วิกกฤต 127 ชั่วโมงของ อารอน รอลสตัน
จะมีใครที่ต้องพบว่า อุบัติเหตุครั้งเดียวจะเปลี่ยนชีวิตตัวเองไปตลอดกาล
.
คงไม่มีใครคิดฝันว่า ชีวิตชายหนุ่มคนหนึ่งที่เลือกจะปฏิเสธการทำงานในบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Intel แล้วเลือกเดินทางไปท่องเที่ยวตามความฝันของตัวเองโดยเฉพาะการปีนป่ายเขาไปทั่ว ก่อนจะได้พบเหตุการณ์ที่ทำให้เขาได้รับรู้บทเรียนราคาแพงที่ต้องตายไปตลอดชีวิต
.
เรื่องราวชายที่ชื่อ อารอน รอลสตัน
.
อารอนเป็นหนุ่มไฮเปอร์หัวขบถที่ตัดสินใจเดินทางออกจากบ้านมุ่งหน้าไปปีนเขาด้วยความรู้สึกอยากจะผจญภัยอย่างเต็มเปี่ยม เขาเป็นเด็กที่เรียนดีและมีความฉลาดจนแม้แต่บริษัทคอมพิวเตอร์ยักษ์ใหญ่ยังต้องการตัวเขา แต่ทว่า วันหนึ่งระหว่างที่กำลังปีนเขาบลูจอห์นในยูท่าห์เพียงลำพังนั้นเกิดพลัดตกลงไปในร่องเขา แถมมือข้างหนึ่งของเขายังไปติดอยู่ในซอกหินอีกด้วย
.
“ตอนแรก ๆ ที่ติดอยู่ที่นั่น ผมตะโกนร้องขอความช่วยเหลือความช่วยเหลือสุดเสียง ซึ่งถือว่าเป็นความผิดพลาดมหันต์ เพราะเสียงที่เปล่งออกไปนั้นถูกหุบเขาดูดกลืนไปจนหมด”
.
อารอนกล่าว
.
“ผมเลยตัดสินใจเก็บเสียงไว้แล้วเก็บแรงทั้งหมดไว้หาทางออกจะเป็นเรื่องที่ดีกว่า”
.
อารอนพยายามมองหาทางที่จะหนีไปจากที่นี่พร้อมกับพยายามจะเอามือออกจากซอกหินอันนี้ด้วยทุกวิถีทาง แต่ออกไม่ได้เสียที แถมรู้สึกเจ็บมากขึ้นอีกด้วยนั่นเองทำให้เขาต้องตัดสินใจหลังจากติดอยู่ที่มา 5วันแล้ว
.
แถมเขายังไม่มีเครื่องชีพอื่น ๆ เหลืออยู่อีกแล้ว
.
นั่นทำให้เขาตัดสินใจได้ด้วยเหตุผลว่า เขาไม่อยากจะตายที่นี่ และอยากกลับไปหาครอบครัวของเขา เขาจึงตัดสินใจได้ว่า
.
เอาไงเอากันวะ
.
เขาตัดสินใจแล้วว่าจำเป็นต้องทำแม้จะเป็นสิ่งที่อาจจะเจ็บปวดในชีวิตของตัวเองก็ตาม
.
นั่นก็คือ การตัดแขนขวาตัวเองทิ้ง
.
แต่เพราะ ไม่มีอุปกรณ์ใด ๆ เลย นอกเสียจากมีดทู่ ๆ อันหนึ่งเท่านั้น แต่เขาก็ต้องทำแม้ว่ามันจะต้องทำให้เขาเจ็บเจียนตายเพียงใด เขาก็ต้องทนให้ได้
เขาค่อย ๆ บรรจงกรีดมีดทู่ ๆ นั้นลงบนแขนโดยที่ไม่มียาชา ไม่มีอะไร เป็นการผ่าสด ๆ ที่เขาบอกว่า อยากจะร้องไห้ออกมา หลายครั้งแล้วอยากจะหยุดลง ณ วินาทีนั้น แต่สุดท้ายเขาก็บอกตัวเองว่า สู้ต่อเพื่อให้มีชีวิตรอดกลับไป เขาค่อย ๆ ตัดเนื้อ เส้นเอ็น และกระดูกออก รวมแล้วเวลายี่สิบนาทีกว่าที่เขาจะตัดแขนตัวเองออกมาได้
.
“ผมยิ้มนะ ตอนนั้นน่ะที่ตัวเองสามารถตัดแขนออกมาได้”
.
แอรอนกล่าว
.
แต่ทุกอย่างยังไม่จบ เขาต้องปีนเขาด้วยมือข้างที่เหลือกลับไปด้วยความทุลักทุเล เลือดสด ๆ ไหลแทบตลอดเวลา แต่เขาก็พยายามอย่างเต็มที่จนกระทั่งปีนกลับขึ้นมาได้
.
ทั้งที่หน้าผาที่เขาปีนขึ้นมานั้นสูงถึง 65 ฟุตเลยทีเดียว
.
อารอนพยายามรวบรวมแรงที่เหลือลุกขึ้นแล้วเดินด้วยต่อไปอีกถึง 8 ไมล์ด้วยสภาพร่างกายที่เจ็บปวด แต่ก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความยินดีที่ท้ายที่สุดแล้ว เขาก็เอาชนะความหวาดกลัวของตัวเองมาได้สำเร็จ
.
โชคดีที่เขาได้รับการช่วยเหลือได้ทันที และเรื่องราวของกลายเป็นแรงบันดาลใจให้ใครหลายคนอย่ายอมแพ้กับชีวิต แม้จะต้องเสียอะไรสักอย่างไป แต่หากคุณกล้าที่จะเผชิญหน้ากับความหวาดกลัว คุณย่อมประสบความสำเร็จ
.
ปัจจุบัน อารอนยังคงปีนเขาต่อไป และใช้ชีวิตด้วยหลักว่า อย่าประมาทกับทุกสิ่ง
.
เรื่องราวของเขาได้รับการถ่ายทอดเป็นหนังสือ และกลายเป็นภาพยนตร์เรื่อง 127 Hour ในเวลาต่อมา