทร เพื่อเสริมสิริมงคลในเดือนมหามงคลด้วย
เรียกได้ว่ากิจกรรมครั้งนี้พลาดไม่ได้ อย่าลืมชวนกันแต่งผ้าไทยไปเที่ยวและร่วมกิจกรรม “งานศิลป์ของแม่” ที่ศูนย์ศิลปาชีพบางไทรฯ โดยเข้าชมได้ฟรีตลอดทั้ง 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 12-14 สิงหาคมนี้
สำหรับประชาชนทั่วไปที่สนใจเข้าร่วมชมงาน และกิจกรรมต่างๆ สามารถตรวจสอบรายละเอียดและตารางกิจกรรมได้ที่ www.ngansilpmae.com โดยคณะผู้จัดเชิญชวนร่วมสร้างปรากฏการณ์ “งานศิลป์ของแม่” ช่วยกันแชร์และกดไลค์ ที่ www.facebook.com/ngansilpmae/
***************************************************************
ฝากข่าว ประชาสัมพันธ์
ID Line : newdeligh
TEL. 088-832-759-9 และ 093-393-334-5
E-Mail : newdelight123@gmail.com
https://www.facebook.com/NewDelightMagazine/