69 เคล็ดลับที่ช่วยให้มีชีวิตที่ดีอย่างน่าอัศจรรย์ จากผู้สร้างแอปชื่อดัง !!

1. Say no! กับการประชุม 1 ชั่วโมง

ไม่เคยมีใครพูดว่า “ฉันรักการประชุม 1 ชั่วโมงสุดๆ ไปเลย” เพราะการประชุม 1 ชั่วโมงมักไม่ค่อยมีความจำเป็นสักเท่าไหร่ เพราะคุณสามารถวางแผนงานให้เสร็จได้ภายใน 30 นาที ลองคิดว่าเราต้องประชุม 1 ชั่วโมงหนึ่งไปเพื่ออะไรกัน การใช้เวลา 30 นาทีจะทำให้การประชุมของคุณกระชับได้ใจความและตรงประเด็นมากกว่า

2. เดินตามแบบ Steve Jobs

Steve Jobs มักจะทำการพบปะกับคนที่สำคัญที่สุดในขณะที่เขาเดิน นั่นก็เพราะการประชุมที่อยู่ในห้องประชุมอาจทำให้เกิดความรู้สึกเกร็งมากๆ อีกอย่างเราอาจได้มุมมองใหม่ๆ จากการพบปะผู้คนภายนอก การออกมาจากสิ่งแวดล้อมเดิมๆ ในทุกวันของพวกเขา อย่างที่สามคือ การเคลื่อนไหวร่างกายระหว่างการประชุมจะช่วยให้คุณได้คิดอย่างชัดเจนมากขึ้น ดังนั้นออกไปสูดอากาศด้านนอก และออกไปเดินเล่นกันเถอะ!

3. เห็นภาพความสำเร็จของคุณ

เรามาลองนึกภาพนักกีฬาบาสเกตบอลเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มแรกฝึกซ้อมโดยการโยนลูก 20 นาทีต่อวัน กลุ่มที่สองไม่ได้ฝึกซ้อมโยนลูกแต่ใช้วิธีจินตนาการตัวเองโยนลูก ส่วนกลุ่มสุดท้ายไม่ได้ซ้อมและก็ไม่ได้จินตนาการภาพตัวเองเลย ผลคือ…กลุ่มที่สองมีการพัฒนาขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และทำได้ดีพอๆ กับกลุ่มแรกเลยด้วย ซึ่งการทดลองนี้เกิดขึ้นจริงโดยนักจิตวิทยาชาวออสซี่ที่ชื่อ Alan Richardson

ดังนั้นหากคุณอยากได้งานใหม่ ให้นึกภาพตัวเองกำลังเตรียมตัวสำหรับการสัมภาษณ์ว่ามันกำลังผ่านไปได้ด้วยดี แล้วคุณก็กำลังเซ็นสัญญาเข้าทำงาน ลองจินตนาการถึงสิ่งที่คุณอยากเป็นในอนาคต

4. ฟังก่อนพูด

พยายามทำความเข้าใจก่อนเป็นอันดับแรกว่าคุณจะใช้คำพูดที่ดูฉลาดได้ยังไง หากคุณไม่ได้ใช้เวลาในการสังเกตว่ามีอะไรเกิดขึ้นก่อนหน้านี้

5. ควบคุมรายการที่คุณต้องทำในแต่ละวัน (To do list) ให้มีจำนวนเล็กน้อย

แทนการเขียนรายการยาวเหยียด ควรเน้นสิ่งที่สำคัญจริงๆ แค่ 3 รายการในแต่ละวัน จะช่วยให้คุณจัดลำดับความสำคัญของกิจกรรมได้ง่ายขึ้น และเป็นการประหยัดพลังงานและเวลาด้วย คุณอาจตั้งคำถามกับตัวเองว่า “วันนี้ฉันต้องการทำสิ่งนี้จริงๆ หรือเปล่า”

6. ตั้งเป้าหมาย

หากคุณไม่รู่ว่าจุดมุ่งหมายของคุณอยู่ที่ไหน คุณจะวางแผนเพื่อไปถึงที่นั่นได้อย่างไร ตั้งจุดหมายปลายทางไว้ และก้าวเดินอย่างมั่นใจกันเถอะ

7. ฉลองให้กับความก้าวหน้า

การเดินทางไปสู่จุดหมายของคุณอาจจะนาน ดังนั้นใช้เวลาระหว่างนั้นฉลองให้กับความสำเร็จที่เกิดขึ้นระหว่างทางอย่างเช่น การทานอาหารเย็นดีๆ การแตะมือแสดงความยินดีกับเพื่อนร่วมงาน หรือแม้แต่ตะโกนแสดงความดีใจบนด่านฟ้า เพราะความสำเร็จเป็นการเฉลิมฉลองที่มีค่า

8. หาคำตอบให้กับความสงสัยของคุณ

การหาคำตอบให้กับคำถามของตัวเองเป็นเหมือนเติมเชื้อเพลิงสำหรับแรงจูงใจของคุณ การหาเหตุผลอาจมีความสำคัญต่อการทำให้งานของคุณไปสู่อีกระดับหนึ่ง

9. ทำความเข้าใจจุดแข็งของตัวเองและเพิ่มเติมมัน

คุณอาจจะมีความสามารถพิเศษเดิมอยู่แล้ว หรือคุณจะฝึกฝนทักษะนั้นเพิ่มจนกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญ การโฟกัสที่การเพิ่มจุดแข็งของตัวเองให้โดดเด่นย่อมดีกว่าการพยายามทำทุกอย่างได้แบบกลางๆ ดังนั้นมาพัฒนาจุดแข็งกันเถอะ  

10. อย่าทำลายความสัมพันธ์

เวลาทำงานอาจมีเหตุการณ์ไม่พอใจกันบ้าง ผิดใจกัน แต่ทางที่ดีอย่าพูดไม่ดีเกี่ยวกับคนที่คุณไม่พอใจหรือเหตุการณ์ไม่ดีที่เกิดขึ้น เวลาที่คุณมีความรู้สึกแบบนี้เกิดขึ้นให้พยายามมองให้เป็นเรื่องตลก เรียนรู้จากมัน และเดินหน้าต่อไป เพราะคุณยังมีสิ่งที่ควรสนใจมากกว่าเรื่องพวกนี้

11. มองความท้าทายให้เป็นโอกาส

เปลี่ยนสิ่งที่กลัวให้กลายเป็นความท้าทายและเป็นโอกาสดีๆ ที่จะลงมือทำมัน และเมื่อคุณทำได้ คุณก็จะรู้สึกภาคภูมิใจในตัวเอง

12. ลดระยะเวลาการเดินทางของคุณ

การเดินทางไปทำงานโดยใช้เวลา 3 ชั่วโมงทุกวัน อาจทำให้คุณเกิดความเครียดและเบื่อหน่าย อีกทั้งยังเสียเวลาไปกับการนั่งอยู่บนรถนานๆ ด้วย แน่นอนว่ามันไม่เกิดประโยชน์เลย การทำงานใกล้กับที่พักของคุณ ที่คุณสามารถเดินไปทำงานได้ อาจดีกว่า ให้ลองนึกภาพตัวคุณใช้เวลา 3 ชั่วโมงไปกับการทำงานที่คุณรักดูนะ เวลาเป็นสิ่งมีค่า อย่าปล่อยให้มันสูญเปล่า

13. ทดลองทำก่อน

คุณจะไม่มีทางได้รู้จนกว่าคุณจะลองทำ หากคุณไม่ลองทำคุณก็จะมีความสงสัยอยู่แบบนั้น หากคุณอยากเริ่มต้น อยากเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อยากค้นหางานใหม่ คุณต้องทดลองทำดูก่อน แล้วสิ่งนั้นถึงเกิดขึ้น

14. ให้ความดีความชอบว่ามาจากที่ไหน

คนส่วนใหญ่ไม่สามารถทนต่อความดีความชอบที่พวกเขาไม่ได้ทำได้ คุณเองก็อย่าเป็นคนแบบนั้น คุณควรจดจำคนอื่นๆ เมื่อเขาทำสิ่งที่ดีหรือสร้างผลงานที่เจ๋งๆ มันเป็นการสร้างความเชื่อใจและไว้ใจในหมู่เพื่อนร่วมงาน และต่อไปอาจเป็นในบริษัท

15. ทุกคนที่คุณได้พบคือคนที่จะเปิดประตูให้คุณได้เจอกับโอกาสใหม่ๆ

ทำดีกับคนอื่นเอาไว้ คุณไม่มีทางรู้ได้เลยว่าคุณสามารถช่วยเหลือซึ่งกันและกันได้อย่างไรในอนาคต

16. ให้ข้อมูลเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจ

เมื่อเกิดความสงสัย ให้ดูที่ข้อมูลที่มีเป็นหลัก ว่าข้อมูลพวกนั้นกำลังบอกอะไรคุณ?

17. เชื่อในลางสังหรณ์ของคุณ

เมื่อมีข้อมูลที่จะทำงานน้อยหรือไม่มีเลย การตัดสินใจด้วยข้อมูลอาจไม่ค่อยมีประโยชน์เท่าไหร่นัก ในกรณีนี้แนะนำว่า ให้ทำตามลางสังหรณ์ของคุณ

18. ทำในสิ่งที่คุณรัก

19. อยู่แบบอ่อนน้อมถ่อมตน

คุณอาจทำบางอย่างได้ค่อนข้างดี แต่ก็อาจมีคนที่ทำได้ดีกว่าคุณ คุณไม่ได้ทำได้ดีไปหมดทุกอย่างหรอกนะ ดังนั้นคุณควรอยู่อย่างอ่อนน้อมถ่อมตน อยู่อย่างใฝ่รู้และทำตัวโง่เขลาอยู่เสมอ และหมั่นเรียนรู้จากคนรอบข้างหรือสิ่งอื่นๆ

20. ยอมรับความล้มเหลวและเรียนรู้จากมัน

ไม่ว่าปัญหาจะเล็กหรือใหญ่ ให้จำไว้ว่าวิธีการรับมือกับมันแทบไม่ต่างกันเลย เริ่มจากการรับรู้ปัญหาเมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว จากนั้นหาทางรับมือกับเหตุการณ์นั้น เรียนรู้มัน แล้วเริ่มปรับปรุงตัวเอง จากนั้นก็เดินหน้าต่อไป

21. โอบกอดผู้สนับสนุนของคุณ

ที่ผ่านมาหรือในอนาคต คุณจะได้เจอกับคนที่เชื่อมั่นในตัวคุณหรือผลงานของคุณ พวกเขาคอยให้กำลังใจคุณ ดังนั้นคุณควรน้อมรับสิ่งเหล่านั้น แม้ว่าผู้สนับสนุนของคุณจะมีเพียงคนเดียวนั่นก็คือ แม่ของคุณเองก็ตาม

22. ความซื่อสัตย์เป็นสิ่งสำคัญ

การสร้างความเชื่อใจเองก็เป็นสิ่งที่สำคัญ ดังนั้นควรทำทุกอย่างให้โปร่งใส และซื่อสัตย์

23. หาคนที่เป็นแรงบันดาลใจของคุณ เป็นแบบอย่างของคุณ